นายกฯ เยี่ยมดอนเมือง หวังจำนวนนักเที่ยวเพิ่มทุกปี ฝากโจทย์คมนาคม ดูเส้นทางเชื่อมต่อสนามบิน ประสานเอกชนพัฒนาสาธารณูปโภครองรับบริการ สร้างความเชื่อมั่นผู้โดยสาร “จารุพงศ์” ได้ทีชงใช้คลังสินค้าเป็นโกดังเก็บข้าวรับจำนำ เจ้าตัวโยนพาณิชย์ดู
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อเวลา 15.30 น.นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมดำเนินงาน และให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยาน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่จะเห็นในอนาคต คือ จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเทศไทย มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ถึงแม้ว่าจะประสบอุทกภัย อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการที่ภาครัฐ และหน่วยงานทุกภาคส่วน รวมถึงภาคเอกชน และประชาชน พร้อมใจกันก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก ขณะที่รอการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 3 จึงใช้ท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นสนามบินพาณิชย์ จึงเป็นโจทย์ที่ช่วยเหลือการดูแลและรองรับนักท่องเที่ยวทั้งภายใน และต่างประเทศ เป็นอย่างมาก สะท้อนกลับมาถึงการพัฒนาของประเทศไทย ทั้งนี้ ยืนยันว่า ในส่วนของรัฐบาล ถือเป็นนโยบายสำคัญในการเชื่อมต่อสนามบิน รวมถึงเส้นทางคมนาคม เช่น รถไฟฟ้า แอร์พอร์ตลิงก์ ที่จะเชื่อมไปยังสนามบินต่างๆ และเป็นการใช้สนามบินที่เรามีอยู่อย่างเต็มประสิทธิภาพในการดูแลรองรับผู้โดยสาร ทั้งใน และต่างประเทศ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ขอฝากโจทย์นี้ไว้กับกระทรวงคมนาคม และหวังว่าทางกระทรวงจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน รวมทั้งภาคเอกชนในการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ และพัฒนาส่วนต่างๆ ในการรองรับบริการให้กับผู้โดยสารให้มีความชื่นชม พอใจ และมีความสะดวกในการใช้บริการ รวมถึงความเชื่อมั่นในการดูแลมาตรการต่างๆ ในเรื่องของการป้องกันอุทกภัย และความสะอาดเหล่านี้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ ที่เดินทางมาเพื่อประกาศเจตนาในการร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ที่จะพัฒนาสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้เกิดความเชื่อมโยง เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่ออย่างไม่สิ้นสุดไปยังแต่ละภูมิภาคด้วย
มีรายงานว่า ระหว่างการตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานดอนเมือง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เสนอให้ใช้พื้นที่คลังสินค้า หรือคาร์โก้ 2 เป็นโกดังในการเก็บข้าวนาปรังจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขึ้นอยู่กับกระทรวงพาณิชย์ ในการดำเนินการ ซึ่งเท่าที่ทราบยังมีพื้นที่เพียงพอในการรองรับข้าวจากโครงการรับจำนำได้
จากนั้น นายจารุพงศ์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากนโยบายที่นายกฯ ให้ตรวจสอบสถานที่ในการเก็บข้าวนาปรัง ซึ่งโกดังเก็บข้าวที่มีต้องรอจังหวะในการระบาย ก.คมนาคม จึงพิจารณาเห็นว่าสนามบินดอนเมือง มีโกดังสินค้าของ ทอท.ในการดูแลของกรมศุลกากร พื้นที่ 30,000 ตร.ม.คาดว่า จะสามารถเก็บข้าวเปลือกได้ล้านตัน แต่ก่อนจะเก็บต้องทำให้ได้มาตรฐานเพื่อไม่ให้ข้าวเน่าเสีย ซึ่งทุกหน่วยราชการหากมีคลังสินค้า ก็ต้องช่วยเหลือกัน เพราะปัญหาเกษตรกรเป็นปัญหาระดับชาติ
“การที่โกดังไม่พอเก็บนั้น เนื่องจากมีข้าวรอบสองออกมา และจำเป็นต้องเก็บไว้เพื่อรอให้ราคาข้าวในตลาดสูง แล้วจึงปล่อยออกมา เป็นเหตุผลที่รัฐบาลตั้งโจทย์และทำการบ้าน หากปล่อยไปเลย เมื่อดีมานด์ ซัปพลาย เปลี่ยน ราคาก็เปลี่ยนไป แต่คงเก็บไม่นาน” นายจารุพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ จากกรณีที่กระทรวงคมนาคม เสนอนายกฯใช้พื้นที่สนามบินดอนเมือง เป็นพื้นที่เก็บข้าวที่รับจำนำจากเกษตรกรชั่วคราวนั้น สืบเนื่องจากการประชุม ครม.วันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพูดถึงโกดังเก็บข้าวที่เป็นสถานที่ราชการ ว่า มีที่ไหนบ้างสามารถรองรับการจำนำข้าวนาปรังรอบที่ 2 โดย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม ได้เสนอให้ใช้คลังสินค้าอาคารคาร์โก้ 2 ดอนเมือง เป็นสถานที่ในการจัดเก็บ ซึ่งมีพื้นที่ 3 หมื่นตารางเมตร จัดเก็บข้าวได้ประมาณ 1 ล้านตัน ในรูปแบบของข้าวเปลือก โดย นายจารุพงศ์ เตรียมนำแผนผังคาร์โก้ 2 เสนอให้กับนายกฯ โดยที่ทางองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) องค์การคลังสินค้า (อคส.) จะเป็นผู้พิจารณาดูความเหมาะสม เพราะมีเรื่องของการป้องกันความชื้นเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยรัฐบาลต้องเร่งหาพื้นที่รองรับก่อนที่ข้าวนาปรังจะออกมา และเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อการส่งออก