นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันผ่านรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชนว่า โครงการรับจำนำข้าวไม่มีปัญหาเรื่องโกดังกลาง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีเพียงแนวคิดเสนอให้ใช้พื้นที่กองทัพ แต่ไม่ได้หมายความว่า ข้าวกำลังจะไม่มีที่เก็บ
ด้านนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีสั่งให้ทุกกระทรวงตรวจสอบสถานที่ว่ามีที่ไหนเหมาะสม เพื่อใช้รองรับผลผลิตข้าว จากโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เสนอให้ใช้คลังสินค้าอาคารคาร์โก้ 2 ของสนามบินดอนเมือง ยิ่งไปกว่านั้นข้อสนับสนุนเพื่อหาที่เก็บข้าวอาจเป็นไปได้จริง เมื่อองค์การคลังสินค้า ประสาน กับการท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อขอเข้าไปสำรวจ คลังสินค้าดอนเมืองวันนี้ (15 ต.ค.) ซึ่งคลังสินค้าอาคารคาร์โก้ 2 ของสนามบินดอนเมือง มีขนาดพื้นที่ 31,400 ตารางเมตร สูงประมาณ 14 เมตร โดย 1 ตารางเมตร รองรับได้ 5 ตัน คาดว่า จะรองรับข้าวเปลือกได้ประมาณ 157,000 ตัน
เจ้าของโรงสีบางราย ระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลยืนยันไม่เป็นความจริง เพราะโรงสีหลายแห่งทั่วประเทศยังมีข้าวสาร และปลายข้าวที่ยังค้างส่งมอบจากโครงการรับจำนำข้าวนาปรังฤดูกาลผลิต 2554/2555 จำนวนมาก เช่น จ.นนทบุรี เพชรบุรี นครปฐม และ จ.ราชบุรี แม้ก่อนหน้าที่โรงสีบางแห่งได้ทยอยส่งมอบข้าวไปแล้ว แต่มีจำนวนไม่มากเนื่องจากโกดังกลางของรัฐทั้ง อ.ต.ก.จำนวน 105 แห่ง และ อคส.กว่า 300 แห่งเต็มหมดแล้ว ขณะที่โกดังใหม่ของเอกชนที่สร้างใหม่ที่สร้างเพิ่มอีกเกือบ 100 แห่ง ใช้เวลานานกว่าจะรองรับได้ ไม่ทันกับการรับจำนำข้าวรอบใหม่
ผู้ประกอบการโรงสี กล่าวว่า รัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ด้วยการระบายข้าวในสต๊อก เพื่อให้มีพื้นที่เหลือรองรับโครงการรับจำนำข้าวรอบใหม่ หรือหาโกดังใหม่ที่ไม่ใช้งานเพิ่มขึ้น แต่ต้องปรับปรุงให้เหมาะสมจัดเก็บข้าว เพราะหากทิ้งไว้นานจะทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ และขายไม่ได้ราคา
ขณะที่เจ้าของโรงสีบางแห่ง กล่าวว่า แม้โกดังเอกชนบางแห่งจะว่าง แต่ไม่สามารถนำข้าวไปฝากได้ เพราะกันพื้นที่ว่าง ให้โรงสีในท้องถิ่นเดียวกัน ส่วนโกดังเอกชนที่ยังว่าง ไม่สามารถใช้เป็นโกดังกลางเก็บข้าวได้ เพราะการเปิดโกดังแต่ละครั้ง ต้องจ่ายเงินกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้เปิดโกดังกระสอบละ 2 บาท จึงจะอนุมัติให้เปิดได้ และระบุว่าด้วยว่าปัญหานี้ ทำให้อาจมีคนบางกลุ่มหาผลประโยชน์จากการนำข้าวฝากในโกดังกลาง ด้วยวิธีการจัดคิวโรงสี นำข้าวฝากในโกดังกลาง ทั้งการเรียกรับเงิน และการเข้าไปถือหุ้นลม
ด้านนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีสั่งให้ทุกกระทรวงตรวจสอบสถานที่ว่ามีที่ไหนเหมาะสม เพื่อใช้รองรับผลผลิตข้าว จากโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เสนอให้ใช้คลังสินค้าอาคารคาร์โก้ 2 ของสนามบินดอนเมือง ยิ่งไปกว่านั้นข้อสนับสนุนเพื่อหาที่เก็บข้าวอาจเป็นไปได้จริง เมื่อองค์การคลังสินค้า ประสาน กับการท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อขอเข้าไปสำรวจ คลังสินค้าดอนเมืองวันนี้ (15 ต.ค.) ซึ่งคลังสินค้าอาคารคาร์โก้ 2 ของสนามบินดอนเมือง มีขนาดพื้นที่ 31,400 ตารางเมตร สูงประมาณ 14 เมตร โดย 1 ตารางเมตร รองรับได้ 5 ตัน คาดว่า จะรองรับข้าวเปลือกได้ประมาณ 157,000 ตัน
เจ้าของโรงสีบางราย ระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลยืนยันไม่เป็นความจริง เพราะโรงสีหลายแห่งทั่วประเทศยังมีข้าวสาร และปลายข้าวที่ยังค้างส่งมอบจากโครงการรับจำนำข้าวนาปรังฤดูกาลผลิต 2554/2555 จำนวนมาก เช่น จ.นนทบุรี เพชรบุรี นครปฐม และ จ.ราชบุรี แม้ก่อนหน้าที่โรงสีบางแห่งได้ทยอยส่งมอบข้าวไปแล้ว แต่มีจำนวนไม่มากเนื่องจากโกดังกลางของรัฐทั้ง อ.ต.ก.จำนวน 105 แห่ง และ อคส.กว่า 300 แห่งเต็มหมดแล้ว ขณะที่โกดังใหม่ของเอกชนที่สร้างใหม่ที่สร้างเพิ่มอีกเกือบ 100 แห่ง ใช้เวลานานกว่าจะรองรับได้ ไม่ทันกับการรับจำนำข้าวรอบใหม่
ผู้ประกอบการโรงสี กล่าวว่า รัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ด้วยการระบายข้าวในสต๊อก เพื่อให้มีพื้นที่เหลือรองรับโครงการรับจำนำข้าวรอบใหม่ หรือหาโกดังใหม่ที่ไม่ใช้งานเพิ่มขึ้น แต่ต้องปรับปรุงให้เหมาะสมจัดเก็บข้าว เพราะหากทิ้งไว้นานจะทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ และขายไม่ได้ราคา
ขณะที่เจ้าของโรงสีบางแห่ง กล่าวว่า แม้โกดังเอกชนบางแห่งจะว่าง แต่ไม่สามารถนำข้าวไปฝากได้ เพราะกันพื้นที่ว่าง ให้โรงสีในท้องถิ่นเดียวกัน ส่วนโกดังเอกชนที่ยังว่าง ไม่สามารถใช้เป็นโกดังกลางเก็บข้าวได้ เพราะการเปิดโกดังแต่ละครั้ง ต้องจ่ายเงินกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้เปิดโกดังกระสอบละ 2 บาท จึงจะอนุมัติให้เปิดได้ และระบุว่าด้วยว่าปัญหานี้ ทำให้อาจมีคนบางกลุ่มหาผลประโยชน์จากการนำข้าวฝากในโกดังกลาง ด้วยวิธีการจัดคิวโรงสี นำข้าวฝากในโกดังกลาง ทั้งการเรียกรับเงิน และการเข้าไปถือหุ้นลม