ประธาน ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ตำหนินายกฯ ขาดความเอาใจใส่รับจำนำข้าว ไม่แปลกใจปัญหาเยอะ งงคนไทยควรเชื่อ “ปู” หรือ “บุญทรง” จี้ตอบขายข้าว 7.33 ล้านตันไปไหนบ้าง มึนถ้าขายได้ทำไมต้องใช้ดอนเมืองเก็บ “ชวนนท์” แฉตัวเลขส่งออกข้าวแค่ 3.3 ล้านตันเอง แถมบริษัทใกล้ชิดรัฐ “แม้ว” ไม่เคยประมูลข้าวแต่ขายข้าวเอาชนะบิ๊กเนมได้ ปูดข้าวล้านตันล่องหนเวียนเทียนจำนำหรือเปล่า จี้ “เด็จพี่” เล่นลิเกไถ่โทษชาวลำสาลี หลังย้ายถุงทรายพ้นท่อ
วันนี้ (10 ต.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนขอตำหนิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ขาดความเอาใจใส่ต่อนโยบายสำคัญคือ โครงการจำนำข้าว ทั้งๆ ที่ดำรงสถานะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กนช.) แต่กลับไม่มีความเข้าใจในนโยบายการจำนำข้าว จึงไม่แปลกใจว่าเหตุใดโครงการนี้จึงมีปัญหาทั้งในแง่การบริหารจัดการโครงการ และการปฏิบัติ และยังเป็นนโยบายที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทุจริตเป็นจำนวนมากด้วย การที่นายกฯ ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับตัวเลขการส่งออกผิดๆ ถูกๆ และบอกว่าเป็นเอ็มโอยู แต่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ กลับบอกว่าเป็นสัญญาซื้อขาย ต้องถามว่าจะให้คนไทยเชื่อใครกันแน่ หรือเชื่อไม่ได้ทั้งคู่ ซึ่งการที่นายกฯ บอกว่าขายข้าวให้ประเทศอาเซียนนั้น ตนยืนยันว่ามี 2 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งทั้งสองประเทศได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้ซื้อข้าวจากไทย ดังนั้นนายกฯ จึงควรมีข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่านี้ และการที่บอกว่าขายข้าวในลักษณะรัฐต่อรัฐได้ 7.33 ล้านตันใน 4 ประเทศ แต่กลับบอกว่าไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าขายให้ประเทศใดไปบ้างเพราะเป็นความลับนั้น ถือว่าฟังไม่ขึ้น เพราะรัฐบาลที่ผ่านๆ มาเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเป็นความลับ ทั้งนี้ขอตั้งคำถามไปถึงรัฐบาล 4 ข้อ คือ 1. การขายข้าว 7.33 ล้านตันขายไปที่ไหน และเป็นสัญญาซื้อขาย หรือเอ็มโอยู 2. ถ้าซื้อขายในลักษณะรัฐต่อรัฐ เงินที่ได้ไปอยู่ที่ไหน 3. ตัวเลขปลายทางในการส่งออกข้าวไปอยู่ที่ใด และ 4. หากขายข้าวได้ 7.33 ล้านตันจริง ทำไมรัฐบาลจึงต้องวิ่งหาโกดังเก็บข้าว โดยเฉพาะจะใช้ที่ดอนเมืองเป็นสถานที่เก็บ
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกข้าวขาวของประเทศไทยที่มีการรับจำนำมากสุดส่งออกได้เพียง 3.295 ล้านตันและตัวเลขส่งออกในเดือนสิงหาคม 5.4 แสนตัน และเป็นตัวเลขการส่งออกของภาคเอกชนทั้งสิ้น ดังนั้นตัวเลข 8 ล้านตันที่นายกฯ และ รมว.พาณิชย์ระบุจึงเป็นไปไม่ได้ เป็นการโกหกสีขาวหรือสารพัดสีของรัฐบาล ทั้งนี้ขอตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทเอกชนที่ขายข้าวได้มากที่สุดคือบริษัทใกล้ชิดรัฐบาลตั้งแต่สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยสามารถเอาชนะสามยักษ์ใหญ่แห่งวงการข้าวไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ทั้งที่บริษัทดังกล่าวไม่เคยประมูลข้าวจากรัฐบาลเลย จึงไม่แน่ใจว่าเอาข้าวที่ไหนไปส่งออก โดยก่อนหน้านี้มีข่าวเบิกข้าวจากองค์การคลังสินค้าไป 1 ล้านตันแต่ล่องหนไป ข้าวจำนวนนี้หรือเปล่าที่ถูกเวียนเทียนจำนำ และลักลอบส่งออกโดยบริษัทที่ใกล้ชิดของรัฐบาล ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตว่ามีการใช่ช่องทางนี้ทุจริต โดยเอาคำว่าจีทูจีมาบังหน้า แต่เป็นการแอบลักลอบเอาข้าวให้พรรคพวกไปขายในราคาขาดทุน
นอกจากนี้ นายชวนนท์ยังเรียกร้องให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทย์ และประธาน กบอ. รวมทั้งคณะของนายพร้อมพงศ์นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางไปยังแยกลำสาลีที่มีการไปนำถุงทรายออกจากท่อระบายน้ำ ทั้งที่เป็นระบบล้อมปิดซึ่งเป็นวิธีการระบายน้ำที่อารยประเทศใช้ รวมถึงได้รับคำยืนยันจากนักวิชาการและนายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน แล้วว่าเป็นเทคนิคในการระบายน้ำที่ใช้กันทั่วไปไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ดังนั้น บุคคลทั้งหมดที่ไปเอาถุงทรายออกและกล่าวหา กทม.ควรจะเดินทางกลับไปที่จุดเดิมเพื่อกล่าวคำขอโทษกับประชาชน หลังจากได้สร้างความเสียหายจากการเล่นจำอวดแต่ทำให้คน กทม.อยู่บนความกังวล และขอเรียกร้องให้นายพร้อมพงศ์ไถ่โทษด้วยการแสดงลิเกหน้าท่อระบายน้ำในวันอาทิตย์นี้เพื่อไถ่บาปด้วยการสร้างความเพลิดเพลินใจให้คนกรุงเทพฯ ที่ต้องทุกข์ทรมานกับความกังวลในเรื่องน้ำท่วม