“ยงยุทธ” พังเพราะบริวาร “ไอ้หนุ่มหัวหลิม” ตัวแสบ

ผ่าประเด็นร้อน

ในที่สุดทนแรงเสียดทานไม่ไหว แต่จะเป็นภายนอกหรือภายในมากกว่ากัน ต้องไปถามใจ “ยงุยทธ วิชัยดิษฐ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย คนแก่หัวขาวมาดสุขุม...

หลังยืดเยื้อเรื้อรังมาราวสัปดาห์เต็มๆ จากกรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์อันฉาวโฉ่ ลือลั่น ที่ “ยงยุทธ” ไปติดบ่วงติดพันสมัยนั่งเป็นรองปลัด เซ็นอนุมัติที่ธรณีสงฆ์ ย้อนศรมาเล่นงานในวัย 70 ปี

“ยงยุทธ” ชั่งใจอยู่นานว่าจะตัดสินใจดันทุรังอยู่ในตำแหน่งต่อไป หรือจะสละเก้าอี้ตามแรงกดดัน ตลอดทั้งสัปดาห์ก็ได้แต่วิ่งหาที่ปรึกษาปัญหาหัวใจ แต่ไม่รู้ว่าที่ปรึกษาบางคนหวังดีประสงค์ร้ายหรือเปล่า จึงแนะนำให้เสียสละ ทำนองว่า “ตัดอวัยวะรักษาชีวิต”

รู้กันดีว่าตำแหน่งที่ “ยงยุทธ” นั่งทับอยู่ มันบิ๊กเบิ้ม เย้ายวนใครต่อใครหลายคนอยากได้มาครอบครอง จึงทั้งผลักทั้งดัน ให้ “ยงยุทธ” ย้ายก้นออกจากรองนายกฯ และ มท.1 อาศัยข้ออ้างเรื่องความสง่างามทางการเมือง และความอยู่รอดของรัฐบาล แทบไม่มีใครบอกให้ “อยู่ต่อ”

ใช่ว่าขบวนการบีบ “ยงยุทธ” เพิ่งจะเกิดขึ้น มันมีมานานแล้ว แต่คราวนี้จังหวะพอดิบพอดีประจวบเหมาะกับเรื่องฉาวโฉ่ย้อนศรกลับมาเล่นงาน จนเป็นประเด็นลุกลาม จึงเข้าทางพวกกระสันอยากได้ตำแหน่ง เดินเกมใช้เลื่อยไฟฟ้า เลื่อยขาเก้าอี้เต็มเหนี่ยวทันที

“ยงยุทธ” เองก็รู้เกมชั่วร้ายนี้ดี แต่ยืนต้านกระแสลำพังไม่ไหว ด้วยความเป็นคนที่ไม่มีพวกพ้อง เจอขาใหญ่ ขาเก๋า คนกันเองแท็กทีมกันบีบแบบนี้ก็ไปไม่เป็น จะทู่ซี้อยู่ต่อก็หน้าไม่หนาพอ ลึกๆ ก็กังวลว่ารัฐบาลและพรรคต้นสังกัดต้องจบเห่ไปด้วย

แต่ไอ้เรื่องที่อวดอ้างยกยอกันว่า ลาออกเพื่อแสดงสปิริต รักษาจริยธรรมทางการเมือง ไม่มีใครเชื่อหรอก เป็นเพียงนิยายหลอกเด็กที่พวกสมุนลิ่วล้อพรรคเพื่อไทย จะหยิบมาพูดชมกันเองได้เรื่อยไปอย่างไม่กระดากปาก

อย่างไรก็ตาม คิดไปคิดมาก็น่าสงสารชะตากรรม “ยงยุทธ” ถูกชักใยมาตลอด เป็นหัวหน้าพรรคหุ่นเชิด สั่งให้ทำอะไรก็ทำ จนคนในวงการเมืองมองเป็นตัวตลก เคยแม้แต่ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดทางให้ “โกวิท วัฒนะ” คนที่ “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหลบหนีคดีชี้ตัวมา แต่สุดท้ายก็ต้องหวนกลับมารับตำแหน่งแบบงงๆ เพราะ “โกวิท” ไม่เอา

ถือเป็นสมุนชั้นเลิศ เป็นลูกน้องที่ภักดีของนายใหญ่อย่างแท้จริง!!

กระนั้นหากมองในแง่ของการทำงานแล้ว “ยงยุทธ” ถูกค่อนขอดตั้งคำถามตลอดมาว่าเป็น “ของจริง” หรือไม่ ตลอดทั้งชีวิตรับราชการเป็นลูกหม้อกระทรวงมหาดไทย เมื่อมาเป็นรัฐมนตรี ก็ทำได้ไม่ดีเท่ากับดูแลงานในกระทรวงคลองหลอดที่คุ้นเคย แต่ปรากฏว่าภาพที่ปรากฏไม่เป็นโล้เป็นพายเท่าที่ควร ผลงานไม่ออก คนในพรรคด้วยกันเองมองว่า “เสียของ”

ต่างจากสมัยพรรคภูมิใจไทย ได้คุมกระทรวงนี้ สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง สร้างเครือข่ายอำมหิตเป็นใยแมงมุม คนในพรรคเพื่อไทยเห็นแล้วอยากให้ “ยงยุทธ” ใช้วิชามารแบบนั้นบ้าง แต่สุดท้ายไม่มีอะไรในกอไผ่ เงียบกริบ

ไม่รู้ว่าด้วยความใจดี เกรงใจข้าราชการมากเกินไปหรือเปล่า จึงบริหารงานกระทรวงมหาดไทยแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ หนำซ้ำคนยังนินทาว่า “ยงยุทธ” ถึงจะเป็นเสนาบดีชั้นผู้ใหญ่แล้วก็ยังสลัดไม่หลุดจากการครอบงำของบรรดาขาใหญ่ สารพัดเจ๊ “เจ๊หน่อย” - “เจ๊แดง” ในฐานะลูกพี่ใหม่ ลูกพี่เก่า เข้ามาล้วงลูก ล้วงตับกันมันมือ โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายต่างๆ เด็กเจ๊-เด็กเฮีย เต็มไปหมด

ยังไม่นับคนใกล้ชิดที่นินทากันให้แซ่ดทั้งกระทรวงว่า บริวารหัวแก้วหัวแหวน “ไอ้หนุ่มหัวหลิม” จับมือกับ “ตุ๊ข้าวมันไก่” เล่นเกมสวมบทเป็นนายหน้าค้าตำแหน่งกับเขาด้วย ไม่รู้ว่า มีใครรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือเปล่า

ไหนจะมีพวกเครือข่ายคนเสื้อแดงที่เข้ามายุ่มย่ามเต็มกระทรวงคลองหลอด เข้ามาเป็นที่ปรึกษา เลขานุการรัฐมนตรี กันหน้าสลอน ข้าราชการส่ายหัวเอือมระอากับพฤติกรรมกร่างกร้าว ล้วงลูกโยกย้ายข้าราชการ พร้อมรายการชักหัวคิวกินเปอร์เซ็นต์ ที่เป็นเชื้อร้ายลามไปทุกกระทรวง ในรัฐบาลชุดนี้

เหล่านี้ทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมของ “ยงยุทธ” มัวหมอง ไม่มีผลงานโดดเด่น “ยงยุทธ” เสื่อมเพราะบริวารโดยแท้

หรือว่ามันเป็นโครงสร้างที่พรรคเพื่อไทยวางกันไว้ให้มันออกมาในรูปนี้ ไม่ต่างจากกระทรวงใหญ่บางกระทรวง ที่เปิดช่องให้มากอบโกยกันอย่างสนุกสนาน บนความรำคาญของประชาชน น่าสนใจว่าถ้าข่าวคราวการทุจริต กินหัวคิว วิ่งเต้นซื้อตำแหน่งยังบานเป็นดอกเห็ดเช่นนี้ ไอ้ที่ฝันว่ารัฐบาลจะอยู่ยาวนาน 4 ปี อาจต้องเอวังก่อนคาดคิด

อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่าการลาออกของ “ยงยุทธ” ไม่มีเสียงทัดทานจาก “ทักษิณ” สักแอะ คนวงในจับสัญญาณนายใหญ่ได้ว่า ไม่ได้อาลัยอาวรณ์ “ยงยุทธ” ซ้ำยังมองว่าถึงเวลาที่สมบัติจะต้องผลัดกันชม ตามสไตล์ซีอีโอแม้วจอมโกง

จึงปฏิบัติการสหบาทาจน “ยงยุทธ” ต้องกระเด็นตกเก้าอี้อย่างบอบช้ำ รวดร้าว “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” โดยแท้ “ยงยุทธ” ชั่วโมงนี้ นายใหญ่ก็ให้ค่าแค่อะไหล่ชิ้นหนึ่งที่จะเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ ชะตากรรมคล้ายๆ “สมัคร สุนทรเวช” อดีตนายกรัฐมนตรี

หลังจากนี้คงต้องจับตาว่า “ยิ่งลักษณ์” นายกฯสมองกลวง และ “ทักษิณ” นักโทษหนีคดี จะมอบตำแหน่งนี้ให้ใคร แต่สำคัญว่า จะให้กระทรวงมหาดไทยเดินไปในรูปแบบไหน แล้วค่อยจับคนมายัดใส่ ชั่วโมงนี้หลายคนจ้องตาเป็นมัน พร้อมเสนอหน้าให้เลือกกันนับ 10 ราย

รายการแก่งแย่งชิงดี เกมปล่อยข่าว แทงข้างหลังกันนับจากนี้รับรองสนุกแน่ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จ่อเข้าคิวหลายคน แต่ละชื่อก็บารมีแน่นหนา ขณะที่คนในรัฐบาลหลายคนก็อยากเปลี่ยนเก้าอี้ให้ใหญ่กว่าเก่า รับประกันซ่อมฟรีงานฟัดกันชามข้าวกระจาย ตำแหน่งนี้ไม่ได้วัดกันที่ความสามารถอย่างเดียว แต่วัดกันที่เส้นสาย บารมี ฯลฯ

รมว.มหาดไทยคนถัดไป เดิมพันสูงจริงๆ!!