“เสี่ยโต้ง” ขุนคลังขวัญใจแม่นางโพยปูโพรกเน่าในได้ประกอบวีรกรรมทำให้นักการเมืองน้ำเน่าด้อยพัฒนาของไทยต้องหน้าแดงด้วยความอายม้วน หลังจากคำประกาศในงานสัมมนาแบบซื่อๆ ว่าตัวเองได้รับอนุญาตให้โกหกหน้าซื่อแบบ “white lies”
มิน่าละ! ถึงมีคำพูดว่าผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าโกหกแบบโต้งๆ! ฮ่า!
นี่ไม่ใช่ลักษณะของชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ รักษาเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของตัวเอง! แต่เสี่ยโต้ง ชื่อจริงว่า กิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ถ่างขานั่งควบเก้าอี้กระทรวงการคลัง สมควรเป็นบุคคลน่าเชื่อถือ
เป็นผู้มีลายเซ็นบนธนบัตรของประเทศไทยทุกใบจนกว่าจะหลุดจากตำแหน่ง! รัฐมนตรีคลังจอมกระสัน กระเหี้ยนกระหือรือบางคนไม่แน่ใจว่าจะนั่งเก้าอี้ได้นานแค่ไหน หลังจากบวงสรวงเจ้าที่ ภารกิจแรกคือขอฝากลายเซ็นไว้บนธนบัตร
เป็นเกียรติยศสำหรับวงศ์ตระกูล แม้ภายหลังจะทำความชั่วร้าย เป็นผีโม่แป้งทาสเงินผู้บงการ ซึ่งยอมให้ตัวเองได้นั่งเก้าอี้เป็นตัวแทนขายชาติ ขายทรัพย์สินแผ่นดิน
เสี่ยโต้งเปิดปากว่าปฏิบัติการ “โกหกตอแหล” แบบซึ่งๆ หน้า เป็นการทำเพื่อชาติ ยกเมฆตัวเลขอัตราการขยายตัวของการส่งออกแบบเวอร์ 15 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนรับรู้ทิศทางเศรษฐกิจไทยว่าจะเป็นอย่างไร
การโกหกเป็นพฤติกรรมขั้นพื้นฐานของนักการเมืองเกือบทุกคน หรือทุกคนก็ว่าได้ มีไอ้หน้าตอแหลตัวแสบโกหกในศาลซึ่งๆ หน้า สร้างวาทกรรมอุบาทว์ เช่น “บกพร่องโดยสุจริต” เป็นมรดกบาปด้านวจีกรรมทำให้สมาชิกครอบครัว ญาติมิตรใช้เป็นต้นแบบ
การหาเสียงเป็นการโกหกคำโตต่อหน้าประชาชนหมู่มาก เช่น นังแหลบางตัวใช้ความเป็นสาวหน้าใสสติปัญญาบกพร่องประกาศกลางสายฝน ว่าจะกระชากค่าครองชีพอย่างนั้น อย่างนี้ จากนั้นชาวบ้านอยู่ในสภาพโดนต้ม อกไหม้ไส้ขมอมทุกข์ลิ้นจุกคอ
ชาวบ้านบ้องตื้นทนกล้ำกลืนกับความผิดหวัง ตื่นเช้าโดยเฉพาะวันเสาร์ ต้องเอามือคลำหัวดูว่าเขางอกออกมาหรือยัง เมื่อหูได้ยินนังแหลประกอบวจีกรรมเดิมซ้ำซาก ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นตัวโง่ระดับโลก สร้างความทุกข์โศกปนความน่าเวทนาให้วิญญูชน
เสี่ยโต้งโกหกไม่ใช่เรื่องแปลก ใครๆ ก็รู้ว่านักการเมืองโกหก กะล่อนปลิ้นปล้อน มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก เป็นสุดยอดแห่ง 18 มงกุฎ ยิ่งกว่าแก๊งนักตกทอง นักหลอกขายเงินดำ แก๊งไพ่สามใบ! คารมตอแหลยิ่งกว่าพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ความผิดหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าการโกหก คือการสารภาพว่าตัวเองโกหก! ใครอยากเข้าสู่วงการเมือง มีคำพูดที่เราได้ยินเสมอว่า “ถ้าอยากรู้ว่าตัวเราได้ทำความชั่วอะไรบ้าง ก็ให้เล่นการเมือง” จากนั้นคู่แข่งสารพัดและพวกจะพยายามขุดคุ้ยเบื้องหลัง ประวัติต่างๆ ของตัวเองออกมาแฉ ประจานให้อาย ทำลายเพื่อตัดคะแนน
เป็นแผนกำจัดคู่แข่ง บางครั้งเจ้าตัวลืมไปแล้วว่าได้ทำอะไรเลวทราม หรือน่าอับอายอย่างที่โดนนำมาเปิดโปงให้เสียผู้เสียคน! แต่ยังมีทางแก้ด้วยคำพูดที่ว่า “ถ้าตัวเองไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว พร้อมรับสภาพทุกอย่าง ก็มีสิทธิ์เล่นการเมืองได้”
นั่นหมายความว่าชีวิตตกต่ำถึงขีดสุด ไม่มีอะไรจะเสียหาย ไม่มีอะไรต้องอาย ถ้ามีปัญหาอะไร ก็ใช้ความสามารถสำคัญของนักการเมือง คือกล้าทำชั่ว หน้าด้าน โกหก เพื่อผลสำเร็จในการโกงระดับต่างๆ เริ่มตั้งแต่หน้าด้านโกหกหลอกลวงชาวบ้าน ป้อนความฝันลมๆ แล้งๆ ให้หลงเชื่อกาเบอร์ ลงทุนซื้อเสียง ซื้อกรรมการเลือกตั้ง ซื้อตำแหน่ง
ลงทุนเข้าสู่วงจรอุบาทว์ของการโกงบูรณาการ มุ่งทำชั่วโดยการรับใช้หัวหน้า ผู้นำชั่วตัวพ่อ สร้างเครือข่ายคนโกงกังฉินกินเมืองแบบบูรณาการ บ้านเมืองล่มจมไม่ว่า ขอให้ตัวเองรวยในยุคแข่งกันขายชาติเฟื่องฟู เป็นมรดกสันดานจากพี่สู่น้อง ลูกหลาน
เมื่อเสี่ยโต้งยอมรับว่าได้พูดโกหก ก็กระชากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ คำเยาะหยันจากสารพัดกลุ่ม ฝ่ายค้านมองว่านี่เป็นเหยื่ออันโอชะสำหรับไปลากไส้เน่าของเสี่ยโต้งให้ถึงกึ๋น เซ่งจี๊ ในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายเอกชนรู้สึกเฉยๆ รู้อยู่แล้วว่าเป็นตัวเลขโกหก
หนังสือพิมพ์ไทย ฝรั่ง พาดหัวข่าวครึกโครม บริษัทฝรั่งมังค่า ซึ่งโกหกเก่งเช่นกัน โดนปรับในต่างประเทศก็เยอะ มองว่านี่เป็นการทำความผิดเชิงงี่เง่า! มีอย่างที่ไหน ไม่มีใครซักไซ้ ไม่มีใครบีบบังคับทรมาน ดันพูดออกมา! นี่ไม่ใช่ความโง่แบบธรรมดาแน่ๆ
จากนี้ไป จะมีคำพูดแซวกัน! ถ้าเป็นชาย อาจบอกว่า “เอ็งอย่ามาโต้งกูนะโว้ย” ถ้าเป็นหญิง “อย่ามาปูกับฉันนะ ตัวเอง” หรือร้านอาหารบางแห่งอาจมีเมนูตลกร้าย เช่น ปูหลน ปูแหล หรือชื่ออื่นๆ ตามจินตนาการอันเจิดจ้า ไม่ทื่อ ทึ่ม สมองน้อยเหมือนปู กุ้ง
จากนี้ไปเสี่ยโต้งไปไหน ย่อมมีคนมองด้วยสายตาแปลกๆ! “นั่นไง ไอ้โกหกแบบโต้งๆ” จะไปกู้เงิน สถาบันเงินกู้ก็สงสัย คลางแคลงระแวง ไม่เชื่อถือ! มองว่าโครงการ เหตุผลที่เสนอขอกู้เงินนั้นอยู่บนพื้นฐานของตัวเลขยกเมฆ เวอร์หวังตุ๋นเงินหรือไม่
คนอยากรู้ว่าการโกหกพกลมของเสี่ยโต้งนั้นเป็นนิสัย ในอาชีพก่อนหน้าหรือไม่ อย่างที่ฝรั่งจัดระดับให้เป็น “congenital liar” คือนักตอแหลมีชีวิตอยู่รอดด้วยอาศัยการโกหก! แต่คนไทยรู้สึกอดสู อับอาย เมื่อรัฐมนตรีสำคัญเป็นนักโกหกเพื่อตำแหน่ง
คำพูดก่อนหน้า กรณีโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ หรือเสี่ยโต้งร่ำไห้หลั่งน้ำตาเห็นใจนักลงทุนต่างประเทศช่วงน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมในอยุธยา เป็นน้ำตาจระเข้หรือไม่
เสี่ยโต้งจะโดนกดดันให้ลาออกมั้ย? โฮ่ย! ระดับนี้ จะหวังให้โชว์ยางอายเรอะ! ฝันไปเถอะ! แม่นางโพยไม่อยากปลดแน่ ก็เป็นคนรู้ใจรสนิยมในสายพันธุ์เดียวกันนี่!
มิน่าละ! ถึงมีคำพูดว่าผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าโกหกแบบโต้งๆ! ฮ่า!
นี่ไม่ใช่ลักษณะของชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ รักษาเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของตัวเอง! แต่เสี่ยโต้ง ชื่อจริงว่า กิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ถ่างขานั่งควบเก้าอี้กระทรวงการคลัง สมควรเป็นบุคคลน่าเชื่อถือ
เป็นผู้มีลายเซ็นบนธนบัตรของประเทศไทยทุกใบจนกว่าจะหลุดจากตำแหน่ง! รัฐมนตรีคลังจอมกระสัน กระเหี้ยนกระหือรือบางคนไม่แน่ใจว่าจะนั่งเก้าอี้ได้นานแค่ไหน หลังจากบวงสรวงเจ้าที่ ภารกิจแรกคือขอฝากลายเซ็นไว้บนธนบัตร
เป็นเกียรติยศสำหรับวงศ์ตระกูล แม้ภายหลังจะทำความชั่วร้าย เป็นผีโม่แป้งทาสเงินผู้บงการ ซึ่งยอมให้ตัวเองได้นั่งเก้าอี้เป็นตัวแทนขายชาติ ขายทรัพย์สินแผ่นดิน
เสี่ยโต้งเปิดปากว่าปฏิบัติการ “โกหกตอแหล” แบบซึ่งๆ หน้า เป็นการทำเพื่อชาติ ยกเมฆตัวเลขอัตราการขยายตัวของการส่งออกแบบเวอร์ 15 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนรับรู้ทิศทางเศรษฐกิจไทยว่าจะเป็นอย่างไร
การโกหกเป็นพฤติกรรมขั้นพื้นฐานของนักการเมืองเกือบทุกคน หรือทุกคนก็ว่าได้ มีไอ้หน้าตอแหลตัวแสบโกหกในศาลซึ่งๆ หน้า สร้างวาทกรรมอุบาทว์ เช่น “บกพร่องโดยสุจริต” เป็นมรดกบาปด้านวจีกรรมทำให้สมาชิกครอบครัว ญาติมิตรใช้เป็นต้นแบบ
การหาเสียงเป็นการโกหกคำโตต่อหน้าประชาชนหมู่มาก เช่น นังแหลบางตัวใช้ความเป็นสาวหน้าใสสติปัญญาบกพร่องประกาศกลางสายฝน ว่าจะกระชากค่าครองชีพอย่างนั้น อย่างนี้ จากนั้นชาวบ้านอยู่ในสภาพโดนต้ม อกไหม้ไส้ขมอมทุกข์ลิ้นจุกคอ
ชาวบ้านบ้องตื้นทนกล้ำกลืนกับความผิดหวัง ตื่นเช้าโดยเฉพาะวันเสาร์ ต้องเอามือคลำหัวดูว่าเขางอกออกมาหรือยัง เมื่อหูได้ยินนังแหลประกอบวจีกรรมเดิมซ้ำซาก ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นตัวโง่ระดับโลก สร้างความทุกข์โศกปนความน่าเวทนาให้วิญญูชน
เสี่ยโต้งโกหกไม่ใช่เรื่องแปลก ใครๆ ก็รู้ว่านักการเมืองโกหก กะล่อนปลิ้นปล้อน มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก เป็นสุดยอดแห่ง 18 มงกุฎ ยิ่งกว่าแก๊งนักตกทอง นักหลอกขายเงินดำ แก๊งไพ่สามใบ! คารมตอแหลยิ่งกว่าพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ความผิดหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าการโกหก คือการสารภาพว่าตัวเองโกหก! ใครอยากเข้าสู่วงการเมือง มีคำพูดที่เราได้ยินเสมอว่า “ถ้าอยากรู้ว่าตัวเราได้ทำความชั่วอะไรบ้าง ก็ให้เล่นการเมือง” จากนั้นคู่แข่งสารพัดและพวกจะพยายามขุดคุ้ยเบื้องหลัง ประวัติต่างๆ ของตัวเองออกมาแฉ ประจานให้อาย ทำลายเพื่อตัดคะแนน
เป็นแผนกำจัดคู่แข่ง บางครั้งเจ้าตัวลืมไปแล้วว่าได้ทำอะไรเลวทราม หรือน่าอับอายอย่างที่โดนนำมาเปิดโปงให้เสียผู้เสียคน! แต่ยังมีทางแก้ด้วยคำพูดที่ว่า “ถ้าตัวเองไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว พร้อมรับสภาพทุกอย่าง ก็มีสิทธิ์เล่นการเมืองได้”
นั่นหมายความว่าชีวิตตกต่ำถึงขีดสุด ไม่มีอะไรจะเสียหาย ไม่มีอะไรต้องอาย ถ้ามีปัญหาอะไร ก็ใช้ความสามารถสำคัญของนักการเมือง คือกล้าทำชั่ว หน้าด้าน โกหก เพื่อผลสำเร็จในการโกงระดับต่างๆ เริ่มตั้งแต่หน้าด้านโกหกหลอกลวงชาวบ้าน ป้อนความฝันลมๆ แล้งๆ ให้หลงเชื่อกาเบอร์ ลงทุนซื้อเสียง ซื้อกรรมการเลือกตั้ง ซื้อตำแหน่ง
ลงทุนเข้าสู่วงจรอุบาทว์ของการโกงบูรณาการ มุ่งทำชั่วโดยการรับใช้หัวหน้า ผู้นำชั่วตัวพ่อ สร้างเครือข่ายคนโกงกังฉินกินเมืองแบบบูรณาการ บ้านเมืองล่มจมไม่ว่า ขอให้ตัวเองรวยในยุคแข่งกันขายชาติเฟื่องฟู เป็นมรดกสันดานจากพี่สู่น้อง ลูกหลาน
เมื่อเสี่ยโต้งยอมรับว่าได้พูดโกหก ก็กระชากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ คำเยาะหยันจากสารพัดกลุ่ม ฝ่ายค้านมองว่านี่เป็นเหยื่ออันโอชะสำหรับไปลากไส้เน่าของเสี่ยโต้งให้ถึงกึ๋น เซ่งจี๊ ในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายเอกชนรู้สึกเฉยๆ รู้อยู่แล้วว่าเป็นตัวเลขโกหก
หนังสือพิมพ์ไทย ฝรั่ง พาดหัวข่าวครึกโครม บริษัทฝรั่งมังค่า ซึ่งโกหกเก่งเช่นกัน โดนปรับในต่างประเทศก็เยอะ มองว่านี่เป็นการทำความผิดเชิงงี่เง่า! มีอย่างที่ไหน ไม่มีใครซักไซ้ ไม่มีใครบีบบังคับทรมาน ดันพูดออกมา! นี่ไม่ใช่ความโง่แบบธรรมดาแน่ๆ
จากนี้ไป จะมีคำพูดแซวกัน! ถ้าเป็นชาย อาจบอกว่า “เอ็งอย่ามาโต้งกูนะโว้ย” ถ้าเป็นหญิง “อย่ามาปูกับฉันนะ ตัวเอง” หรือร้านอาหารบางแห่งอาจมีเมนูตลกร้าย เช่น ปูหลน ปูแหล หรือชื่ออื่นๆ ตามจินตนาการอันเจิดจ้า ไม่ทื่อ ทึ่ม สมองน้อยเหมือนปู กุ้ง
จากนี้ไปเสี่ยโต้งไปไหน ย่อมมีคนมองด้วยสายตาแปลกๆ! “นั่นไง ไอ้โกหกแบบโต้งๆ” จะไปกู้เงิน สถาบันเงินกู้ก็สงสัย คลางแคลงระแวง ไม่เชื่อถือ! มองว่าโครงการ เหตุผลที่เสนอขอกู้เงินนั้นอยู่บนพื้นฐานของตัวเลขยกเมฆ เวอร์หวังตุ๋นเงินหรือไม่
คนอยากรู้ว่าการโกหกพกลมของเสี่ยโต้งนั้นเป็นนิสัย ในอาชีพก่อนหน้าหรือไม่ อย่างที่ฝรั่งจัดระดับให้เป็น “congenital liar” คือนักตอแหลมีชีวิตอยู่รอดด้วยอาศัยการโกหก! แต่คนไทยรู้สึกอดสู อับอาย เมื่อรัฐมนตรีสำคัญเป็นนักโกหกเพื่อตำแหน่ง
คำพูดก่อนหน้า กรณีโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ หรือเสี่ยโต้งร่ำไห้หลั่งน้ำตาเห็นใจนักลงทุนต่างประเทศช่วงน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมในอยุธยา เป็นน้ำตาจระเข้หรือไม่
เสี่ยโต้งจะโดนกดดันให้ลาออกมั้ย? โฮ่ย! ระดับนี้ จะหวังให้โชว์ยางอายเรอะ! ฝันไปเถอะ! แม่นางโพยไม่อยากปลดแน่ ก็เป็นคนรู้ใจรสนิยมในสายพันธุ์เดียวกันนี่!