xs
xsm
sm
md
lg

คอ.นธ.เสนอรัฐบาลใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่แก้สถานการณ์ใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุกฤษ มงคลนาวิน (แฟ้มภาพ)
“อุกฤษ” เสนอรัฐบาลใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยแก้ปัญหาใต้ แนะให้รถยนต์-จักรยานยนต์ทุกคนติดตั้ง “RFID”-ไอออนสแกนตรวจจับสารก่อเหตุ เชื่อลดสูญเสียชีวิต-ทรัพย์สิน-เจ้าหน้าที่ ตามจับผู้ร้ายได้ง่าย ระบุใช้งบฯ แค่ 3 พันล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ได้ทำข้อเสนอต่อรัฐบาลให้ใช้ “เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อดับไฟใต้” ในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากขณะนี้สถิติผู้ก่อความไม่สงบส่วนใหญ่จะเลือกพื้นที่บนท้องถนน โดยการใช้รถยนต์ จักรยานยนต์ หรือยานพาหนะที่มีการปลอมแปลงทะเบียน หรือขโมยใช้กระทำความผิด ดังนั้นเพื่อป้องกันดูแลชีวิต และทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชน รวมทั้งสถานที่สำคัญต่าง ๆมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ และมีประสิทธิภาพสูงเข้ามาช่วยในการทำงานให้มากขึ้น จึงเสนอให้รัฐบาลได้ดำเนินการเป็นกรณีเร่งด่วนให้เสร็จภายใน 3-4 เดือน คือ 1. ให้กรมการขนส่งทางบกออกกฎกระทรวงกำหนดให้รถยนต์ทุกชนิดและจักรยานยนต์มีการติดตั้ง “เทคโนโลยี RFID” (Radio Frequency Identification) เพื่อแสดงอัตลักษณ์ หรือข้อมูลที่เกี่ยยวกับเลขทะเบียน เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ สี ยี่ห้อ เมื่อมีการนำรถไปก่อเหตุเจ้าหน้าที่สามารถติดตามเส้นทาง หรือสืบหาที่มาของรถได้ง่ายขึ้น

2. เพิ่มจุดตรวจหรือสะกัดยานพาหนะ (ด่านอัจฉริยะ) ทั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเส้นทางที่จะเข้าสู่พื้นที่ 3. เพิ่มแสงสว่างในถนนสายหลัก และสายรองที่ประชาชนใช้สัญจรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยระบบไฟฟ้า ส่องสว่างด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อป้องกันการก่อความไม่สงบในเวลากลางคืน และ 4. ใช้เทคโนโลยีไอออนสแกนแบบพกพาในการช่วยตรวจจับวัตถุระเบิด และสารเสพติด (SABER 5000) โดยเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถตรวจหาร่องรอยของสสาร 4 ประเภทคือวัตถุระเบิด สารเสพติด สารอาวุธเคมี และสารมีพิษทางอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

อย่างไรก็ตาม หากมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เสนอมาใช้อย่างจริงจัง คาดว่าจะสามารถป้องกันการก่อเหตุ และลดการสูญเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ได้ ขณะเดียวกันสามารถติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ ที่สำคัญราคาไม่แพง ข้อเสนอนี้ใช้เงินงบประมาณไม่เกิน 3 พันล้านบาทเท่านั้น ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
กำลังโหลดความคิดเห็น