กรมการขนส่งทางบก เผย ผลการตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะ ด้วยระบบเทคโนโลยี RFID ช่วง 2 เดือน พบ เร็วเกินกำหนดเกือบ 3,000 คัน ระบุ ขณะนี้มีผู้กระทำผิดมารายงานตัวแล้วกว่า 500 ราย เตือนหากไม่มารายงานตัวตามกำหนด ผู้ประกอบการจะมีความผิดด้วย
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานตามมาตรการส่งเสริมความปลอดภัยของรถตู้โดยสารสาธารณะด้วยการนำระบบเทคโนโลยี RFID มาตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งบนทางด่วน ทางยกระดับโทลล์เวย์ และมอเตอร์เวย์ ช่วง 2 เดือน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน - 31 พฤษภาคม 2555 ปรากฏว่า มีรถตู้โดยสารสาธาณะที่ติดตั้งระบบ RFID วิ่งผ่านเครื่องตรวจจับความเร็ว จำนวน 370,836 ครั้ง ในจำนวนนี้ พบรถตู้โดยสารสาธารณะที่ขับเร็วเกินกำหนด จำนวน 2,710 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนคิดเป็นร้อยละ 33.21 เป็นรถร่วมบริการของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 2,149 ครั้ง และรถร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 561 ครั้ง
โดยกรมการขนส่งทางบกได้ทำหนังสือแจ้ง บขส.และ ขสมก.เพื่อประสานไปยังผู้ขับรถที่มีพฤติกรรมดังกล่าวให้มารายงานตัวเพื่อชำระค่าปรับภายใน 15 วัน ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่กระทำผิดมาติดต่อรายตัวเพื่อชำระค่าปรับแล้ว จำนวน 507 ราย เป็นรถร่วมบริการของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 356 ราย และรถร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 151 ราย ทั้งนี้ หากไม่มารายงานตัวภายในกำหนด กรมการขนส่งทางบกจะบันทึกการกระทำความผิดไว้ที่ต้นทะเบียน ส่งผลให้รถคันดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะจะมีความผิดด้วยฐานไม่ส่งตัวพนักงานขับรถเข้ามารายงานตัว มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท จึงขอให้ผู้ประกอบการ และพนักงานขับรถตู้โดยสารสาธารณะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย และลดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
อย่างไรก็ตาม กรมฯขอให้ประชาชนร่วมกันในการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เพื่อให้ได้รับสิทธิ์คุ้มครองความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี RFID โดยขอให้สังเกตจากแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ถูกต้อง ต้องเป็นทะเบียนสีเหลือง ตัวเลข และตัวอักษรสีดำ ด้านข้างรถมีเครื่องหมายแสดงการเข้าร่วมกับ ขสมก.หรือ บขส.พร้อมชื่อเส้นทาง ส่วนรถตู้โดยสารสาธารณะที่ผิดกฎหมาย จะเป็นป้ายสีขาว ตัวเลขและตัวอักษรสีน้ำเงิน หรือสีดำ ซึ่งการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่ผิดกฎหมายนั้น นอกจากจะไม่ปลอดภัยแล้ว ยังยากต่อการติดตามตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดปัญหาอาชญากรรมด้วย ทั้งนี้ เชิญชวนประชาชนร่วมเป็นเครือข่ายในการส่งเสริมความปลอดภัย “หากพบเห็นรถตู้โดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย เอาเปรียบผู้โดยสารแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง”
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานตามมาตรการส่งเสริมความปลอดภัยของรถตู้โดยสารสาธารณะด้วยการนำระบบเทคโนโลยี RFID มาตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งบนทางด่วน ทางยกระดับโทลล์เวย์ และมอเตอร์เวย์ ช่วง 2 เดือน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน - 31 พฤษภาคม 2555 ปรากฏว่า มีรถตู้โดยสารสาธาณะที่ติดตั้งระบบ RFID วิ่งผ่านเครื่องตรวจจับความเร็ว จำนวน 370,836 ครั้ง ในจำนวนนี้ พบรถตู้โดยสารสาธารณะที่ขับเร็วเกินกำหนด จำนวน 2,710 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนคิดเป็นร้อยละ 33.21 เป็นรถร่วมบริการของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 2,149 ครั้ง และรถร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 561 ครั้ง
โดยกรมการขนส่งทางบกได้ทำหนังสือแจ้ง บขส.และ ขสมก.เพื่อประสานไปยังผู้ขับรถที่มีพฤติกรรมดังกล่าวให้มารายงานตัวเพื่อชำระค่าปรับภายใน 15 วัน ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่กระทำผิดมาติดต่อรายตัวเพื่อชำระค่าปรับแล้ว จำนวน 507 ราย เป็นรถร่วมบริการของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 356 ราย และรถร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 151 ราย ทั้งนี้ หากไม่มารายงานตัวภายในกำหนด กรมการขนส่งทางบกจะบันทึกการกระทำความผิดไว้ที่ต้นทะเบียน ส่งผลให้รถคันดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะจะมีความผิดด้วยฐานไม่ส่งตัวพนักงานขับรถเข้ามารายงานตัว มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท จึงขอให้ผู้ประกอบการ และพนักงานขับรถตู้โดยสารสาธารณะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย และลดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
อย่างไรก็ตาม กรมฯขอให้ประชาชนร่วมกันในการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เพื่อให้ได้รับสิทธิ์คุ้มครองความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี RFID โดยขอให้สังเกตจากแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ถูกต้อง ต้องเป็นทะเบียนสีเหลือง ตัวเลข และตัวอักษรสีดำ ด้านข้างรถมีเครื่องหมายแสดงการเข้าร่วมกับ ขสมก.หรือ บขส.พร้อมชื่อเส้นทาง ส่วนรถตู้โดยสารสาธารณะที่ผิดกฎหมาย จะเป็นป้ายสีขาว ตัวเลขและตัวอักษรสีน้ำเงิน หรือสีดำ ซึ่งการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่ผิดกฎหมายนั้น นอกจากจะไม่ปลอดภัยแล้ว ยังยากต่อการติดตามตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดปัญหาอาชญากรรมด้วย ทั้งนี้ เชิญชวนประชาชนร่วมเป็นเครือข่ายในการส่งเสริมความปลอดภัย “หากพบเห็นรถตู้โดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย เอาเปรียบผู้โดยสารแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง”