กรมขนส่งฯ ตื่นจัดระเบียบรถนักเรียนคุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัยใน กทม.ปริมณฑลนำร่อง

กรมการขนส่งทางบก ระดมความเห็นหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดระเบียบและพัฒนารถรับส่งนักเรียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลนำร่อง เล็งอบรมคนขับเป็นพิเศษ เน้นมาตรฐานความปลอดภัยตัวรถ และสร้างความมั่นใจต่อผู้ใช้บริการ ยอมรับออกกฎคุมมาตั้งแต่ 26 แต่ส่วนใหญ่ฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตาม

เมื่อวันที่ 12 กันยายน กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้จัดสัมมนา เพื่อระดมความเห็นเกี่ยวกับการจัดระเบียบรถรับส่งนักเรียนอย่างยั่งยืนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยนายวัฒนา พัทรชนม์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผย ว่า เป้าหมายหลักคือเรื่องความปลอดภัยของเด็กนักเรียนจึงต้องเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในการจัดระเบียบรถรับส่งนักเรียนให้ได้มาตรฐาน ทั้งในด้านการบริหารจัดการการให้บริการ การควบคุมกำกับดูแล การบังคับใช้กฎหมายที่สามารถปฏิบัติได้

ทั้งนี้ ในอนาคตผู้รับหน้าที่ขับรถรับ-ส่งนักเรียนนอกจากมีใบอนุญาตขับรถแล้วจะต้องผ่านการอบรมเป็นพิเศษก่อน รวมถึงจะมีการออกกฎเพิ่ม ทั้งเรื่องอายุรถ สภาพรถ และติดระบบ GPS หรือ RFID โดย ขบ.จะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงศึกษาธิการ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 2555 และจะเริ่มนำร่องในพื้นที่กรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลก่อน

อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการออกกฎหมายเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยของรถโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2526 เป็นต้นมา ทั้งการออกกฎกระทรวงว่าด้วย “รถโรงเรียน” ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก โดยได้กำหนดให้รถโรงเรียนเป็นรถที่มีสีเหลืองคาดดำ พร้อมมีอุปกรณ์ส่วนควบตามที่กำหนด การออกระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำรถที่จดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน มาใช้เป็นรถรับส่งนักเรียนแต่ต้องได้มาตรฐานตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด แต่ปรากฏว่ายังมีการฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ดังกล่าว

ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงมีแนวคิดเรื่องการจัดระเบียบรถรับส่งนักเรียนให้เป็นมาตรฐานและเข้าสู่ระบบ เพื่อให้สามารถกำกับดูแลการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพได้มาตรฐานความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการพิจารณานำระบบเทคโนโลยีควบคุมความเร็วและพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับรถมาบังคับใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพ การให้บริการให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับการสัมมนาเพื่อระดมความเห็นในครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางที่เหมาะสม ทั้งในด้านการบริการจัดการการให้บริการ การควบคุมกำกับดูแล และการบังคับใช้กฎหมายที่สามารถปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ทั้งนี้ ในการสัมมนาจะมีการอภิปรายเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดกับรถรับส่งนักเรียน ปัญหาคุณภาพการให้บริการ และรูปแบบรถรับส่งนักเรียนในต่างประเทศ รวมทั้งแนวทางการจัดระเบียบและพัฒนาระบบรถรับส่งนักเรียนในอนาคตจากผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน และสำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบกอีกด้วย