“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ก้นร้อนตกเป็นจำเลยสังคม ถูก กทม.กล่าวหายื้อจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม สั่ง “ยงยุทธ” ตั้งโต๊ะโต้ “สุขุมพันธุ์” ยันงบฯ ที่ขอมาไม่ถูกต้องตามระเบียบ แถมยังมีเงินที่เหลือค้างอีกกว่า 700 ล้านบาท เรียกร้องให้ส่งคืนด้วย ด้าน อธิบดี ปภ.ระบุ กทม.เคยบอกกลางที่ประชุมไม่ของบฯ เพิ่ม
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงษ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวตอบโต้กรณีที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่า กทม.ยังขาดเงินงบประมาณเพื่อนำมามอบให้ประชาชนที่ยังตกสำรวจจากการเยียวยาประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยเมื่อปี 54 และที่ยื่นขอเข้ามาเพิ่มเติมอีกจำนวน 1,142 ล้านบาท ภายหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกนายยงยุทธเข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เป็นเวลา 1 ชั่วโมงก่อนลงมาแถลงข่าว
โดยนายยงยุทธกล่าวว่า ได้เกิดความเข้าใจผิดว่ารัฐบาลยังค้างเงิน กทม. ซึ่งมันคลาดเคลื่อนอย่างมาก เงินที่ช่วยเหลือ กทม.มี 2 ส่วน คือ จากเงินที่ กทม.ขอมา 50 ล้านบาท กับ 1,900 ล้านบาท สิ่งที่ขอมาถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับและตามระยะเวลา แต่อีกส่วนหนึ่งเงินที่ กทม.ขอมาและรัฐบาลเองก็พิจารณาเห็นว่าไม่เข้าเงื่อนไขหลักเกณฑ์ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลค้างไม่ได้จ่าย แต่ที่ขอมา 1,142 ล้านบาทไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ารัฐบาลค้างเงิน กทม. แต่เงินที่ขอมาส่วนหลังเป็นการขอที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ จนทำให้ประชาชนสับสนว่าการที่ กทม.ไม่จ่ายเพราะรัฐบาลไม่ได้จ่ายให้ กทม.เป็นเรื่องที่ กทม.ทำผิดกติกา
นายยงยุทธกล่าวว่า ที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่ารัฐบาลไม่ได้ค้างเงิน กทม.นั้นถูกแล้ว และเงินที่ค้างเป็นเงินที่ กทม.ขอมาอย่างไม่ถูกต้อง ตนก็เกรงใจพี่น้องประชาชน อยากฝาก กทม.ว่าขอให้เป็นเรื่องของบ้านเมือง ของประชาชนที่เดือดร้อน อย่าทำเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งตนจะทำความเข้าใจกับ กทม.อีกครั้ง โดยเฉพาะเงิน 753 ล้านบาท ว่าเหตุใดจึงไม่คืน และต้องลงไปดูว่า กทม.ใช้จ่ายอะไรบ้าง ต้องให้ กทม.รายงานข้อเท็จจริง ความเดือดร้อนประชาชนต้องผ่านองค์กรคือ กทม. ถ้ามีความบกพร่องผิดพลาดไม่ใช่รัฐบาล แต่ผิดพลาดที่องค์กรรับผิดชอบเรื่องนี้ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ขั้นแรกต้องรายงานข้อเท็จจริง ถ้ามีเหตุผลเพียงพอสรุปเรื่องได้ ถ้าไม่มีเหตุผลเพียงพอก็ต้องมีคณะบุคคลลงไปดูรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นในการใช้งบประมาณ นายยงยุทธกล่าวว่า ในเบื้องต้นมองอย่างนั้นไม่ได้ แต่เมื่อเงินเหลือก็คืน ตามระเบียบจะใช้ใหม่ค่อยว่าอีกที แต่นี่ไม่คืนแล้วก็เอาไปจ่ายอะไรไม่ทราบอีก ความเดือดร้อนของประชาชนคือข้อกังวลนายกฯ แต่ทำไมจังหวัดอื่นๆ ประชาชนเดือดร้อนแก้ไขปัญหาได้หมด มันเป็นมิติของบ้านเมืองอย่างเดียว แต่ทำไม กทม.เอาความเดือดร้อนประชาชนมาสร้างความรู้สึกระหว่างรัฐบาลกับ กทม.ให้เกิดความไม่สบายใจ มีปัญหาอยู่ที่เดียวที่ กทม. หลักฐานก็มีบอกว่าไม่ขอเพิ่มแล้ว แต่มาวันหลังบอกมาขอเพิ่ม ก็ต้องคิดประเด็นนี้ด้วย
“สิ่งที่ควรทำ กทม.มีงบฯ ตัวเอง และมากด้วย อะไรขาดตกบกพร่องก็น่าจะใช้งบฯ ตัวเองช่วยเหลือประชาชน รัฐบาลไม่ขัดข้องหากใช้งบฯ กทม.หรือใช้งบฯ รัฐบาลก็ได้แต่ต้องทำให้ถูกระเบียบ”
เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะใกล้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า เป็นเรื่องที่สื่อมีคำถาม คำตอบในใจอยู่แล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.ก็คุยกันแล้ว
ด้านนายวิบูลย์กล่าวว่า สำหรับ 6 จังหวัด ตั้งแต่จังหวัดลพบุรีลงมาจนถึงปลายทางที่ออกอ่าวไทย รวมทั้ง กทม.มีน้ำท่วมขัง และ 6 จังหวัดได้มีการสำรวจ และมีการประชุมร่วมกันตลอดระหว่าง กทม., ปภ., กระทรวงมหาดไทย, กรมบัญชีกลาง, สำนักงบประมาณ และ 6 จังหวัด โดยการประชุม 2-3 ครั้งแรก กทม.ยืนยันไม่ต้องการงบฯ เพิ่มจาก 1,915 ล้านบาท และนำไปสู่วันที่ 26 มิ.ย. 55 นายกฯ เป็นประธานการประชุมเอง มีผู้แทน กทม.เข้าประชุมก็ยังยืนยันว่า 1,915 ล้านบาทยังเพียงพอใช้จ่าย ส่วนอีก 6 จังหวัดได้ขอในที่ประชุมสำหรับประชาชนท้ายน้ำ อยากขอทบทวนการเพิ่ม และทบทวนเงินที่จะได้รับตามสิทธิ นายกฯ ได้สั่งการในที่ประชุมชัดเจนว่าต้องเป็นประชาชนที่มายืนขอทวนได้รับเงินเพิ่มก่อนวันที่ 26 มิ.ย. 2555 ทั้ง 6 จังหวัดผู้ว่าฯ ต้องร่วมรับผิดชอบกับท้องถิ่นสำรวจเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงตามระเบียบราชการ
จากนั้นกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมประชุมกับทาง กทม. และ 6 จังหวัดมาโดยตลอด โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมก็มีเพิ่มเติมมาอีกทั้งที่ระยะเวลาผ่านมาแล้ว กทม.ก็ยังคงยืนยันไม่ขอรับเพิ่ม ส่วนจังหวัดต่างๆ ที่ไปสำรวจตามหลักฐานข้อเท็จจริง เพราะเงินราชการต้องมีหลักฐาน จากเบื้องต้นที่ต้องเยียวยา 8,000 ล้านบาท เมื่อสำรวจแล้วเหลือแค่ 6,000 ล้านบาท โดยลพบุรีไม่ได้ขอเพิ่ม ส่วนอีก 5 จังหวัดขอเพิ่มแต่จาก 8,000 ล้านบาท เหลือ 6,000 ล้านบาท จึงเป็นการอนุมัติตามที่จังหวัดสำรวจมาแล้ว
นายวิบูลย์กล่าวว่า สำหรับข้อเท็จจริงในส่วนของ กทม.หลังประชุมได้มีการหารือมาบ้าง ส่งเรื่องมาบ้างว่า เงิน 1,195 ล้านบาท เหลือ 753 ล้านบาทเศษจะขอใช้เพื่อไปเยียวยาให้ประชาชน ทาง ปภ.ได้ตอบว่าเงินนี้จะไปใช้เลยไม่ได้ ระเบียบกระทรวงการคลังต้องคืน และต้องมีหลักฐานมาก่อน ซึ่งระเบียบนี้ใช้เหมือนกันทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน กทม.ได้ขอเพิ่มมาอีก 1,142 ล้านบาท ทาง ปภ.ได้มีหนังสือประสานกลับไปว่า สำหรับ 753 ล้านบาทจะต้องมีหลักฐานและดำเนินการตามระเบียบ ส่วน 1,195 ล้านบาทจะมีแต่ตัวเลขมาไม่ได้ ต้องบอกว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และต้องเข้าเงื่อนไขยื่นทบทวน หรือตกสำรวจก่อนวันที่ 26 มิ.ย. ซึ่งได้ประสานมาตลอด แต่ กทม.ตอบมาเหมือนกันแต่ก็มีมาเฉพาะตัวเลข ไม่มีรายละเอียด ปภ.จึงได้มีหนังสือกลับไปให้ส่งรายละเอียดมาในวันที่ 20 ก.ย. บัดนี้ยังไม่ได้รับรายละเอียด ที่ต้องเป็นไปตามระเบียบทางราชการเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ประสานไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ว่า กทม.มีหนังสือมาอย่างนี้ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับพี่น้องชาว กทม.ที่ประสบปัญหาอุทกภัย แต่เรื่องของระเบียบทางราชการ ถ้า กทม.ดำเนินการเรียบร้อยก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาอีกครั้ง เรื่องนี้ทำเล่นๆ ไม่ได้ เพราะเป็นเงินราชการ
น.ส.ศันสนีย์กล่าวว่า ที่ต้องมาชี้แจงเพราะผู้ว่าฯ กทม.ได้พูดกับประชาชนว่ายังขาดเงินไม่สามารถนำไปเยียวยาประชาชนได้ และรัฐบาลกำลังจะจ่ายให้ 1,142 ล้านบาท ซึ่งส่วนนั้นอยู่ในส่วนที่เกินกำหนดเวลา และทางตัวแทน กทม.เคยเข้าร่วมประชุมปฏิเสธไม่ขอรับเงินจำนวนนี้ไปแล้ว ประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ ปลายน้ำทุกจังหวัด ลพบุรีเองก็ปฏิเสธเช่นเดียวกับ กทม. เงินที่รัฐบาลเคยให้ 1,195 ล้านบาท จริงๆ กทม.มีเงินที่ใช้ไม่หมดตามกำหนดเวลาอีก 753 ล้านบาท กทม.ก็ไม่ได้ชี้แจงว่า ที่ไม่คืนมาเพราะใช้จ่ายอย่างอื่นไปก่อน ซึ่งผิดกฎระเบียบกระทรวงมหาดไทย ดังนั้นเรื่องนี้กระทรวงมหาดไทย รัฐบาลไม่ควรเป็นจำเลย รัฐบาลมีความตั้งใจเยียวยาประชาชนอยู่แล้วหากเป็นไปตามหลักเกณฑ์ เมื่อ กทม.พูดกับประชาชน กทม.ก็ต้องรับผิดชอบประชาชนด้วย