ปลัดกลาโหม โผล่นั่ง ปธ.พิธีอำลาชีวิตราชการทหาร รวม 191 นาย สื่อซักอุทธรณ์หรือไม่ บอกคงอยู่เฉยๆ ด้าน “ทนงศักดิ์” ว่าที่ปลัดคนใหม่ก็มา ก่อนจับมือทักทาย ขณะที่ “วิทวัส” เมินร่วมแชะรูปร่วม ตท.11
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่โรงเรียนนายร้อย จปร. จ.นครนายก เมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการทหารของนายทหารชั้นนายพล พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการจัดงานพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการทหารของนายทหารชั้นนายพลที่เกษียณอายุราชการรวมทั้งสิ้น 191 นาย โดยแบ่งเป็นผู้ที่เกษียณอายุราชการ จำนวน 154 นาย และลาออกตามโครงการเออร์ลีรีไทร์ 93 นาย แบ่งเป็นชาย 179 นาย และหญิง 12 นาย สังกัดกระทรวงกลาโหม 58 นาย สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย 31 นาย และสังกัดกองทัพบก 102 นาย โดยมีนายทหารชั้นชั้นนายพล (อัตราจอมพล) 5 นาย ได้แก่ พล.อ.ภุชงค์ รัตนวรรณ จเรทั่วไป พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.อ.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงาม ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบกเดินทางมาร่วมงานอย่างครบครัน
นอกจากนี้ยังมีนายทหารมาร่วมในพิธีมากมาย เช่น พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ที่คาดว่าจะได้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2555 พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ที่คาดว่าจะได้ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก พล.ท.จิระเดช โมกขะสมิต รองเสนาธิการทหารบก ที่คาดว่าจะได้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทบ.
มีรายงานว่า การเดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ของ พล.อ.เสถียร ถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกภายหลังที่ศาลปกครองไม่มีการทุเลาคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงาน รมว.กลาโหม โดย พล.อ.เสถียรมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ไม่ได้แสดงอาการวิตกต่อคดีดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ พล.อ.เสถียรได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่จะอุทธรณ์คำสั่งศาลหรือไม่นั้นว่า “จะให้ผมทำอย่างไรดีล่ะ ผมคงอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรแล้ว” เมื่อถามว่าจะสู้ต่อหรือไม่ หรือจะให้จบ พล.อ.เสถียรได้แต่ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย
จากนั้น พล.อ.เสถียร ในฐานะประธาน ตท.11 พร้อมเพื่อนร่วมรุ่น ตท.11 ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ทั้งนี้ พล.อ.เสถียรได้จับมือ พล.อ.ทนงศักดิ์ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แม้ว่าที่ผ่านมามีกระแสข่าวความขัดแย้งที่ พล.อ.เสถียรไม่ยอมผลักดันให้ พล.อ.ทนงศักดิ์ขึ้นมาเป็นมาปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกตั้งแต่มีกระแสข่าวความขัดแย้ง โดยการถ่ายรูปของเพื่อนร่วมรุ่น ตท.11 ครั้งนี้ ทาง พล.อ.วิทวัสไม่ได้เข้าร่วมการถ่ายรูปแต่อย่างใด โดย พล.อ.วิทวัส ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงปัญหาความขัดแย้งกับ พล.อ.เสถียร ว่าไม่ได้คุยปัญหาความขัดแย้ง คุยแต่เรื่องฟ้าฝน และตีกอล์ฟ ซึ่งคนที่เป็นทหารทุกคนก็ต้องมีวันที่เกษียณอายุราชการ
จากนั้นผู้ร่วมพิธีทั้งหมดได้พร้อมกันที่หอประชุม จปร.เพื่อร่วมพิธีเทิดเกียรติและรับของที่ระลึก พร้อมทั้งรับชมสไลด์มัลติวิชันประวัติและผลงานของ 5 จอมพล โดยในสไลด์ได้เชิดชู พล.อ.เสถียรว่าได้ทุ่มเทการทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ซื่อสัตย์ มีอุดมการณ์ปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นปูชนียบุคคลที่ทรงคุณค่าและน่าภาคภูมิใจของกองทัพ สมควรได้รับการยกย่อง โดย พล.อ.เสถียรเคยได้รับบุคคลตัวอย่างในปี 2551 สาขาส่งเสริม และพัฒนาความมั่นคงของชาติ และรางวัลเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2552 สาขาพัฒนาสังคม ขณะที่ พล.อ.วิทวัส ก็ได้รับการชื่นชมว่า ทุ่มเทแรงกาย แรงใจเต็มความสามารถ อยู่ในระเบียบวินัย ขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นแบบอย่างให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา และทำทุกวิถีทางสร้างสรรค์พัฒนากองทัพให้เจริญก้าวหน้า สมควรได้รับการยกย่องชั่วกาลนาน โดย พล.อ.วิทวัสเคยได้รับรางวัลชนะเลิศการฝึกทหารใหม่ รางวัลแหลมทองเชิดชูเกียรติ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวคำสดุดีว่า การปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพด้วยปฏิญาณที่แน่วแน่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ราชบัลลังก์ เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจและพวกท่านทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างครบถ้วน ความตั้งใจ ทุ่มเท กล้าหาญพร้อมเสียสละทั้งกำลังกาย กำลังใจ และประโยชน์ส่วนตัวของทุกท่านเป็นการส่งเสริมให้กองทัพมีความเข้มแข็ง มีศักยภาพ ส่งเสริมให้ภารกิจทั้งปวง บรรลุความมุ่งหมาย และความรับผิดชอบได้สัมฤทธิ์ในการดำรงไว้ในการรักษาซึ่งเอกราชอธิปไตยของชาติ พระมหากษัตริย์ ซึ่งคุณประโยชน์ของพวกท่านสมควรได้รับการยกย่องให้ทหารรุ่นหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จพิธี ผู้ร่วมพิธีทั้งหมดได้ร่วมปรับประทานอาหารกลางวัน มีเพียง พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เท่านั้นที่เดินทางกลับก่อน