xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” รูดซิปโยกปลัดกลาโหม รับไม่สบายใจ แนะคนนอกอย่ากดดันหวั่นไม่เจอทางออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก
“ประยุทธ์” ไม่วิจารณ์ “สุกำพล” โยก “เสถียร” วอนอย่านำเป็นประเด็นหลัก บอกไม่มีอะไรดีขึ้น รับไม่สบายใจแต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องทำตาม แนะคนนอกอย่ากดดันจะไม่เจอทางออก ยันไม่เคยพูดว่าหลังบ้าน บอกแค่เมียก็มีส่วน ระบุแยกไม่ออกการเมืองยุ่งโผกลาโหม ปัดปลัดกลาโหมพูดเดี๋ยวก็โดน ไม่ใช่ตนแน่ เผยบัญชี ทบ.ไร้ปัญหา แต่ไม่รู้ “ทนงศักดิ์” ได้นั่งเก้าอี้หรือไม่


วันนี้ (29 ส.ค.) ที่กองบัญชากากองทัพบก (บก.ทบ.) เมื่อเวลา 10.00น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม มีคำสั่งให้ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม และพล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ เจ้ากรมเสมียนตรา ไปช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมว่า การย้ายคน การลงโทษคน และการให้ความดีความชอบเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา กฎหมายและพ.ร.บ.เขียนไว้ว่าอย่างไร ใครมีอำนาจตรงนั้นก็ทำ ตนไม่ขอวิจารณ์ ทั้งนี้ พล.อ.เสถียรยังคงเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมอยู่ เพียงแต่ไปช่วยราชการเท่านั้น ซึ่งวันนี้คงจะมีการพูดคุยกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด และทุกคนอยากจะให้ทุกอย่างเรียบร้อยที่สุดเพราะคือพี่น้องกัน ไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นหลักสำคัญ เพราะถ้าเราทำให้เรื่องนี้แรงขึ้น แรงขึ้น จะไม่ได้อะไรกลับมาเลย และไม่มีอะไรดีขึ้น ต้องพยายามสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้รู้สึกว่าเราไม่เข้มแข็งและจะไม่มีคนเกรงใจ

“ผมทราบข่าวก็ไม่สบายใจ แต่ก็เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา เพราะทหารคำว่าผู้บังคับบัญชาสำคัญที่สุด และผู้บังคับบัญชาพร้อมจะให้อภัย ผู้ใต้บังคับบัญชาพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งเพราะเป็นทหาร ดังนั้น สิ่งแวดล้อมภายนอกอย่าไปกดดัน หากกดดันมากๆจะไม่เจอทางออกแล้วจะเสียหาย ขอร้องเถอะ อย่างไรก็ตาม ก่อนผมเดินทางไปสิงคโปร์ได้พูดถึงกองทัพบก แต่ก็มีสื่อบางฉบับเอาไปเขียนว่าผมพูดหลังมีการปรับย้ายแล้ว ซึ่งเป็นคนละเรื่องเพราะผมพูดก่อนไป และพูดถึงกองทัพบกว่าปรับย้ายอย่างไร ไม่ได้พูดคำว่าหลังบ้านสักคำ พูดว่าครอบครัว ภริยามีส่วน และความประพฤติของตนเอง เพราะภริยาบางคนเล่นการพนัน” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

เมื่อถามว่า การย้ายปลัดกระทรวงกลาโหมครั้งนี้มีการวิจารณ์ว่าเป็นการแทรกแซงของการเมือง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า แยกกันไม่ออกเพราะการเมืองคือฝ่ายบริหาร มีอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ดังนั้น อำนาจบริหารมาโดยทางนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนข้าราชการประจำก็ตั้งแต่ปลัดกระทรวงกลาโหมลงมา ส่วนการปรับย้ายในกองทัพก็ให้สิทธิ์แต่ละหน่วยในการปรับย้าย แต่ทั้งหมดจะเห็นด้วยหรือไม่ ต้องเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการของบอร์ดกระทรวงกลาโหม ดังนั้น คนที่มีชื่อเสนอขึ้นมาก็เหมาะสมทั้งหมด แต่อยู่ที่คณะกรรมการจะว่าอย่างไรทีหลัง

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.เสถียรให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าอีกหน่อย ผบ.เหล่าทัพก็โดนเหมือนกัน ตนเป็นต้นแบบให้นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่เกี่ยว พล.อ.เสถียรน่าจะพูดด้วยความห่วงใยของท่าน ซึ่งตนไม่ได้ทำความผิดอะไร ใครจะมาย้ายตน เพราะถ้าจะมีการย้ายได้นั้นต้องมีความผิด เมื่อถามว่าตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่จำเป็นต้องเลือกผู้ที่ครองยศจอมพลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พ.ร.บ.กลาโหมเขียนไว้ว่า จอมพล หรือพลเอก เป็นได้หมด แล้วแต่คณะกรรมการจะพิจารณา

ส่วนการปรับย้ายในส่วนของกองทัพบกไม่มีปัญหา ซึ่งตนไม่ได้เสนอชื่อใครขึ้นไปเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม และขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ ทั้งนี้อยู่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และตาม พ.ร.บ.การจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 ว่าเขียนอย่างไร โดยวันนี้ยังไม่ทราบว่า พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วย ผบ.ทบ.จะเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่หรือไม่ ซึ่งตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ต้องรอการโปรดเกล้าฯ และผ่านการประชุมเห็นชอบร่วมกันของคณะกรรมการ ซึ่งไม่ใช่มีการเซ็นแต่งตั้งกันเอง เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ แล้วจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม วันนี้ยังมีเวลาจัดทำรายชื่ออีก 1 เดือน

ผู้บัญชาการทหารบกยังให้สัมภาษณ์กรณีวันนี้ (29 ส.ค.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เรียกพลเฝ้าระวังไปให้ปากคำว่า ตนก็อนุญาตให้พลเฝ้าระวังไปให้ปากคำตามคำเชิญ หากจะเชิญใครก็อนุญาตให้ไป โดยวันนี้ยังไม่มีการเชิญตนไป ซึ่งตอนนั้นมีตำแหน่งแค่ที่ปรึกษาของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เท่านั้น ซึ่งพยานสามารถไปให้ข้อมูลเองหรือให้ตัวแทนไปก็ได้เพราะตนไม่ใช่ผู้ต้องหา
กำลังโหลดความคิดเห็น