“องอาจ” ส.ส.ปชป. จี้ “สุกำพล” ชี้แจงใช้อำนาจล้วงลูกเอาคนของตัวเองเข้าเป็น ขรก.ประจำ กห. แฉใบสั่ง “เจ๊ ด.” ขาอวบการเมืองภาคเหนือดัน “ทนงศักดิ์” เสียบเก้าอี้ปลัด กห.ข้ามหัวอัตราจอมพลหน้าตาเฉย เพราะเป็นเครือญาติกับคนสนิท กังขาย้ายปลัด-เสมียนตรายกแผงหลังแก้ กม.กลาโหมไม่สำเร็จ หวังการเมืองแทรกง่ายขึ้นหรือไม่
วันนี้ (29 ส.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม มีคำสั่งย้าย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม และพล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ เจ้ากรมเสมียนตรา ไปช่วยราชการที่สำนักรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม ว่า เป็นที่ชัดเจนว่าเกิดจากการที่ พล.อ.เสถียรออกมาเปิดโปงว่ามีการล้วงลูกใช้อำนาจทางการเมืองแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการประจำ จึงต้องถามว่า ทำไม รมว.กลาโหมจึงต้องพยายามผลักดัน พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ให้เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ทั้งที่เป็นที่ทราบกันดีว่า การผลักดันดังกล่าวหากทำสำเร็จจะเป็นการย้ายข้ามหัวพลเอกที่ครองอัตราจอมพล ซึ่งมีความเหมาะสมมากกว่า เพราะฉะนั้นสิ่งที่ รมว.กลาโหมต้องตอบคือ ทำไมต้องผลักดัน พล.อ.ทนงศักดิ์ขึ้นมาเป็นปลัด และคนที่ครองอัตราจอมพลไม่มีความเหมาะสมอย่างไร
“ความพยายามผลักดัน พล.อ.ทนงศักดิ์ เพราะมีความสัมพันธ์ฉันเครือญาติกับเด็กคนหนึ่งของ เจ๊ ด. ผู้กว้างขวางทางภาคเหนือที่เป็นขาใหญ่ดูแลนักการเมืองหลายระดับใช่หรือไม่ เพราะคนในกองทัพก็สงสัยว่าทำไมต้องเป็น พล.อ.ทนงศักดิ์ ซึ่ง พล.อ.อ.สุกำพลก็ไม่เคยตอบคำถามนี้ได้ ถ้ายังทำงานแบบรับคำสั่งจากผู้มีบารมีนอกพรรค นอก ครม.ที่เป็นขาใหญ่อยู่นอก ครม.การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการโดยเฉพาะในกระทรวงกลาโหมอาจจะเกิดปัญหาตามมาอีก เพราะถ้ารุกคืบส่วนนี้ได้ก็คงจะรุกคืบในการแต่งตั้งให้คนที่สนิทสนมกับเจ๊ ด.ไปอยู่ในจุดต่างๆ มากขึ้นเพราะอยู่ในช่วงฤดูแห่งการแต่งตั้งโยกย้าย ทำให้หลักธรรมภิบาลของประเทศเกิดปัญหา” นายองอาจกล่าว
นายองอาจยังตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้มีความพยายามผลักดันแก้ พ.ร.บ.กลาโหม เพื่อให้การเมืองล้วงลูกได้ แต่ถูกคัดค้านจากหลายฝ่าย อีกทั้งต้องใช้เวลานานในการแก้กฎหมาย ทำให้เรื่องดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น แต่การพยายามล้วงลูกในการย้ายเอาคนของตัวเองมาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะเป็นหนึ่งในกรรมการที่จะพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ด้วยการย้ายปลัด และเจ้ากรมเสมียนตรา ที่เป็นผู้ช่วยเลขานุการในคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายออก เป็นการรุกคืบส่งคนของการเมืองไปมีผลต่อการแต่งตั้งหรือไม่ เพราะยังแก้กฎหมายไม่ได้ก็ใช้วิธีส่งคนเข้าไปแทน
