โฆษกประชาธิปัตย์ขุดรัฐโกหก 6 สี เล่น “กิตติรัตน์” ไวต์ลายส่งออก “อำมาตย์เต้น” ดันยางพาราเละ, งบกลาง 1.2 แสนล้านเยียวยาท่วมไม่ครบ แถมโม้ขายข้าวจริงแค่ 4.4 แสนตัน จวกบิดเบือนเผาเมือง ชี้ “สุรพงษ์” โมเมมั่วพาสปอร์ต “นช.แม้ว” โต้ “นพเหล่” ยันไม่เคยพูดศาลโลกรับคำร้องฆ่าตัดตอนแล้ว
วันนี้ (16 ก.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การพูดโกหกของรัฐบาลโดยแบ่งเป็นสีได้ 6 สี ได้แก่ 1. โกหกสีขาว คือ การที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการรกระทรวงการคลัง โกหกตัวเลขการส่งออกซึ่งเป็นรายได้ของประเทศ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และยังปฏิเสธความรับผิดชอบโดยอ้างว่าเป็นความผิดของข้าราชการในการตอบกระทู้สดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
2. โกหกสีเขียว เกี่ยวกับเรื่องราคายางพารา โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาระบุว่าจะผลักดันให้ราคายางพาราสูงถึง 120 บาทต่อกิโลกรัม แต่จนถึงขณะนี้ราคายางพาราลดลงถึง 80 บาทต่อกิโลกรัม และมีการข้ออนุมัติงบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทในการช่วยเหลือและรับปากว่าจะรับซื้อยางพาราในราคา 104 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพราะเกษตรกรไม่ได้รับประโยชน์และราคายางก็ไม่ได้สูงขึ้น โดยในวันที่ 18 ก.ย. กระทรวงเกษตรฯ จะมีการของบประมาณเพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาทจาก ครม. ซึ่งตนเห็นว่ารัฐบาลใช้วิกฤตของประเทศในการแสวงหาผลประโยชน์ และมองว่าเป็นการเปิดช่องทางการทุจริต
3. โกหกสีฟ้า เกี่ยวกับการใช้งบกลาง 1.2 แสนล้านบาท ในการเยียวยาอุทกภัย ซึ่งขณะนี้ในหลายพื้นที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาตามที่ได้ประกาศไว้และได้มีการแบ่งปันผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจรวมถึงโกหกว่าได้ดำเนินการแผนบริหารจัดการต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำอย่างครบถ้วน แต่ปีนี้น้ำมาไม่มากกลับเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ขณะเดียวกันพื้นที่แก้มลิง 2 ล้านไร่ รวมถึงพื้นที่ฟลัดเวย์ก็ไม่มีจริงตามที่ได้พูดไว้
4. โกหกสีเหลือง เกี่ยวกับการจำนำข้าวที่รัฐบาลรับปากจะรับจำนำข้าวทุกเม็ดในราคา 1.5 หมื่นบาทต่อตัน แต่กลับโดนโรงสีกดราคา ซึ่งเกษตรกรไม่ได้รับผลประโยชน์ และประเทศไทยเสียประโยชน์จากการส่งออกข้าวในปีนี้โดยตกอยู่อันดับที่ 3 ของโลก ขณะที่ยอดการส่งออกลดลงร้อยละ 46 นอกจากนี้ รัฐบาลยังโกหกว่าได้มีการทำสัญญาส่งออกแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี จำนวน 7.3 ล้านตัน แต่สัญญาจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีอยู่ที่ 4.4 แสนตัน
5. โกหกสีดำ มีการบิดเบือนเหตุการณ์การชุมนุมในปี 53 มีชายชุดดำถืออาวุธต่อสู้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีบันทึกชัดเจนและกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ทราบข้อมูลดีที่สุด เพราะฉะนั้น พ.ต.อ.ประเวศ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ พยายามบิดเบือนให้ชายชุดดำเป็นผู้บริสุทธิ์ สร้างความเข้าใจผิดตนจะนำสำนวนคดีก่อการร้ายทั้ง 26 คน ที่รวม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปเตือนความจำรวมถึงจะสอบถามความคืบหน้าคดีของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้มีความชัดเจนแต่กลับเงียบหายไป
และ 6. โกหกสีใสๆ เกี่ยวข้องกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ที่ระบุว่าการออกหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการดำเนินการในลักษณะเดียวกับนายกษิต ภิรมย์ ที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งที่ข้อเท็จจริงนายกษิตได้ยกเลิกพาสปอร์ตตามระเบียบว่าด้วยการออกหนังสือเดินของกระทรวงต่างประเทศ ข้อ 23 (7) ที่เป็นระเบียบการยกเลิกหนังสือเดินทาง แต่นายสุรพงษ์ได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวเพื่อคืนหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยใช้ระเบียบเดียวกัน ถือเป็นความผิด เพราะเมื่อมีการยกเลิกหนังสือเดินแล้วจะต้องขอหนังสือเดินทางใหม่ และพิจารณาในข้อ 21 ของระเบียบดังกล่าว และที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นบุคคลที่ถูกหมายจับและมีโทษจำคุกในคดีอาญา จึงไม่อาจออกหนังสือเดินทางได้และขณะนี้ตนอยู่ระหว่างศึกษาช่องทางตามกฎหมายที่จะฟ้องคดีอาญามาตรา 157 ต่อนายสุรพงษ์ เนื่องจากมีเจตนาทุจริตออกหนังสือเดินทางเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพวกฟ้องซึ่งก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ
นายชวนนท์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม กรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาโจมตีตนเองว่าให้ข้อมูลเท็จว่าศาลอาญาระหว่างประเทศได้รับคำร้องคดีฆ่าตัดตอน ซึ่งข้อเท็จจริงตนเองระบุเพียงว่าศาลอาญาระหว่างประเทศรับได้รับหนังสือจากนายกษิต และยินดีที่จะรับข้อมูลเพิ่มเติม แต่ไม่เคยระบุว่าศาลอาญาระหว่างประเทศรับฟ้องเรื่องดังกล่าว