ปชป.ลุยคดีฆ่าตัดตอน ระบุเหยื่อ 20 ราย แสดงตนเป็นโจทก์ร่วมฟ้อง “นช.แม้ว” ศาลโลก “องอาจ” เรียกร้อง “นายกฯ ปู” รับเบาะแสทุจริตด้วยตัวเอง
นายราเมศ รัตนะเชวง ทีมหมายพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะทำงานติดตามช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถลงว่า จากการที่คณะทำงานได้เปิดรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าวพบว่า มีผู้ให้ความสนใจเข้าร้องเรียนและแสดงตนเป็นโจทก์ร่วมในการยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณต่อศาลอาญาระหว่างประเทศกว่า 20 ราย ซึ่งคณะทำงานจะรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอให้กับคณะทำงานของนายกษิต ภิรมย์ รองนายกรัฐมนตรีเงาพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อนำเป็นข้อมูลในการส่งให้กับอัยการระหว่างประเทศ ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อประกอบคดีในการยื่นฟ้องต่อศาลโลก เพราะนโยบายดังกล่าวทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบมีผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิต โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เอาจริงเอาจังต่อการปราบปรามการทุจริต เพราะที่ผ่านมาหลายฝ่ายได้พยายามชี้ช่องการทุจริต เช่น น้ำท่วม และจำนำข้าว แต่นายกฯ กลับ บอกให้ผู้ชี้ช่องนำข้อมูลไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ท.) ซึ่งจะทำให้การปราบปรามการทุจริตไม่เป็นผล
เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า ดีเอสไอเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลในการทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม และรับใช้รัฐบาลในหลายเรื่อง ขณะที่ ป.ป.ท.ซี่งมี พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการ ป.ป.ท. ที่มุ่งมั่นในการปราบปรามการทุจริต แต่กลับถูกย้ายออกจากตำแหน่ง แสดงว่าหน่วยงานเหล่านี้ไม่ใช่ความหวังของประชาชน ดังนั้นการที่รัฐบาลออกมาพูดเช่นนี้ จะยิ่งทำให้มีปัญหาการทุจริตมากยิ่งขึ้น เพราะหน่วยงานเหล่านี้ไม่สามารถทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าจะมีการจัดการการทุจริตอย่างจริงจัง นายกฯ ควรจะเป็นผู้นำเบาะแสการทุจริตไปจัดการกับฝ่ายการเมือง และฝ่ายข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เพราะรัฐบาลมีกฎหมายเครื่องมือที่เข้าไปจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้