“นพดล” โวย ปชป.ใส่ไข่ ศาลโลกรับคำร้องคดีฆ่าตัดตอนยุครัฐบาล “นช.แม้ว” ระบุจดหมายที่นำมาอ้าง แค่ขอบคุณ “กษิต” ที่มาเยือน
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์นำจดหมายซึ่งอ้างว่าศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ รับคำร้องคดีฆ่าตัดตอนสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วว่า ถ้าคนอ่านภาษาอังกฤษออกจะรู้ว่าจดหมายที่พรรคประชาธิปัตย์นำมาอ้างว่าศาลอาญาระหว่างประเทศรับคำร้องคดีฆ่าตัดตอนนั้น เป็นเรื่องใส่ไข่ทั้งเพ เพราะเนื้อหาในจดหมายนั้นเขาเขียนถึงนายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ว่าขอบคุณที่มาเยือน
“เขาเป็นผู้พิพากษาคงพูดเรื่องในเมืองไทยไม่ได้ แต่ถ้าคุณมีหลักฐานก็ติดต่ออัยการศาลได้ และหวังว่าประเทศไทยจะเข้ามาเป็นสมาชิกศาล ซึ่งจะเห็นได้ว่าจดหมายดังกล่าวนั้นไม่มีเนื้อหาว่าเป็นการรับคำร้องอะไรเลย ดูแล้วนึกถึงผัดกะเพราเนื้อใส่ไข่นกกระจอกเทศ ที่เนื้อไม่ค่อยมี มีแต่ไข่”
นายนพดลยืนยันว่า ศาลอาญาระหว่างประเทศยังไม่ได้รับพิจาณาคดีฆ่าตัดตอนเพื่อเอาผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวอ้าง แต่คงไม่ดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเอาผิดฐานหมิ่นประมาทเพราะขนาดที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณฟ้องร้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณต้องการกลับประเทศไทยมาเป็นประธานาธิบดี ศาลยังตัดสินว่าไม่ผิดฐานหมิ่นประมาททั้งที่เป็นข้อกล่าวหารุนแรงมากอีกทั้งไม่ต้องการเสียเวลาฟ้องร้องกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นจะใช้วิธีตอบโต้ ชี้แจงข้อมูลทำความเข้าใจกับประชาชนดีกว่า
นายนพดลกล่าวว่า สำหรับกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์นำประเด็นการคืนพาสปอร์ตให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นประเด็นโจมตีทางการเมืองนั้น พ.ต.ท.ทักษิณมองว่าไม่น่าจะส่งผลใดๆ ต่อรัฐบาลเพราะเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศจะชี้แจงรวมทั้งเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ดังนั้นไม่มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ และแม้ว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้พาสปอร์ตไทยสลับกับพาสปอร์ตมอนเตเนโกรยื่นขอวีซ่าเดินทางไปประเทศต่างๆ แต่ก่อนได้คืนพาสปอร์ตไทยก็สามารถเดินทางเข้าต่างประเทศได้โดยไม่มีปัญหา และวันที่ 23 ก.ย.นี้จะเดินทางมาประเทศสิงคโปร์
ส่วนเรื่องของ พ.ร.บ.ปรองดอง ที่จะมีผลต่อการกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายนพดลกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เร่งรัด เพราะต้องการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพต่อการบริหารประเทศ แต่ไม่ว่าจะมีกฎหมายปรองดองหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ปรารถนาให้เกิดความสงบสุข สมานฉันท์ในประเทศไทย
