xs
xsm
sm
md
lg

“White Lie” หนักกว่า “วิกฤตยุโรป” แต่โทษไม่ถึงยิงเป้า “เดอะโต้ง” ฝากขออภัยหากสื่อสารไม่ชัดเจน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติรัตน์ ณ ระนอง
“กิตติรัตน์” ยันไม่เคยบอก “ส่งออก” จะโตได้ถึงร้อยละ 15 แต่เป็นเรื่องของการตั้งเป้าหมาย ซึ่งไม่ควรจะน้อยกว่าปี 54 ย้ำการพูดในวันดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดผลทางลบ และความสามารถในการสื่อสารที่ไม่ดีของตนถูกแปลความไปในทางลบ ตอนนี้จึงไม่อยากพูดอะไรเยอะแยะเพราะอาจเป็นการแก้ตัว แต่หากใครได้ฟังการชี้แจงแล้วได้แปลความเป็นอย่างอื่นก็ต้องขออภัยหากการสื่อสารของตนไม่ชัดเจน

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์วิจัยเอแบคโพลล์ทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง ความกังวลของสาธารณชนต่อการโกหกสีขาว โดยร้อยละ 83.5 ระบุถึงความรับผิดชอบภายหลังมีข่าวการโกหกว่าควรลาออกว่า ที่จริงตนมีหน้าที่พูดอธิบายมาโดยตลอดเวลา 1 ปีที่อยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ที่ไม่ได้ตอบหรือไม่ได้ชี้แจงอะไรที่ผ่านมามีอยู่ 2 สาเหตุ คือ 1. ตนเดินทางไปภารกิจต่างประเทศ และ 2. คิดว่าสิ่งที่ตนได้พูดในวันดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาที่จะไปทำให้เกิดผลลบ และความสามารถในการสื่อสารที่ไม่ดีของตนถูกแปลความไปในทางลบ แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็ตั้งใจจะตอบกระทู้เรื่องนี้ในสภาด้วย จึงไม่อยากพูดอะไรเยอะแยะเพราะอาจเป็นการแก้ตัว ซึ่งก็ไม่ได้อยากแก้ตัว พูดซ้ำหรือพูดในเรื่องเดิมในถ้อยคำที่ต่างออกไปเพราะอาจจะกลายเป็นเรื่องที่บิดเบือน

อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาอะไร เพราะหากจำกันได้เป้าหมายการส่งออกเมื่อปี 2554 เคยตั้งเอาไว้ที่ร้อยละ 15 โดยใน 3 ไตรมาสแรกทุกคนคิดว่าเราจะทำได้ถึงเป้าอย่างสบายๆ และเป้าหมายดังกล่าวก็ไม่ใช่เป้าหมายที่สูงอะไรเมื่อเทียบกับในอดีต และพอจบปี 2554 เราก็สามารถทำเป้าหมายการขยายตัวการส่งออกได้ที่ร้อยละ 17 ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มาปรึกษาว่าในปี 2555 หากจะมีการตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้เท่าเดิมจะมีความเห็นเป็นอย่างไร ซึ่งตนได้สำรวจหน่วยงานต่างๆ โดยทุกคนก็เห็นว่าในปี 2554 ไทยไม่ได้มีการขยายตัวส่งออกมากนัก หากในปี 2555 จะเป็นเป้าหมายเดิมก็คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่ขณะเดียวกัน ในความรู้สึกของตนที่ได้ติดตามภาวะต่างๆ ในโลกอย่างใกล้ชิดก็มีความรู้สึกว่าจะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าจะให้คัดค้านเป้าหมายดังกล่าวก็จะกลายเป็นปัญหาเรื่องความเชื่อมั่น เพราะขนาดหัวหน้าทีมเศรษฐกิจยังค้านเป้าหมายการขยายตัวการส่งออกซึ่งได้ตั้งเอาไว้เท่าเดิมเมื่อปีที่แล้วก็เป็นเรื่องไม่ดี ฉะนั้นตนเพียงแต่ชี้แจงว่าตนอาจจะยั้งที่จะแสดงความเห็นส่วนตัวที่จะไปคัดค้านตรงนั้น โดยรู้สึกว่าการที่ไม่แสดงความเห็นส่วนตัวจริงๆ จังๆ ก็เป็นอะไรที่ไม่สบายใจ แต่ก็ถือว่าเป็นหน้าที่ในการที่จะทำงานร่วมกัน

นายกิตติรัตน์กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าตนคิดดี พูดชัด และไม่ได้พูดว่าจะถึงร้อยละ 15 แน่นอน แต่พูดชัดว่าร้อยละ 15 เป็นเป้าหมายแล้วก็ปฏิบัติกันจริงจัง เนื่องจากหากเราทำแล้วเกิดถึงเป้าที่ตั้งเอาไว้ขึ้นมาจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ในเมื่อทำกันมาถึงขณะนี้แล้วแต่ไม่สามารถไปใกล้เป้าหมายได้ก็คิดว่าคงจะต้องยอมรับความจริง ซึ่งอาจอธิบายว่าการยอมรับความจริงเป็นการไม่แสดงความจริงใจของตนในลักษณะที่เป็นเรื่องตำหนิตัวเองหรือถ่อมตัว หวังว่าคงไม่ได้ถูกมองไปว่าเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ เพราะสิ่งที่ดำเนินการมาตลอดชีวิตถือว่าจริงใจกับทุกเรื่องอยู่แล้ว

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า การตั้งเป้าในการทำงาน เราจะตั้งเป้าไว้สูงบ้างไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกอะไร ทั้งนี้ เรื่องความจริงกับความไม่จริงเป็นอย่างนี้ หากเป็นอดีตมีใครพูดไม่จริงเรื่องข้อมูลก็เท่ากับเป็นการให้ข้อมูลเท็จ แต่การตั้งเป้าหมายในการทำงาน ซึ่งเป็นการคาดการณ์เรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต และไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรที่จะไปตั้งเป้าเพื่อที่จะไปหลอกให้คนหลงทาง แต่การตั้งเป้าเพื่อให้คนทำงานร่วมกันจริงจังเพื่อให้เกิดผลดีที่สุดแก่พี่น้องประชาชนตนก็คิดว่ามีเหตุผลประกอบ หากตนจะรับก็รับว่าตนไม่จริงใจพอที่จะค้านเป้าที่ถูกกำหนดขึ้นมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ทำให้ตัวเลขการส่งออกไม่เป็นไปตามเป้าหมายเนื่องจากปัจจัยภายนอกใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่าใช่ เพราะหากเหตุการณ์ต่างๆ อำนวยจริงๆ โอกาสที่จะทำให้เป้าหมายการส่งออกถึงร้อยละ 15 ก็อาจมีได้ แต่ก็ยอมรับว่าในขณะที่มีการตั้งเป้าโอกาสที่จะไม่ถึงก็มีอยู่มากเช่นกัน เพียงแต่ตนในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจจะให้เป็นผู้ที่ลุกขึ้นมาชี้เลยหรือว่าไม่ถึง ตรงนั้นก็ถือว่าตนขาดความจริงใจไปบ้าง อย่างไรก็ตาม หากที่ใครได้ฟังการชี้แจงของตนในวันนั้นได้ไปแปลความเป็นอย่างอื่นก็ต้องขออภัยหากการสื่อสารของตนไม่ชัดเจน


กำลังโหลดความคิดเห็น