xs
xsm
sm
md
lg

วุฒิฯ ถกถอดถอน “สุเทพ” กมธ.รุมซัก 2 ฝ่าย นัดแถลงปิดคดีด้วยวาจา 17 ก.ย.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
วุฒิสภาถกถอด “สุเทพ” ให้ กมธ.ซักรวม 6 ญัตติ “กล้านรงค์” แจงไม่มี กม.บังคับ ป.ป.ช.ต้องวินิจฉัยแนวทางเดียวกับ กกต. ยันขัดรัฐธรรมนูญชัด ชี้ยกคำสั่งศาล รธน.สู้ก็เปลี่ยนแปลงมติไม่ได้ ระบุคนละเหตุกับ “ประชา” ย้ำแค่ส่อกระทำผิดก็ฟันได้แล้ว ด้านอดีตรองนายกฯ แจงไม่ได้ฝ่าฝืน รธน. บอกส่งไปช่วยไม่ได้เงินเพิ่ม การันตีบริสุทธิ์ใจ ชู “บวรศักดิ์” คอนเฟิร์มไม่ผิด - นัดประชุมแถลงปิดสำนวนด้วยวาจา 17 ก.ย.


วันนี้ (11 ก.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 14.00 น. การประชุมวุฒิสภา มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา เป็นประธาน เพื่อพิจารณาสำนวนการถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้เป็นการประชุมเพื่อซักถามตามญัตติที่คณะกรรมาธิการซักถาม 8 คน รวบรวมประเด็นการซักถามจาก ส.ว. รวม 6 ญัตติ เพื่อซักถามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้กล่าวหา 12 คำถาม และนายสุเทพผู้ถูกกล่าวหา 11 คำถาม โดยกรรมาธิการซักถามได้ซักถาม นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. ว่ามีการนำผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ให้ยกคำร้องกรณีดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาประกอบด้วยหรือไม่ รวมถึงคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ยกคำร้องกรณี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธาน ศปภ. ที่มีคำสั่งแต่งตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยมาช่วยงาน ศปภ.จะมีผลผูกพันต่อ ป.ป.ช.หรือไม่ และคำว่ามีเจตนาพิเศษที่อยู่ในสำนวนของ ป.ป.ช.ถือว่ามีความผิดหรือไม่ และในเมื่อชี้มูลความผิดแล้วทำไมไม่ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการส่งเรื่องให้ศาลเพื่อดำเนินคดีอาญาด้วย

นายกล้านรงค์ชี้แจงว่า แม้ กกต.จะเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่มีกฎหมายใดบังคับว่า ป.ป.ช.ต้องวินิจฉัยในแนวทางเดียวกับ กกต. ป.ป.ช.มีอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโดยอิสระ และเห็นว่าการกระทำของนายสุเทพขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนการหยิบยกคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญขึ้นมาต่อสู้ภายหลัง ป.ป.ช.มีมติชี้มูลไปแล้วนั้น ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำตัดสินได้ เพราะกรณีของ พล.ต.อ.ประชา ศาลรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นกรณีมหาอุทกภัยร้ายแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่คนทุกหมู่เหล่าต้องช่วยกัน แต่กรณีนายสุเทพเป็นคนละกรณีกัน เพราะเป็นการเข้าไปแทรกแซงการทำหน้าที่ของข้าราชการ จึงยังยืนยันว่าถึงจะให้พิจารณาอีกครั้ง ป.ป.ช.ก็จะชี้มูลความผิดเพื่อส่งให้วุฒิสภาดำเนินการถอดถอน และยืนยันว่าการกระทำของนายสุเทพเป็นการแทรกแซงข้าราชการจริง เนื่องจาก ส.ส.ยังสามารถช่วยงานด้วยวิธีอื่นได้ อาทิ การตั้งญัตติหรือกระทู้ถามในสภา ส่วนประเด็นว่ามีเจตนาพิเศษนั้น ยืนยันว่ากระบวนการถอดถอนกับการดำเนินคดีทางอาญา มีลักษณะแตกต่างกัน การถอดถอนจะใช้คำว่า “ส่อกระทำผิด” แค่นี้ก็สามารถถอดถอนได้แล้ว ไม่จำเป็นต้อง “ชี้มูลความผิด” อย่างในคดีอาญา และกรณีนี้ ป.ป.ช.เห็นว่าไม่จำเป็นต้องส่งดำเนินคดีทางอาญา

จากนั้นกรรมาธิการซักถามได้ถามนายสุเทพถึง มูลเหตุจูงใจในการส่ง ส.ส.ไปช่วยงานกระทรวงวัฒนธรรม มีการสั่งการ หรือบังคับให้รัฐมนตรีต้องปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ และในฐานะรองนายกฯมีอำนาจหน้าที่ใดเกี่ยวข้องกับกระทรวงวัฒนธรรม และนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 17/2555 ของ พล.ต.อ.ประชา มาประกอบการต่อสู้คดีหรือไม่

นายสุเทพชี้แจงว่า ไม่มีเจตนาฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 266 (1) และตัวเองไมได้ส่ง ส.ส.ไป แต่เป็น ส.ส.ที่เสนอตัวอยากไปช่วยประสานงานของกระทรวง โดยไม่รับค่าตอบแทน ไม่มีการแทรกแซงอะไร หรือมีห้องทำงาน โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของรัฐมนตรีว่าจะเอาไปช่วยงานเรื่องอะไร ไม่ได้ไปกดดันหรือสั่งการอะไร ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ ตอนที่ทำหนังสือก็ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และภายหลังเมื่อมีคนท้วงติงว่าจะมีปัญหาข้อกฎหมาย ตนก็ส่งคนไปรับหนังสือคืน และจนถึงขณะนี้ ส.ส.ทั้ง 19 คน ไม่เคยเข้าไปทำงานในกระทรวงฯแต่อย่างใด ทั้งนี้ ป.ป.ช.เคยเชิญนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีต สนช.และนักวิชาการกฎหมายมาตีความมาตรา 266 (1) ก็ยืนยันว่าการกระทำของตนไม่ได้เป็นการก้าวก่าย แทรกแซง และสิ่งที่ตนทำไปสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา และคำวินิจฉัยของกกต.ก็วินิจฉัยว่าตนเองไม่ได้ไปแทรกแซงงานของข้าราชการแต่อย่างใด และยืนยันว่าศาลรัฐธรรมนูญ 17/2555 เคยวินิจฉัยมาตรา 266 (1) ว่า ส.ส.สามารถช่วยเหลือความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้หรือนำความเดือดร้อนให้รัฐบาลรับทราบ ดังนั้น กรณีที่ ป.ป.ช. ระบุว่า ส.ส.มีหน้าที่เสนอญัตติ หรือตั้งกระทู้ถามเท่านั้น ตนเห็นว่าไม่สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผูกพันทุกองค์กร และตัวเองก็ไม่ได้รับความยุติธรรมเพราะ ป.ป.ช.ได้วินิจฉัยในมาตรฐานที่แตกต่างออกไป

หลังจากคณะกรรมาธิการฯได้ซักถามเป็นที่เรียบร้อย นายสุรชัยได้แจ้งว่า ป.ป.ช.และนายสุเทพได้ยืนยันแถลงปิดสำนวนด้วยวาจาในวันที่ 17 ก.ย. ดังนั้นจะมีการนัดประนัดประชุมวุฒิฯ ในวันดังกล่าว ก่อนลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนในวันที่ 18 ก.ย.นี้




กำลังโหลดความคิดเห็น