นายกฯ ให้คำมั่นสภายุโรป เดินหน้าปรองดอง สร้างเศรษฐกิจแข็งแกร่ง

“ยิ่งลักษณ์” ให้ความมั่นใจสมาชิกสภายุโรป เผยพบปะเจ้าหน้าที่ระดับสูงอยู่เสมอ ย้ำพร้อมลุยให้เกิดปรองดองคนในชาติ ยึดหลักประชาธิปไตยภายใต้กฎหมาย พร้อมสร้างเศรษฐกิจเข็มแข็ง พร้อมคุยประเด็นป้องกันอุทกภัย และแก้ปัญหาชายแดนใต้ เชื่อปีนี้เอาอยู่

วันนี้ (28 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแวร์เนอร์ แลงเกน (Mr. Werner Langen) สมาชิกสภายุโรป และประธานกลุ่มดูแลความสัมพันธ์กับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาเซียน เข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของคณะสมาชิกสภายุโรป (Members of European Parliament - MEPs)

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับนายแวร์เนอร์และคณะอย่างเป็นทางการ และได้กล่าวแสดงความยินดีที่ในปี 2012 ไทยและสหภาพยุโรปมีความสัมพันธ์กระชับแน่นแฟ้นขึ้นในทุกมิติ ทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกล่าวว่าเมื่อไม่นานมานี้ได้พบกับ บารอนเนสส์ แคเทอรีน แอชตัน (Baroness Catherine Ashton) ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง และรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เมื่อครั้งเดินทางเยือนประเทศไทยในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังจะมีโอกาสได้พบปะกับนายเฮอแมน วาน รอมปาย (Herman Van Rompuy) ประธานคณะมนตรียุโรป ในระหว่างการเข้าร่วมประชุม UN General Assembly - UNGA ที่ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ อีกทั้งจะได้พบกับนายโฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ (José Manuel Barroso) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่มีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายน เช่นกัน ซึ่งจะได้ร่วมหารือเกี่ยวกับความร่วมมือที่เป็นไปได้ในอนาคต ของภูมิภาคเอเชียและสหภาพยุโรป

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวให้ความเชื่อมั่นแก่นายแวร์เนอร์และคณะเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยในด้านต่างๆ โดยเฉพาะสถานการณ์ด้านการเมืองว่า รัฐบาลมุ่งหน้าดำเนินนโยบายให้เกิดความปรองดองในชาติ โดยเน้นให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตามหลักการประชาธิปไตย และหลักกฎหมาย พร้อมทั้งสนับสนุนหลักสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการแสดงออก ส่วนด้านเศรษฐกิจ ไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมสนับสนุนสหภาพยุโรป ใช้ไทยเพื่อเป็นฐานการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีและคณะผู้แทนจากสมาชิกสภายุโรป ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านอื่นๆ ของไทย เช่น การรับมือและการเตรียมความพร้อมในการป้องกันอุทกภัย แนวทางและนโยบายในการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันความตั้งใจในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาที่เป็นข้อห่วงใยอย่างเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจว่า สถานการณ์อุทกภัยจะไม่เกิดขึ้นและสร้างความเสียหายเหมือนที่ผ่านมา รวมทั้งการดูแลปัญหาภาคใต้ด้วย