“ส.ส.คำนูณ” ระบุ “โกหกสีขาว” ของ “กิตติรัตน์” เป็นเรื่องใหญ่ต่อไปใครจะเชื่อถือรัฐบาล แถมผิดระเบียบสำนักนายกฯ ประมวลจริยธรรมข้าราชการ จี้ลาออก พร้อมเรียกร้องผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการ ด้าน ส.ว.ปราจีนฯ ให้รัฐบาลหยุดตรึงราคาพลังงาน
วันนี้ (27 ส.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การที่นายกิติติรัตน์ ณ ระนอง รองนายรัฐมนตรีและรมว.คลัง ออกมายอมรับว่า พูดไม่จริงในเรื่องเป้าหมายการส่งออกว่าจะขยายตัว 15 เปอร์เซ็นต์ แต่เป็นการโกหกสีขาวตามมาตรฐานสากลนั้น ตนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต่อไปใครจะเชื่อถือรัฐบาล ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ประจำปี 2556 ที่จะเข้าสู่วุฒิสภาในสัปดาห์หน้า เราจะรู้ได้อย่างไรตัวเลขใดโกหกสีขาวบ้าง หรือโกหกหมด
“ผมเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ประมวลจริยธรรมของข้าราชการ นักการเมือง ข้อ6 (2) (7) และข้อ 10 ข้อ 15 นายกิตติรัตน์จะต้องลาออกจากตำแหน่ง หรือถ้าไม่ลาออกอย่างน้อยต้องออกมาขอโทษประชาชน นักธุกิจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติว่าที่ผ่านมานายกิตติรัตน์กระทำการผิดพลาด ซึ่งจะหลีกหนีตอบปัญหานี้ไม่ได้เพราะตามประมวลจริยธรรมฯข้อ 30 นั้น ระบุไว้ให้มีหน้าที่ต้องกำกับดูแลงานในส่วนที่รับผิดชอบ อยากฝากไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินว่าเรื่องนี้ควรจะต้องมีการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ มาตรา 44 (2) ดำเนินการเกี่ยวกับจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 279 วรรค 3 การไม่ปฎิบัติตามจริยธรรม กระทำผิดทางวินัย ให้ผู้ตรวจการฯรายงานต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี หากเป็นการกระทำผิดร้ายแรงส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณาและดำเนินการ โดยให้ถือเป็นเหตุที่จะถูกถดถอนตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี กล่าวว่า การตรึงราคาพลังงานกองทุนเชื้อเพลิงของรัฐบาล ราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท ก๊าซแอลพีจีไม่เกิน 18 บาทต่อกิโลกรัม แต่คิดว่าการตรึงราคาควรจะทำในระยะสั้นๆ เท่านั้น เพราะอาจเป็นการบิดเบือนราคา ซ้ำร้ายมีการลักลอบนำไปขายต่างประเทศ ทำให้กระทบการใช้งบประมาณเป็นจำนวนมหาศาล ประกอบกับทางรัฐบาลเองต้องกู้เงินถึง 3 หมื่นล้านบาทมาเยียวยาเท่ากับเกิดผลกระทบทางอ้อมอย่างมากมาย เพราะนอกจากไม่รู้ราคาต้นทุน ยังทำให้ประชาชนไม่รู้คุณค่าของพลังงานที่นับวันยิ่งจะหมดไปจึงไม่อยากรอให้เกิดปัญหาในระยะยาวอีก
