ศาลเยาวชนและครอบครัวนัดฟังคำพิพากษา “แพรวา” ขับรถเฉี่ยวชนรถตู้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ บนถนนโทลล์เวย์ขาเข้า ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังการพิจารณาคดีและบันทึกภาพแต่อย่างใด
วันที่ 21 มิ.ย.นายสุภัค สิทธิวนิช อัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 1 ว่า กรณีศาลเยาวชนและครอบครัวนัดฟังคำพิพากษา น.ส.แพรวา (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เยาวชนขับรถเฉี่ยวชนรถตู้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ ว่า ในวันนี้(22 มิ.ย.)ศาลเยาวชนและครอบครัว ได้นัดฟังคำพิพากษากรณีดังกล่าว ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรตนไม่ขอออกความเห็น เนื่องจากไม่อาจคาดเดาดุลพินิจของศาลได้ ทั้งนี้ คดีนี้เป็นความผิดฐานประมาท ซึ่งผู้ใหญ่กระทำความผิดศาลยังให้รออาญา ดังนั้น กรณีเด็กกระทำผิดก็คงมีโทษไม่ต่างกัน ส่วนจะอุทธรณ์หรือไม่นั้น ปกติจะไม่อุทธรณ์ดุลพินิจของศาลในคดีเยาวชนอยู่แล้ว แต่ต้องเสนอให้อธิบดีอัยการสำนักคดีและครอบครัวจะเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง
คดีนี้เป็นที่สนใจของสังคมอย่างกว้างขวาง โดยช่วงค่ำวันที่ 27 ธ.ค.2553 น.ส.แพรวา ยืมรถฮอนด้าซีวิครุ่นไดเมนชั่น สีน้ำขาวของเพื่อน ทะเบียน ฎว 8461 กทม.มาบนถนนโทลล์เวย์ขาเข้า ช่วงสำนักงานปรมณูแห่งชาติ ได้พุ่งชนรถตู้โดยสาร โตโยต้า คอมมูเตอร์ ทะเบียน 13-7795 กทม.วิ่งระหว่าง ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต-อนุสาวรีย์ ที่มี นางนฤมล ปิตาทานัง เป็นคนขับรถตู้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 9 ศพ โดยเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.54 อัยการได้ยื่นฟ้อง น.ส.แพรวา เป็นจำเลยฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ จำเลยให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา และใช้หลักทรัพย์เป็นกรมธรรม์ประกันอิสรภาพมูลค่า 1 แสนบาทประกันตัวออกไป หลังยื่นฟ้องผู้เสียหาย 9 ราย ได้ยื่นฟ้องขอเป็นโจทก์ร่วม
อย่างไรก็ดี คดีนี้ศาลได้พิจารณาคดีลับ พนักงานอัยการนำพยานเข้าสืบ 30 ปาก ประกอบด้วย พยานผู้เชี่ยวชาญเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่น.ส.แพรววานำพยานเข้าสืบเพียง 3 ปาก คือ น.ส.แพรวา ทนายความ และบริษัทประกันภัยที่เจ้าของรถซีวิคซื้อกรมธรรม์ไว้ นำสืบในประเด็นทำนองว่า กรณีเป็นเหตุสุดวิสัย น.ส.แพรวา ขับรถมาตามปกติ แม้ใครที่ขับมาในลักษณะเดียวกันถึงอย่างไรก็ต้องชน โดยฝ่ายจำเลยตัดพยานอื่นๆ ออก จากนั้นศาลได้สืบถึงประเด็นเรื่องค่าเสียหายตามกฎหมายวิถีพิจารณาความอาญามาตรา 44/1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางให้ช่างภาพอยู่นอกเขตรั้วศาล ขณะที่ผู้สื่อข่าวสามารถเข้าไปภายในอาคารศาลเยาวชนและครอบครัวได้ แต่ไม่อนุญาตให้เข้าไปฟังการพิจารณาคดี
