"ยิ่งลักษณ์" จัดรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน" ขอบคุณประชาชนให้โอกาสรัฐบาลทำงานครบ 1 ปี แม้การทำงานมีข้อจำกัดเรื่องเวลา เพราะเกิดอุทกภัยใหญ่ รับเหนื่อย แต่ไม่ท้อ พร้อมเชิญร่วมงาน "รัฐบาลพบประชาชน ทุน เพื่อคุณภาพชีวิต" โปรโมท 10 นโยบายของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน" เช้าวันนี้ (25 ส.ค.) เป็นเทปสัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังเป็นประธานเปิดงาน“OTOP Midyear 2012 สู่ประชาคมอาเซียน” ที่มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 18-26 สิงหาคม 2555 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี โดยมี น.ส.อริสรา กำธรเจริญ เป็นผู้ดำเนินรายการ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการทำงานครบรอบ 1 ปีของรัฐบาลว่าเวลาผ่านไปตั้งแต่วันแรกที่รัฐบาลประกาศรับใช้พี่น้องประชาชน ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้โอกาสรัฐบาลเข้ามาทำงาน แม้ว่าการทำงานตลอดระยะเวลาที่ได้เข้ามานั้นจะถูกจำกัดด้วยเวลา ขณะนั้นต้องประสบปัญหาอุทกภัยอย่างรุนแรงในประเทศ ปัญหาด้านเศรษฐกิจของโลก รัฐบาลตั้งใจทำงานและพยายามแก้ปัญหา นำความห่วงใยของพี่น้องประชาชนนำมาแก้ไขปรับปรุง ซึ่งทำงานเต็มที่อย่างที่แถลงไว้ต่อพี่น้องประชาชนก็มีเร่งทำในปีที่ 1 แล้ว ส่วนบางโครงการก็ต้องติดตามต่อไปรัฐบาลน้อมนำทุกความห่วงใยนำมาคิด แก้ไข เพื่อปรับปรุงให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมีความสุข
ผู้ดำเนินรายการถามว่า 1 ปีที่ผ่านมามีท้อหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "ไม่เชิงว่าท้อแต่อาจจะเหนื่อยมากกว่า เพราะบางครั้งงานเยอะ และอยากให้เห็นสิ่งที่ดีกว่านี้ แต่มีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เรื่องน้ำ เพราะเข้ามาน้ำก็เต็มเขื่อนแล้ว อาจจะมีที่ไม่ตรงตามเป้าหมายบ้าง แต่ถามว่าท้อไหม ไม่ท้อ ทำงานเต็มที่เพราะพี่น้องประชาชนก็คาดหวัง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการจัดงานแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีว่า ตั้งใจจะบอกว่า นโยบายเสนอต่อพี่น้องประชาชนแล้ว ซึ่งอยากให้พี่น้องประชาชนร่วมงาน"รัฐบาลพบประชาชน ทุน เพื่อคุณภาพชีวิต" ซึ่งจัดที่สนามกีฬาราชมังคลาสถาน หัวหมากในวันนี้ จะมีการนำนโยบายประมาณ 10 นโยบายที่เกี่ยวกับพี่น้องประชาชนในเรื่องของแหล่งทุนต่างๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ใช้สิทธิเต็มที่ เช่น กองทุนตั้งตัวได้ กองทุนพัฒนาสตรี เป็นต้น ทีสามารถไปหาข้อมูลได้ทั้งในกรุงเทพ และในต่างจังหวัดที่จัดทั่วประเทศ
ส่วนงานโอท็อป 2012 ที่จัดขึ้น ถือว่าเป็นการนำสินค้าของชุมชนแต่ละชุมชนมาพัฒนา รัฐบาลก็จะส่งเสริมการยกระดับสร้างผลผลิตสินค้าเพิ่มเติม โดยแบ่งกลุ่มสินค้า โดยควบคู่ไปกับคุณภาพและปริมาณ ซึ่งตรงนี้รัฐบาลเล็งเห็นที่จะเข้าไปแก้ไข ฟื้นฟูสินค้า เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดย 4 กลุ่มที่แบ่งนั้น ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 คือ สื่อสากล เป็นกลุ่มแรกที่ทำสินค้าให้มีคุณภาพ และปริมาณที่สูง ตรงนี้รัฐบาลมีการส่งเสริม พัฒนา วางแผนว่าจะทำอย่างไรให้สินค้ากลุ่มนี้มีช่องทางในการส่งออกที่มากขึ้น
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มที่เน้นคุณภาพงานฝีมือ ซึ่งใช้กลยุทธ์ในการน้อมนำศิลปาชีพมาเป็นแนวทางในการส่งเสริม ให้ความรู้ด้านภูมิปัญญา เสริมสร้างความเป็นเอกลักษณ์มาสืบทอด เพื่อพัฒนาฝีมือให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ ตรงนี้รัฐบาลจึงเล็งเห็นในเรื่องการจดสิทธิบัตรสินค้า เพื่อตอกย้ำภูมิปัญญาไทย
กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มสร้างตัว สินค้าจำนวนปานกลางกำลังผลิตมีมาก ตรงนี้รัฐบาลมองว่า จะส่งเสริมด้านใดให้มีผลผลิตที่มีมากขึ้น อาทิ การเพิ่มมูลค่าสินค้าให้ดูน่าซื้อมากขึ้น
และกลุ่มที่ 4 ก่อร่างสร้างตัว คือ ผลิตง่าย ไม่มีจำนวนมากนัก อาจขายในชุมชน เล็งเห็นว่าควรส่งเสริมคนในชุมชนสนับสนุนให้เกิดการผลิตสินค้าร่วมกันเฉพาะภายในชุมชน เพื่อให้ชุมชนแข็งแรงทำงานเป็นกลุ่ม ซึ่งจะทำให้สินค้าเพิ่มขึ้น
"แนวทางแก้ไขหรือส่งเสริมงานของกลุ่มสินค้าโอท็อปนั้น ตรงนี้รัฐบาลพยายามหาช่องแหล่งเงินทุน เพิ่มความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการ และรัฐบาลพยายามสนับสนุนช่องทางการจำหน่าย นำกลไกภาครัฐมาช่วย อาทิ การจัดงานเพื่อเปิดโอกาสให้ชุมชนนำสินค้ามาขาย เพิ่มความรู้ในการประชาสัมพันธ์เพื่อให้พี่น้องประชาชนมาร่วมกันซื้อสินค้า และอยากเห็นสินค้าโอท็อปของประเทศเราไปอยู่ตามประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย"