ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ยิ่งลักษณ์” ขึ้นเชียงใหม่เดินสาย 3 งานรวด ประเดิมเป็นประธานปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ 80 พรรษา ที่แม่แตง-ชวนประชาชนร่วมปลูกป่าถวาย จากนั้นเป็นประธานประชุมวิชาการนานาชาติ เรื่องแนวทางการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนต้นแบบ ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ก่อนปิดท้ายเปิดงานแสดง OTOP สินค้าภูมิปัญญาที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ลั่นพร้อมหนุน OTOP เต็มที่
วันนี้ (8 ส.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังบริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์ ศูนย์ฝึกอาชีพนักเรียน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 3 บ้านหนองผึ้ง หมู่ที่ 7 ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี รวมทั้งร่วมทำการปลูกป่ากับคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และประชาชนที่เข้าร่วมงาน
โครงการดังกล่าว ซึ่งมีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดำเนินโครงการนั้นจัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 โดยรณรงค์ให้ประชาชนในทุกพื้นที่ได้ร่วมกันปลูกป่าเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวาย รวมทั้งเพื่อเป็นการฟื้นฟู และเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้มีความสมบูรณ์ อันถือเป็นการสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในด้านการฟื้นฟูและรักษาทรัพยากรป่าไม้ และสิ่งแวดล้อม
การเปิดโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินีในวันนี้ มีการทำพิธีเปิดพร้อมกันใน 5 จุดจาก 4 ภาคทั่วประเทศ ได้แก่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดน่าน จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยในส่วนของการทำพิธีเปิดโครงการที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้มีการปลูกต้นไม้รวมทั้งสิ้น 16,000 ต้น ในพื้นที่ทั้งหมด 80 ไร่
นอกจากนี้ ยังมีการแจกจ่ายกล้าไม้ และเมล็ดพันธุ์ให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนำไปเพาะปลูก ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ร่วมปลูกต้นสักไว้ในพื้นที่ ร่วมกับต้นไม้ของรัฐมนตรี ข้าราชการ และประชาชนที่มาร่วมงานอีกด้วย
ต่อมานายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เพื่อเป็นประธานในการเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ ในหัวข้อ “การยกระดับคุณภาพชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นอาเซียน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคม 2555 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่
งานประชุมวิชาการนานาชาติในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของหมู่บ้านชุมชนแบบมีส่วนร่วม 84 หมู่บ้านเฉลิมพระเกียรติ โดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ร่วมกับสำนักงานสภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ มหาวิทยาลัยราชมงคลทั้ง 9 แห่งทั่วประเทศ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินงาน
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา และสร้างการแลกเปลี่ยนความรู้ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของหมู่บ้านชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศในระยะยาว และการเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางมายังท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดการแสดงผลิตภัณฑ์ OTOP ภายใต้โครงการ สืบสานสุดยอดภูมิปัญญาไทยสู่ระดับเวทีโลก ภูมิปัญญาแห่งอารยะ ศิลปะแห่งแผ่นดิน (OTOP Thai Wisdom of the Kingdom) ซึ่งเป็นการนำผลงานผลิตภัณฑ์ OTOP ต่างๆ ที่ได้รับการคัดสรรมาจัดแสดงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการสนามบินได้สัมผัส และเห็นถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่นที่เกิดจากภูมิปัญญา และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม
กิจกรรมดังกล่าว ซึ่งมีสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ดำเนินงานนั้น จะมีการจัดแบ่งผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 4-5 ดาวออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ ผ้าและเครื่องแต่งกาย, ของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก, อาหาร, เครื่องดื่มและสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร และนำมาจัดแสดงรวมทั้งสิ้น 8 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำนวน 4 ครั้ง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีก 4 ครั้ง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้กล่าวกับผู้ร่วมงานในพิธีเปิดงานดังกล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ OTOP ที่เกิดจากภูมิปัญญาไทยที่มีอยู่มากมายให้นักท่องเที่ยว และชาวต่างชาติได้รู้จัก
ส่วนการนำผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงที่สนามบิน เพราะเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการจำนวนมาก จึงถือเป็นอีกช่องทางที่จะได้เผยแพร่ผลงานจากภูมิปัญญาของคนไทยให้โลกได้รับรู้ ขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่นำมาจัดแสดงล้วนมีการนำเสนอรายละเอียดที่เกี่ยวข้องเอาไว้ ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นการขยายความให้ชาวต่างชาติได้เข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการนำเสนอถึงคุณค่าในการนำภูมิปัญญาไทยมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันที่จะสนับสนุนการผลิตและพัฒนาสินค้า OTOP ในทุกๆ ด้าน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย