กระโถนนายกฯ ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ ตอก ปชป.ชิงแถลงแค่หนังม้วนเก่า เหน็บไม่ใช่ทุกข์ประชาชน แต่เป็นทุกข์ในใจฝ่ายค้านที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล เผยนายกฯ เรียกประชุม รมต.เพื่อไทยที่บ้านพิษฯ พอใจผลงานทุกกระทรวง เตรียมจัดแถลงผลงานรายกระทรวงสัปดาห์หน้า อ้างผลงานอื้อแต่เสียเวลาสางภาระรัฐบาลก่อน
วันนี้ (24 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยที่บ้านพิษณุโลก โดย น.ส.ศันสนีย์กล่าวว่า นายกฯ ได้เรียกประชุมรัฐมนตรีเพื่อติดตามผลงานต่างๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่ ของแต่ละกระทรวงว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก่อนที่จะชี้แจงแถลงผลงานให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบ ทั้งนี้ นายกฯ พอใจในผลงานที่ผ่านมา และจะนำมาใช้ประกอบกับการชี้แจงประชาชนรวมถึงการแถลงผลงานกับรัฐสภาด้วย
ด้าน นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมานายกฯ ได้มีการติดตามและประเมินผลงานทุกกระทรวงมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่นายกฯ เป็นนักบริหาร นายกฯ พยายามเน้นให้ภาคปฏิบัติของแต่ละกระทรวงลงไปแก้ไขปัญหาที่พบเห็นในกระทรวงของตนเอง ซึ่งในการประชุมที่บ้านพิษณุโลก ก็เป็นการมาประชุมกันเนื่องจากบางกระทรวงมีงานคาบเกี่ยวกับกระทรวงอื่น เช่น กระทรวงการต่างประเทศ อาจจะมีบันทึกความเข้าใจคาบเกี่ยวกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ ก็มีการพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม นายกฯ พอใจกับผลงานที่ผ่านมา แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อพอใจแล้วจะไม่ทำงานต่อ เราจะต้องทำงานต่อไป เพราะยังมีนโยบายที่ต่อเนื่อง
นายสุรนันทน์กล่าวถึงการวิจารณ์ของฝ่ายค้านที่มีการแถลงผลงานของรัฐบาลล้มเหลวว่า ก็ถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อวิจารณ์ ที่สร้างสรรค์และมีสาระ แต่เท่าที่ฟังการแถลงของฝ่ายค้าน ตนเห็นว่าเป็นเรื่องเดิมๆ ที่สำคัญหลายเรื่องเป็นสิ่งที่รัฐบาลที่แล้วได้สร้างภาระไว้ทั้งนั้น ทั้งเรื่องหนี้สิน เรื่องปัญหาภาคใต้ หรือปัญหาเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลนี้เข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งต้องถือว่าการทำงานของรัฐบาลพบกับเงื่อนไขหลายอย่าง
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงผลงานของรัฐมนตรีเป็นรายกระทรวง ว่าแต่ละกระทรวงมีผลงานอะไรบ้าง ซึ่งต้องบอกว่ารัฐบาลมีผลงานเยอะ จะมาแถลงแบบจัดฉากรวมผลงานของรัฐบาล ด้วยการเขียนคำขวัญสวยๆ แบบฝ่ายค้านทำคงไม่จำเป็น ส่วนนายกฯ จะมีการสรุปภาพรวมซึ่งคาดว่าน่าจะประมาณต้น หรือกลางเดือนกันยายน สำหรับการแถลงผลงานต่อสภา รัฐบาลก็พร้อมจะเสนอต่อรัฐสภาเชื่อว่าสิ้นเดือนกันยายนผลงานฉบับสมบูรณ์จะเสร็จและสามารถส่งให้รัฐสภาได้ ซึ่งจะมีการบรรจุเมื่อไหร่ก็เป็นเรื่องของรัฐสภา แต่คาดว่าน่าจะเป็นประมาณเดือนตุลาคม
“วันนี้รัฐบาลอยากใช้งานเป็นตัวเดิน ผลงานจะเป็นตัวแสดงให้ประชาชนเห็น มากกว่าการแถลงเป็นวาทกรรมทางการเมือง” นายสุรนันทน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลที่ให้รัฐมนตรีแถลงผลงานเป็นรายกระทรวง นายสุรนันทน์กล่าวว่า เนื่องจากเนื้องานของแต่ละกระทรวงค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะ และเกรงว่าประชาชนจะไม่ทราบรายละเอียดเท่าที่ควร และหากแถลงไม่ครบถ้วนก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อีกว่า ทำไมไม่ทำในส่วนนั้น ส่วนนี้ จึงตัดสินใจให้แถลงเป็นรายบุคคล รายกระทรวง โดยจะเริ่มรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทยก่อน ทั้งนี้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจนั้น นายสุรนันทน์กล่าวว่า ประเมินแล้วยังมีหลายสาขาและตัวเลขยังเข้มแข็งอยู่ ซึ่งบางสาขาอาจจะมีผลกระทบบ้าง เช่น การส่งออก แต่ยังมีความเข้มแข็งพอที่มีอัตราการเจริญเติบโตในไตรมาสหน้า และติดตามอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง
เมื่อถามว่า การแถลงผลงานจะมีการเปรียบเทียบกับผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมาด้วยหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า เป็นสไตล์ของแต่ละคน แต่สิ่งที่เราเน้นคือเน้นงานของรัฐบาลชุดนี้ เพื่อให้เห็นข้อเปรียบเทียบและตอบโจทย์ด้วย เพราะพรรคฝ่ายค้านจะมีคำถามเยอะ ก็จะมีการเปรียบเทียบให้เห็นด้วย เพราะหลายปัญหาเป็นความต่อเนื่อง แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่แก้ แต่จะวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นปัญหารัฐบาลนี้อย่างเดียวตนคิดว่ามันไม่เป็นธรรม มันเป็นเรื่องที่ร่วมกันแก้ ทั้งเศรษฐกิจ ภาคใต้ ถึงบอกว่าพร้อมรับฟังความเห็นที่สร้างสรรค์ แต่ถ้าจะให้มีตอบโต้วาทกรรม ตนคิดว่าไม่มีประโยชน์
“ผู้นำฝ่ายค้านบอกว่าเมื่อไหร่รัฐบาลชุดนี้จะคิดถึงประชาชนก่อน ผมก็อยากจะบอกว่ารัฐบาลชุดนี้คิดถึงประชาชนอย่างต่อเนื่อง ประชาชนถึงให้ความไว้วางใจเลือกมาเป็นรัฐบาลด้วยเสียงที่ท่วมท้น เราเชื่อว่าเมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ และเชื่อว่าประชาชนมีความสุขมากขึ้น ที่สำคัญมีความหวังมากขึ้น ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ความปรองดอง การก้าวต่อไปด้วยกันได้ แน่นอนมันต้องมีอุปสรรค ซึ่งคิดว่าประชาชนพร้อมฝ่าฟันอุปสรรค รัฐบาลพร้อมเป็นตัวนำให้การทำให้ทุกภาคส่วนให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ในด้านเศรษฐกิจรัฐบาลจะติดตามตัวเลขทุกตัว พร้อมให้การสนับสนุนกับเอกชนทุกภาคส่วน ทั้งนี้โลกที่ไร้พรมแดน ความผันผวนทางเศรษฐกิจยุโรป หรือผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกแต่เราเชื่อว่าเราอยู่ในภูมิภาคที่มีการเจริญเติบโต ฉะนั้นเราเชื่อว่าประเทศไทยจะเป็นตัวเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่นของโลก ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันที่จะทำให้ความผันผวนส่งผลกระทบได้น้อยต่อเรา”นายสุรนันทน์กล่าว
นายสุรนันทน์กล่าวว่า ผลงานจะเป็นตัวพิสูจน์ ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นประเด็นที่ฝ่ายค้านต้องยื่นญัตติให้เกิดความชัดเจนก่อน และในการแถลงผลงานคงไม่ต้องทำการบ้านอะไรพิเศษเพื่อตอบฝ่ายค้าน เราทำงานเพื่อตอบคำถามประชาชนมากกว่า ฝ่ายค้านยังไงก็วิจารณ์อยู่ดี รัฐบาลรับฟัง แต่ไม่ใช่สิ่งที่เป็นวาทกรรมทางการเมือง หรือการพยายามบิดคำพูดมาวิจารณ์โดยไม่มีการเสนอที่สร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาประเทศ ส่วนปัญหาราคายางตกต่ำนั้น มันมีความต่อเนื่องมีการประชุมกับ รมช.เกษตรฯ มีการรับฟังปัญหาเรื่องยางจากหลายกลุ่ม
“เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่พรรคฝ่ายค้านเดินเข้ามา ตนก็ให้ความเคารพ นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ แต่ตนเดินกลับมาไม่ทัน ไม่อย่างนั้นก็จะพูดคุยกับนายอาคม ซึ่งไม่จำเป็นต้องยื่นกับนายกฯ ถ้าจะแสดงความจริงใจในการแสดงความคิดเห็น เพราะ น.พ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตน์ รองเลขาฯ นายกฯ ก็ออกไปรับหนังสือ ก็สามารถยื่นได้และส่งถึงมือนายกฯ อยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดมาเพื่อโชว์ ไม่ได้ต้องการยื่นจริง ตนคิดว่าไม่จำเป็น” นายสุรนันทน์กล่าว
เมื่อถามว่าการเมืองในประเทศยังวุ่นวายรัฐบาลจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ทำให้นายกฯ ต้องการผลักดันแนวนโยบายปรองดอง เพราะเห็นว่าถ้าปรองดองได้ ประเทศเสี่ยงน้อยลง นักลงทุนมั่นใจ เศรษฐกิจก็เดินหน้าได้ นายกฯ จะทำงานอย่างหนักในการทำความเข้าใจกันทุกภาคส่วน กับทุกฝ่ายที่ขัดแย้ง นายกฯ ยังหวังว่าเวลารัฐสภาจะเป็นเวทีที่เป็นตัวแทนประชาชนที่พูดคุยกันเรื่องนี้ให้ออกมาเป็นผลได้
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหลักมาตลอดแล้วรัฐบาลจะมีทางออกอย่างไร และแนวทางปรองดองจะดำเนินการอย่างไร นายสุรนันทน์กล่าวว่า แนวทางปรองดองรัฐบาลคงจะคุยให้ฟัง เรื่องอดีตนายกฯ ทักษิณ คงจะบอกไม่ได้ว่าจะออกจากกรอบหรือไม่ เพราะกรอบที่ติดอยู่ในใจนั้นเป็นกรอบที่ติดอยู่ในใจฝ่ายค้าน คนอื่นไม่ได้ติดใจและคิดว่าเป็นเป้าอยู่ ตนเชื่อว่าฝ่ายค้านก็ต้องปล่อยวางให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ ตนเห็นสโลแกนฝ่ายค้านแล้วตนก็ทุกข์แทน ทุกข์ที่ประชาชนต้องจำทน ตนไม่แน่ใจว่าเป็นทุกข์ของประชาชนหรือทุกข์ในใจของฝ่ายค้าน เพราะตั้งแต่แพ้เลือกตั้งมา 4-5 ครั้ง ก็มีทุกข์มากขึ้นกับอดีตนายกฯ ทักษิณ อย่าไปติดใจท่านเลย ตนคิดว่าเราอยู่ในประเทศนี้ ช่วยกันทำงานแก้ไขให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้