เคเคฟันด์ระบุจับตาการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปลายปี พร้อมกับการออกมาตรการใหม่ๆ ดันตลาดหุ้นขึ้น ขณะราคาทองคำปรับตัวลงหลังดอลลาร์แข็งค่า หวั่นปัญหายุโรปลากยาว
นายศุภกร สุนทรกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เกียรตินาคิน หรือเคเคฟันด์ เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่อง ผลจากค่าเงินเหรียญสหรัฐที่ยังแข็งค่าขึ้นจากปัญหาหนี้ในกลุ่มยุโรปที่ยังยืดเยื้อ รวมทั้งมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบ 3 ยังไม่มีออกมา
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคาดการณ์ว่าในเดือน ก.ย.นี้ หาก QE3 ออกมาก็น่าจะหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ โอกาสที่จะเห็น 1,700 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ก็ยังมีอยู่ และราคาแถว 1,570 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ก็ไม่น่าจะต่ำไปมากกว่านี้ เพราะค่าเงินเหรียญสหรัฐก็แข็งค่าขึ้นมามากแล้ว
สำหรับกองทุนเปิดเคเค โกลด์ ทาร์เก็ต 7%#1 ซึ่งจะครบกำหนดอายุโครงการประมาณเดือน ก.ย. 2555 ยังคงต้องลุ้นว่าจะถึงเป้าหมาย 7% หรือไม่ แต่หากไม่ถึงกองทุนก็จะเปิดให้นักลงทุนขายคืนหน่วยลงทุนได้ แต่หากนักลงทุนยังถือลงทุนต่อได้แนะนำให้ถือต่อ เพราะเชื่อว่าราคาทองจะดีดกลับขึ้นไปได้หากสถานการณ์ยุโรปดีขึ้น
นายศุภกรกล่าวว่า ปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติที่ขายหุ้นออกไปยังลงทุนอยู่ในตราสารหนี้ เพราะอัตราดอกเบี้ยในไทยยังสูงกว่าสหรัฐฯ และยุโรปจึงดึงดูดเงินลงทุนได้อยู่และมองว่าดัชนีหุ้นไทยไม่น่าจะลงลึกแล้ว แต่จะแกว่งตัวตามสถานการณ์ในต่างประเทศ โดยยังคงเป้าหมายดัชนี 1,236-1,285 จุดในสิ้นปีนี้
“ตลาดยังคงคาดหวัง QE3 แต่หากไม่มีออกมาก็ต้องจับตาการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ปลายปีนี้ที่รัฐบาลโอบามาอาจออกมาตรการใหม่ๆ มา และจากสถิติที่ผ่านมาก่อนการเลือกตั้งหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังต้องดูสถานการณ์ยุโรปด้วย ถ้าลากยาวหรือเยอรมนีไม่ช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหาแล้วถือว่าน่ากลัว” นายศุภกรกล่าว
สำหรับ บลจ.เกียรตินาคิน ยังอยู่ระหว่างเสนอขายกองทุนเปิดเคเค ยูเอส ทริกเกอร์ 7% 2 ตั้งแต่วันที่ 1-8 ส.ค. 2555 ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ และกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้เพื่อล็อกผลตอบแทนหากคาดการณ์ล่วงหน้าว่าตลาดตราสารทุนมีแนวโน้มลดลง โดยกองทุนตั้งเป้าหมายผลตอบแทน 7% ภายใน 7 เดือน
โดยกองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท อายุโครงการ 7 เดือน และจะเลิกกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.85 บาทเป็นเวลา 3 วันติดต่อกันหรือเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.85 บาท และกองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
นายศุภกร สุนทรกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เกียรตินาคิน หรือเคเคฟันด์ เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่อง ผลจากค่าเงินเหรียญสหรัฐที่ยังแข็งค่าขึ้นจากปัญหาหนี้ในกลุ่มยุโรปที่ยังยืดเยื้อ รวมทั้งมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบ 3 ยังไม่มีออกมา
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคาดการณ์ว่าในเดือน ก.ย.นี้ หาก QE3 ออกมาก็น่าจะหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ โอกาสที่จะเห็น 1,700 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ก็ยังมีอยู่ และราคาแถว 1,570 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ก็ไม่น่าจะต่ำไปมากกว่านี้ เพราะค่าเงินเหรียญสหรัฐก็แข็งค่าขึ้นมามากแล้ว
สำหรับกองทุนเปิดเคเค โกลด์ ทาร์เก็ต 7%#1 ซึ่งจะครบกำหนดอายุโครงการประมาณเดือน ก.ย. 2555 ยังคงต้องลุ้นว่าจะถึงเป้าหมาย 7% หรือไม่ แต่หากไม่ถึงกองทุนก็จะเปิดให้นักลงทุนขายคืนหน่วยลงทุนได้ แต่หากนักลงทุนยังถือลงทุนต่อได้แนะนำให้ถือต่อ เพราะเชื่อว่าราคาทองจะดีดกลับขึ้นไปได้หากสถานการณ์ยุโรปดีขึ้น
นายศุภกรกล่าวว่า ปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติที่ขายหุ้นออกไปยังลงทุนอยู่ในตราสารหนี้ เพราะอัตราดอกเบี้ยในไทยยังสูงกว่าสหรัฐฯ และยุโรปจึงดึงดูดเงินลงทุนได้อยู่และมองว่าดัชนีหุ้นไทยไม่น่าจะลงลึกแล้ว แต่จะแกว่งตัวตามสถานการณ์ในต่างประเทศ โดยยังคงเป้าหมายดัชนี 1,236-1,285 จุดในสิ้นปีนี้
“ตลาดยังคงคาดหวัง QE3 แต่หากไม่มีออกมาก็ต้องจับตาการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ปลายปีนี้ที่รัฐบาลโอบามาอาจออกมาตรการใหม่ๆ มา และจากสถิติที่ผ่านมาก่อนการเลือกตั้งหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังต้องดูสถานการณ์ยุโรปด้วย ถ้าลากยาวหรือเยอรมนีไม่ช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหาแล้วถือว่าน่ากลัว” นายศุภกรกล่าว
สำหรับ บลจ.เกียรตินาคิน ยังอยู่ระหว่างเสนอขายกองทุนเปิดเคเค ยูเอส ทริกเกอร์ 7% 2 ตั้งแต่วันที่ 1-8 ส.ค. 2555 ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ และกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้เพื่อล็อกผลตอบแทนหากคาดการณ์ล่วงหน้าว่าตลาดตราสารทุนมีแนวโน้มลดลง โดยกองทุนตั้งเป้าหมายผลตอบแทน 7% ภายใน 7 เดือน
โดยกองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท อายุโครงการ 7 เดือน และจะเลิกกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.85 บาทเป็นเวลา 3 วันติดต่อกันหรือเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.85 บาท และกองทุนอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน