xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เงา ดาหน้าถล่ม รบ. ขยันกู้ขี้เกียจใช้หนี้ ส่อโกงงบน้ำท่วม แก้ไฟใต้ไม่ถูกที่คัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ปชป.ไล่ซัดนโยบาย รบ. ชี้ไม่เข้าใจอัตลักษณ์ ปชช.ชายแดนใต้ คืนสันติสุขเหลวความไม่สงบเพิ่มขึ้น ตั้งคนทำงานสับสน ไม่ใส่ใจปัญหา-อัดจ่ายเงินเยียยวยาน้ำท่วมช้า แผนป้องกันส่อแววพัง กู้ 3.5 แสนล้านทำแผนไม่โปร่งใส ย้อน “นช.แม้ว” กลืนน้ำลายกู้เป็นประวัติการณ์ หนี้สูง 1.7 ล้านล้าน ขาดดุลแฝดทั้งงบและบัญชีเดินสะพัด แถมไม่พยายามลดภาระหนี้ให้ชาติ

วันนี้ (24 ส.ค.) พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดแถลงตรวจการบ้านรัฐบาลหลังบริหารครบ 1 ปีภายใต้ชื่อ 1 ปีรัฐบาลเพื่อไทย ทุกข์ที่คนไทยจำทน โดยได้มีการฉายวิดีโอการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ระบุจะเร่งรัดคืนสันติสุขในพื้นที่ภาคใต้ ตามด้วยเหตความไม่สงบที่รุนแรงขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอน และจบลงที่นายกรัฐมนตรีร้องเพลงสุขกันเถอะเราในงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล หลังเกิดเหตุระเบิดที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี้ จนไฟฟ้าดับทั้งเมือง

โดย นายเจ๊ะอามิง โตะตาหยง รมช.มหาดไทยเงาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การจัดตั้งองค์กรใหม่ของรัฐบาลเป็นการแก้ปัญหาแบบเกาไม่ถูกที่คัน และมีความล้มเหลวในการแก้ปัญหา 6 ประเด็น เริ่มจากล้มเหลวในการเร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเหตุความไม่สงบเกิดต่อเนื่อง ในปี 2555 เดือนเมษายน มีความสูญเสีย 84 ราย เกิดเหตุ 62 ครั้ง พ.ค. 55 สูญเสีย 97 ราย เกิดเหตุ 51 ครั้ง มิ.ย. สูญเสีย 51 ราย เกิดเหตุ 78 ครั้ง ก.ค.สูงถึง 96 ราย เกิดเหตุ 85 ครั้ง เป็นความล้มเหลวที่ไม่สามารถรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้ประชาชนใต้ได้ โดยเฉพาะเดือนรอมฎอนเมื่อเทียบกับปี 2554 มีผู้เสียชีวิต 8 ราย แต่ในรัฐบาลนี้แค่ 10 วันแรกของช่วงเดือนรอมฎอน มีผู้เสียชีวิตถึง 20 ราย อีกทั้งรองนายกยังมีแนวคิดที่จะประกาศเคอร์ฟิวในช่วง 10 วันสุดท้ายของการถือศีลอด ซึ่งถ้าประกาศจริงจะกระทบมหาศาลต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวมุสลิม แสดงให้เห็นถึงการไม่เข้าใจในการปฏิบัติศาสนกิจของชาวมุสลิม ไม่เข้าใจอัตลักษณ์ของประชาชนในพื้นที่

ล้มเหลวในการบูรณาการให้มีเอกภาพทั้งระดับนโยบายและปฏิบัติ การประชุมของนายกรัฐมนตรีเป็นการนั่งหัวโต๊ะเหมือนเอาแจกันดอกไม้ไปประดับเท่านั้น เพราะกรอบความคิดผิดพลาดมีการตั้งสามรองนายกให้รับผิดชอบสร้างความสับสนไม่มีอำนาจในการแก้ไขและบูรณาการการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ปัญหาภาคใต้เกิดโรคเรื้อรัง และดื้อยา 5 ล้มเหลวในการส่งเสริมความร่วมมือจากประชาชน และในขณะเกิดเหตุระเบิดที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานีนายกฯ ร้องเพลงไม่ใส่ใจใยดีต่อความเดือดร้อนของประชาชน จึงเห็นว่า 1 ปีรัฐบาลยิ่งลักษณ์กำหนดแนวทางแก้ปัญหาภาคใต้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

จากนั้นมีการนำภาพการทำงานของ ศปภ.ที่มีการแถลงให้ความมั่นใจว่าน้ำจะไม่ท่วม กทม.แต่สุดท้ายเกิดน้ำท่วมใหญ่เกือบทั่วประเทศรวมทั้ง กทม.ในช่วงปลายปี 2554 โดยนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รมช.คมนาคมเงาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า น้ำท่วมปีที่แล้วมีคนเสียชีวิตกว่า 500 คน และอีกกว่าล้านคนกลายเป็นคนเร่ร่อน หมดตัว เพราะความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งธนาคารโลกประเมินความเสียหายถึง 1.4 ล้านล้านบาท ขณะที่ประชาชนรอคอยเงินเยียวยาครัวเรือนละ 3 หมื่นบาท เหมือนที่นายกรัฐมนตรีไปมอบให้กับชาวนครสวรรค์บางส่วน แต่ในขณะนี้ประชาชนยังไม่ได้รับเงินสองหมื่น แผนเร่งด่วนก็มีความล่าช้า การก่อสร้างคันกั้นน้ำในหลายพื้นที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เช่น เขื่อนพระยาบันลือ ซึ่งเชื่อว่าหากน้ำก้อนใหญ่มามาคันกั้นน้ำพังแน่นอน เช่นเดียวกับที่คลองระพีพัฒน์แยกใต้ที่ช่วยป้องกันน้ำท่วมปทุมธายนี คลองพระองค์ไชยานุชิต ซึ่งช่วยป้องน้ำท่วมพื้นที่ฝั่งตะวันออก กทม. ก็เพิ่งเริ่มก่อสร้าง หากน้ำก้อนใหญ่มาไม่รอดเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ เป็นเพราะรัฐบาลประเมินว่าน้ำในปีนี้จะน้อยจึงปล่อยให้การป้องกันน้ำท่วมเป็นไปตามยถากรรม อีกทั้งยังมีความน่าเป็นห่วงในการใช้เงินกู้ 3.5 แสนล้าน ซึ่งต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปีทุกโครงการ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ เพราะหลายโครงการไม่พร้อมที่จะก่อสร้าง ไม่มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือการเวนคืนที่ดิน เปิดโอกาสให้มีการคอร์รัปชั่นเพราะใช้วิธีจ้างเหมาออกแบบพร้อมกับการก่อสร้างทำให้ประเมินค่าก่อสร้างและควบคุมงานก่อสร้างลำบาก ถ้านายกรัฐมนตรีมีความจริงใจที่จะปราบคอร์รัปชั่นต้องเปลี่ยนวิธีการจ้างเหมา และขอตั้งคำถามถึงนายกว่า จะให้ความมั่นใจได้หรือไม่สองปีข้างหน้าน้ำจะไม่ท่วม จะมีการมอบเงินเยียวยา 2-3 หมื่นบาทให้ครบทุกครัวเรือนได้เมื่อไหร่ และยังยืนยันที่จะใช้วิธีจ้างเหมาในลักษณะออกแบบไปก่อสร้างไปเปิดโอกาสทุจริตได้หรือไม่

ลำดับต่อมามีการฉายวิดีโอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่สไกป์มาแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยมีเนื้อหาระบุว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะไม่มีการกู้เงิน เพราะไม่ใช่นักกู้ และเตือนเรื่องการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและขาดดุลงบประมาณ ว่าจะให้เกิดพร้อมกันทั้งสองอย่างไม่ได้ เนื่องจากจะเป็นอันตรายเช่นเดียวกับที่เคยเกิดปัญหาในช่วงวิกฤตปี 40 พร้อมระบุว่าประชาชนรู้ดีจากการล้วงกระเป๋าว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่

นายกรณ์ จาติกวณิช รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจเงาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ย้อนคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมกับชี้ว่า การขาดดุลแฝดทั้งงบและบัญชีเดินสะพัดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า เป็นเรื่องอันตรายสำหรับประเทศกำลังเกิดขึ้นในปีแรกจากการบริหารของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นการขาดดุลย์แฝดครั้งแรกในรอบ 15 ปี นับจากปี 40 เป็นเพราะ 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลเพื่อไทยสร้างหนี้มากที่สุดทั้งระดับประเทศและระดับครัวเรือน และประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าการใช้เงินลงทุนไม่ต้องกู้เงินสักบาทเพราะไม่ชอบกู้ และไม่ใช่นักกู้นั้นข้อเท็จจริงคนไม่ชอบกู้ กู้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ส.ส.เพื่อไทยอภิปรายทุกครั้งที่มีโอกาสว่า เด็กแรกเกิดจะแบกรับหนี้จากปัญหาหนี้สาธารณะอย่างไร

นายกรณ์กล่าวต่อว่า แต่ในขณะนี้จากการบริหารของรัฐบาลเพื่อไทย หนี้ประเทศเพิ่ม 4 แสนล้าน และมีแนวโน้มเพื่ออีกนับล้านล้านบาท อยากถามว่า ส.ส.เพื่อไทยหายไปไหน เพราะปัจจุบันการเป็นหนี้ในระบบงบประมาณของพรรคเพื่อไทย ปี 55 ขาดดุล 4 แสนล้าน งบปี 56 อีก 3 แสนล้าน รวม 7 แสนล้านภายใน 1 ปี สร้างหนี้นอกระบบด้วยการออก พรก.เงินกู้ 3.5 แสนล้าน ให้แบงค์ชาติปล่อยสินเชื่อ 3 แสนล้าน กองทุนประกันภัยอีก 5 หมื่นล้านบาท จำนำสินค้าเกษตรอีก 2.6 แสนล้านบาท รวมหนี้นอกระบบของรัฐบาลเท่ากับ1 ล้านล้าน เมื่อรวมกับหนี้ในงบประมาณเท่ากับ 1 ปีรัฐบาลเพื่อไทยสร้างหนี้ 1.7 ล้านล้านบาท มากกว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์สองปีกว่าที่ต้องแก้วิกฤตเศรษฐกิจระดับโลกแต่กู้เงินเพียงกว่า 7 แสนล้านบาท อีกทั้งการก่อหนี้ยังขาดวินัยโดยสิ้นเชิง โดยปี 56 จัดงบชำระหนี้แค่ 6.5% ของงบประมาณเท่านั้น ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยปกติที่ตั้งไว้ 12% เท่ากับว่ารัฐบาลไม่พยายามลดภาระหนี้ให้ชาติ อีกทั้งวิธีการกู้ยังหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ และกู้มาแล้วยังใช้เงินไม่เป็น


กำลังโหลดความคิดเห็น