สระบุรี - ชุมชนตลาดภาชีกรุงเก่า เดือดร้อนหนัก น้ำประปาส่วนภูมิภาค สาขาท่าเรือ งดจ่ายน้ำนานกว่า 2 วัน การประปาอ้างชลประทานไม่ยอมเปิดน้ำตามความต้องการของการผลิตน้ำดิบ ซึ่งสูบจากคลองระพีพัฒน์ เพื่อส่งไปยังผู้บริโภค ขณะที่ทางชลประทานอ้างน้ำทางเขื่อนภาคเหนือมีน้อย
วันนี้ (30 เม.ย.) ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา กว่าพันหลังคาเรือน พร้อมทั้งชาวนาจากตำบลต่างๆ ในพื้นที่ อ.ภาชี ต้องเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากน้ำในคลองระพีพัฒน์ ซึ่งเป็นคลองหลักในการทำนา และผันน้ำดิบให้แก่การประปาส่วนภูมิภาคท่าเรือ ที่ผลิตน้ำดิบส่งมาให้ผู้บริโภคในเขต อ.ภาชี ต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากประปาหยุดไหล ทำให้ชาวบ้านต้องขาดน้ำอุปโภคบริโภคมานานกว่า 2 วันแล้ว ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ภาชี ต่างหาน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคกันอย่างทุลักทุเล บางรายต้องซื้อน้ำดื่มชนิดถังมาใช้ชั่วคราวไปก่อน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะตลาดภาชีเป็นชุมชนหนาแน่น มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักงานประปาท่าเรือ เพื่อสอบถามหาสาเหตุที่แท้จริง และได้รับการเปิดเผยจาก นายภวัต แผลงศรี ผจก.ประปาส่วนภูมิภาคท่าเรือว่า การที่ประปาต้องหยุดจ่ายน้ำให้แก่ประชาชนเนื่องจากระดับน้ำในคลองระพีพัฒน์ต่ำกว่าเกณฑ์ที่วางท่อสูบน้ำประมาณ 1.50 เมตร จึงไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาผลิตได้ ทำให้การส่งน้ำต้องหยุดชะงักอย่างสิ้นเชิง
นายภวัต แผลงศรี เปิดเผยต่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันที่ 29 เม.ย.55 ที่ผ่านมา ทางประปาส่วนภูมิภาคท่าเรือ ได้ติดต่อสอบถามไปยังฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน (โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้) ซึ่งได้รับคำชี้แจงจากฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทานกลับมาว่า เนื่องจากน้ำทางเขื่อนมีน้อย แต่ไม่ให้เหตุผลในเชิงลึกไปมากกว่านี้ เพียงอ้างว่า ต้องปิดน้ำตามคำสั่งของทางราชการ จึงทำให้ทางสำนักงานประปาท่าเรือ ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ทั้งๆ ที่ฝ่ายจัดสรรน้ำฯ ก็สามารถระบายน้ำออกมาได้อีก เพื่อให้เพียงพอต่อท่อสูบน้ำของการประปาที่วางระดับอยู่ในคลองระพีพัฒน์ แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ โดยทางฝ่ายจัดสรรน้ำฯ ได้ให้การประปาหาวิธีแก้ไขเอาเอง จึงเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องดังกล่าว
“เมื่อทางฝ่ายจัดสรรน้ำฯ ได้อ้างเหตุผลมาอย่างนี้ ทางการประปาส่วนภูมิภาคท่าเรือก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากต้องอาศัยน้ำโดยการผันน้ำมาจากฝ่ายจัดสรรน้ำฯ โดยตรง อย่างไรก็ตาม ทางการประปาส่วนภูมิภาคท่าเรือ ได้ว่าจ้างรถแบ็กโฮมาทำการขุด และวางท่อสูบน้ำให้ลึกลงไปอีกประมาณเมตรเศษแล้ว เพื่อให้ได้ระดับของน้ำที่มีอยู่ในคลองระพีพัฒน์ขณะนี้ เพื่อทำการสูบ และผลิตน้ำให้แก่ผู้บริโภค แต่คาดว่าจะไม่ได้รับน้ำบริโภค 100% เหมือนเดิม แต่อาจทำให้ประชาชน และชาวนาได้รับความเดือดร้อนอีก หากฝ่ายจัดสรรน้ำไม่ลงมามองความเดือดร้อนของชาวนา และชาวบ้านผู้ใช้น้ำ” นายภวัต แผลงศรี กล่าว
รายงานข่าวเผยว่า ขณะนี้กลุ่มชาวนาในเขตพื้นที่ อ.หนองแซง จ.สระบุรี และกลุ่มชาวนาในเขต อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุที่มีการปิดน้ำในครั้งนี้ว่า เพราะมีหน่วยงานหนึ่งได้เข้ามาติดต่อให้ลดปริมาณน้ำในคลองระพีพัฒน์ให้น้อยลงเพื่อไม่ให้มีการไหลซึม และล้นตลิ่งออกจากคลองระพีพัฒน์ ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อการวางท่อขนาดใหญ่ขนานกับแนวกับคลองระพีพัฒน์ เป็นระยะคลองกว่า 10 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงมองถึงปัญหาความเดือดร้อนและเข้ามาแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้
วันนี้ (30 เม.ย.) ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา กว่าพันหลังคาเรือน พร้อมทั้งชาวนาจากตำบลต่างๆ ในพื้นที่ อ.ภาชี ต้องเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากน้ำในคลองระพีพัฒน์ ซึ่งเป็นคลองหลักในการทำนา และผันน้ำดิบให้แก่การประปาส่วนภูมิภาคท่าเรือ ที่ผลิตน้ำดิบส่งมาให้ผู้บริโภคในเขต อ.ภาชี ต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากประปาหยุดไหล ทำให้ชาวบ้านต้องขาดน้ำอุปโภคบริโภคมานานกว่า 2 วันแล้ว ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ภาชี ต่างหาน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคกันอย่างทุลักทุเล บางรายต้องซื้อน้ำดื่มชนิดถังมาใช้ชั่วคราวไปก่อน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะตลาดภาชีเป็นชุมชนหนาแน่น มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักงานประปาท่าเรือ เพื่อสอบถามหาสาเหตุที่แท้จริง และได้รับการเปิดเผยจาก นายภวัต แผลงศรี ผจก.ประปาส่วนภูมิภาคท่าเรือว่า การที่ประปาต้องหยุดจ่ายน้ำให้แก่ประชาชนเนื่องจากระดับน้ำในคลองระพีพัฒน์ต่ำกว่าเกณฑ์ที่วางท่อสูบน้ำประมาณ 1.50 เมตร จึงไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาผลิตได้ ทำให้การส่งน้ำต้องหยุดชะงักอย่างสิ้นเชิง
นายภวัต แผลงศรี เปิดเผยต่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันที่ 29 เม.ย.55 ที่ผ่านมา ทางประปาส่วนภูมิภาคท่าเรือ ได้ติดต่อสอบถามไปยังฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน (โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้) ซึ่งได้รับคำชี้แจงจากฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทานกลับมาว่า เนื่องจากน้ำทางเขื่อนมีน้อย แต่ไม่ให้เหตุผลในเชิงลึกไปมากกว่านี้ เพียงอ้างว่า ต้องปิดน้ำตามคำสั่งของทางราชการ จึงทำให้ทางสำนักงานประปาท่าเรือ ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ทั้งๆ ที่ฝ่ายจัดสรรน้ำฯ ก็สามารถระบายน้ำออกมาได้อีก เพื่อให้เพียงพอต่อท่อสูบน้ำของการประปาที่วางระดับอยู่ในคลองระพีพัฒน์ แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ โดยทางฝ่ายจัดสรรน้ำฯ ได้ให้การประปาหาวิธีแก้ไขเอาเอง จึงเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องดังกล่าว
“เมื่อทางฝ่ายจัดสรรน้ำฯ ได้อ้างเหตุผลมาอย่างนี้ ทางการประปาส่วนภูมิภาคท่าเรือก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากต้องอาศัยน้ำโดยการผันน้ำมาจากฝ่ายจัดสรรน้ำฯ โดยตรง อย่างไรก็ตาม ทางการประปาส่วนภูมิภาคท่าเรือ ได้ว่าจ้างรถแบ็กโฮมาทำการขุด และวางท่อสูบน้ำให้ลึกลงไปอีกประมาณเมตรเศษแล้ว เพื่อให้ได้ระดับของน้ำที่มีอยู่ในคลองระพีพัฒน์ขณะนี้ เพื่อทำการสูบ และผลิตน้ำให้แก่ผู้บริโภค แต่คาดว่าจะไม่ได้รับน้ำบริโภค 100% เหมือนเดิม แต่อาจทำให้ประชาชน และชาวนาได้รับความเดือดร้อนอีก หากฝ่ายจัดสรรน้ำไม่ลงมามองความเดือดร้อนของชาวนา และชาวบ้านผู้ใช้น้ำ” นายภวัต แผลงศรี กล่าว
รายงานข่าวเผยว่า ขณะนี้กลุ่มชาวนาในเขตพื้นที่ อ.หนองแซง จ.สระบุรี และกลุ่มชาวนาในเขต อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุที่มีการปิดน้ำในครั้งนี้ว่า เพราะมีหน่วยงานหนึ่งได้เข้ามาติดต่อให้ลดปริมาณน้ำในคลองระพีพัฒน์ให้น้อยลงเพื่อไม่ให้มีการไหลซึม และล้นตลิ่งออกจากคลองระพีพัฒน์ ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อการวางท่อขนาดใหญ่ขนานกับแนวกับคลองระพีพัฒน์ เป็นระยะคลองกว่า 10 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงมองถึงปัญหาความเดือดร้อนและเข้ามาแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้