xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลอ่อนหัดการเมืองเละเทะ ไฟใต้ปะทุทหารตาย-กีฬาก็แพ้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
รายงานการเมือง

เมื่อสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปะทุความรุนแรงขึ้นมาในช่วงเดือนถือศีลอด รอมฎอน ของชาวมุสลิม ซึ่งหลายฝ่ายแม้กระทั่งรัฐบาล และเจ้าหน้าที่รัฐเอง ก็คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นว่ากลุ่มก่อความไม่สงบอาจก่อเหตุร้ายแรงขึ้น และในที่สุดมันก็เกิดขึ้นจริงดังคาด

เบื้องต้นเลยก็ต้องไปดูมาตรการของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควรนัก

ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลก็ให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นลำดับท้ายๆ พุ่งเป้าไปที่การแก้ไขปัญหาการเมืองเป็นหลักใหญ่ ตามด้วยปัญหาเศรษฐกิจ

ตลอดขวบปีที่ผ่านมาก็ไม่มีมาตรการป้องกันเหตุความรุนแรงในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมนัก ไม่มีคำสั่งระดับนโยบายกระจายลงไปยังพื้นที่ ปล่อยให้ระดับปฏิบัติดำเนินการไปตามรูปแบบเดิมที่มีอยู่ จนเกิดเหตุขึ้นมาอยู่เนืองๆ

หลายครั้งก็เป็นเหตุการณ์ระเบิดรุนแรงสะเทือนขวัญ จนล่าสุดเกิดเหตุการณ์อุกอาจที่จับภาพได้ชัดเจน สะท้อนถึงความเหิมเกริมของขบวนการก่อความไม่สงบที่มีมากขึ้นเป็นลำดับ

จึงทำให้รัฐบาลในฐานะผู้ดูแลนโยบายในภาพใหญ่ ต้องมีมาตรการอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหา เข้าทำนองวัวหายล้อมคอกอีกครั้ง ด้วยการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ที่มีเสาหลักเป็นหน่วยงานทหาร ตำรวจ และมหาดไทย พร้อมบูรณาการ 17 กระทรวงร่วมด้วย

เบื้องต้นสั่งการให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เป็นผู้ร่างแผนร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะรอง ผอ.รมน.พิจารณาเป็นรูปแบบแผนการปฏิบัติงานให้เห็นภาพชัดเจน โดยเฉพาะจุดโหว่ หรือช่องว่าง ก่อนที่จะส่งมอบให้นายกฯเป็นผู้สั่งการ

เหมือนเรื่องเพิ่งจะถึงมือนายกฯ ให้ดำเนินการวางมาตรการอย่างจริงๆ จังๆ ไฟลนก้นแล้วค่อยมาขันนอตไขลานกันสักทีหนึ่ง และก็ไม่รู้ว่าพอเหตุการณ์ทุเลาเบาบางลงก็เฉื่อยแฉะเหมือนเดิมหรือไม่ เรื่องนี้คงถึงเวลาทำเป็นวาระแห่งชาติเสียทีกระมัง

ที่ผ่านมาก็มีการชงข้อมูลจากหน่วยงาน โดยเฉพาะหน่วยทหารในพื้นที่เป็นเข่งๆ แต่ไม่ค่อยมามาขยายผลปฏิบัติจริงจัง จนล่าสุดข้อเสนอประกาศเคอร์ฟิวเฉพาะบางจุดล่อแหลม ก็แหลมคมขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทว่ารัฐบาลยังไม่กล้าใช้วิธีการนี้นัก เนื่องเพราะเกรงว่าอาจทำให้ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน รำคาญ กังวลว่าอาจจะกระทบต่อภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การท่องเที่ยว

หรือจะปล่อยให้ปัญหาภาคใต้คาราคาซังอยู่อย่างนี้ โดยไม่มีมาตรการอะไรที่คนมองแล้วว่า “ใช่” วันนี้ทหารกล้าตายเป็นใบไม้ร่วง ถูกไล่ล่าสังหาร เพราะภาคการเมืองอ่อนแอ เล่นแต่เกมการเมือง จากเมื่อก่อนแค่ดักซุ่มเดี๋ยวนี้ก็พัฒนาเป็นการควงปืนลุยอุกอาจ ต่อกรกับเจ้าหน้าที่ชนิดไม่เกรงกลัว

นับเป็นปัญหาที่น่าห่วงอย่างยิ่งยวด ฝ่ายการเมืองทิ้งปัญหาหมักหมม หน่วยงานต่างๆ ที่มีอยู่เดิมเยอะอยู่แล้ว แต่เหมือนตายซาก ขาดการบูรณาการ ขาดการสั่งการประสานงานกัน จึงสะเปะสะปะไร้เอกภาพ ไหนจะเรื่องงบประมาณให้ทหารชั้นผู้น้อยที่ต้องปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายอยู่ทุกวัน ขวัญกำลังใจมีแต่อ่อนเปลี้ยลงไปเรื่อยๆ ไม่มีใครอยากอาสาลงไป เพราะไม่มีความปลอดภัย โอกาสตายมีสูง

การตั้งทีมต่างๆ ของรัฐบาลวันนี้มีประโยชน์จริงหรือ จะเป็นการตั้งขึ้นมาซ้ำซ้อน แย่งบทบาทหน้าที่กันหรือไม่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติไม่รู้จะฟังใคร สิ่งนี้ต้องพิจารณาและวางระบบกันให้ดี เพราะมีบทเรียนมาแล้ว จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา

การเมืองอ่อนแอเละเทะ ก็เกิดความระส่ำระสาย เมื่อโดนฝ่ายค้านโจมตีมากๆ เข้า ก็โทษกลับไปว่าฝ่ายค้านมี ส.ส.ภาคใต้จำนวนมากรู้ปัญหาดี แต่ไม่มาช่วยรัฐบาล ยังไม่วายเล่นการเมืองกันจนหยดสุดท้าย

ระบบการเมืองไทยในระยะหลังไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลต้องยอมรับว่าบริหารงานบ้านเมืองได้ไม่ดี เพราะต้องคอยเล่นเกมการเมืองฟาดฟันฝ่ายตรงข้าม หลายปีหลังมานี้บ้านเมืองไม่เดินหน้าไปไหน ปัญหาที่เรื้อรังก็กลัดหนองเน่าเฟะ ติดหล่มความขัดแย้งกันยาวนาน

เหลือบไปดูวงการกีฬาบ้านเรา หลายคนก็ส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา เพราะเข้าสู่ยุคตกต่ำอย่างแท้จริง กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ โอลิมปิก ที่ลอนดอน งวดนี้ประเทศไทยเดินทางไปร่วมแข่งขันด้วยกันแบบความหวังริบหรี่ ถึงขนาด “บิ๊กอ๊อด” ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ยังออกปากยอมรับว่าหวังยาก ได้ 1 เหรียญก็เต็มกลืนแล้ว

กีฬามันก็สะท้อนถึงความเป็นไปของประเทศนั้น ดูอย่างชาติมหาอำนาจอย่าง จีน สหรัฐอเมริกา นั่นปะไร โกยเหรียญแข่งกันเป็นว่าเล่น เพราะบ้านเมืองเขาไปได้ดี ไม่มีปัญหาภายใน การเมืองไม่มีภาวะฝุ่นตลบเหมือนอย่างบ้านเรา สมาธิ ขวัญกำลังใจ ความฮึกเหิมมากกว่าเราเยอะ

ประเทศไทยชั่วโมงนี้สาละวนแต่เกมการเมือง จนไม่มีเวลาไปพัฒนาด้านอื่นๆ ไม่ต้องอื่นไกล เพื่อนบ้านภูมิภาคอาเซียนเขาไปไหนต่อไหน รุดหน้าเร็วกว่าเราหลายๆ ด้าน

โอลิมปิกคราวนี้คนไทยดูอย่างเซ็งๆ นักกีฬาไม่มีขวัญกำลังใจ ภาครัฐ ภาคเอกชนต่างๆ ดูซบเซา ไม่มีบรรยากาศการกระตุ้นนักกีฬาเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา นับวันยิ่งตกต่ำ หนำซ้ำบางสมาคมยังไปสร้างความขัดแย้งในเวทีโลก

เห็นชัดเจนอย่างสมาคมมวยสมัครเล่น ไปสร้างวีกรรมไว้จนเขาไม่ชอบขี้หน้าเรา การตัดสินมวยของเราก็แพ้ไปอย่างค้านสายตา วงการมวยสมัครเล่นระดับโลกจะว่าไปมันก็คล้ายๆ การเมืองไทยเรานี่แหละ มีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ใครไม่มีพรรคไม่มีพวกก็ลำบาก

โอลิมปิกคราวนี้ไร้แรงหนุนเนื่องจากการเมืองไปยังกีฬา สมาคมมวยสมัครเล่นไม่มีการไปเก็บตัว ไปลงนวมซ้อมกับคู่แข่งที่จะต้องมาตะบันหน้ากันในเวทีโอลิมปิกมาก่อน ไม่รู้เขารู้เรา สภาพจึงเป็นไปอย่างที่เห็น จากเดิมที่เคยส่งไปหลายต่อหลายรุ่น มาครั้งนี้มีนักมวยไทยเหลือแค่ 3 รุ่น เท่านั้น ทีมยกน้ำหนักก็ดูเหมือนจะขาดแรงผลักดัน สานงานต่อก่องานใหม่จากรุ่นพี่ นี่ถ้าไม่ได้เหรียญเงินจาก “น้องแต้ว” มา วงการกีฬาของเราคงไม่รู้จะตีหน้ากันอย่างไร

คนไทยดูลอนดอนเกมส์ไม่ค่อยสนุกเอาเสียเลย นั่นก็คงต้องย้อนกลับมาดูตัวเรา ต้องหันไปดูการเมือง ผู้มีอำนาจในประเทศไทยเขาเล่นอะไรกันอยู่ สุขภาพจิตของคนไทยย่ำแย่ลงทุกวัน ไม่มีอะไรมาเติมความสุข กีฬาก็แพ้ ภาคใต้ก็ไม่สงบ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไป

สะท้อนแจ่มชัดว่าการเมืองมันเละเทะ อะไรๆ มันเลยไม่พัฒนาไปไหน มีแต่สาละวันเตี้ยลงๆ ..
กำลังโหลดความคิดเห็น