30 ส.ส.ปชป.พื้นที่ปลูกยางบุกทำเนียบยื่นจดหมายนายกฯ แก้ราคาต่ำ เจอยามล็อกประตูตึกไทยคู่ฟ้าสกัด “ธารา” โวยไม่ให้เกียรติกัน ไล่ลาออกไปดีกว่าสภาก็ไม่เข้า “อาคม” เซ็งขนก๊วนกลับ สับขอ 5 นาทีก็ไม่ได้ แนะมาฟังที่สภาหน่อย หรือส่ง “กิตติรัตน์” มาก็ได้ “ชินวรณ์” แย้มยื่นซักฟอกแน่ ด้าน “หมอประสิทธิ์” มารับหน้าเสื่อแทน จวกบุกมาอย่างนี้ใครจะกล้ารับ เชื่อฝ่ายค้านเล่นเกม คาดพ่อค้าปั่นราคากัน หยันงวดหน้าได้ ส.ส.ไม่ถึง 100
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง"นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ"ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (23 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.50 น. กลุ่ม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จากภาคใต้ และภาคตะวันออกในพื้นที่ปลูกยางพารา ประมาณ 30 คน นำโดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกให้แก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยตรงต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ด้วยรถตู้ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 3 คัน โดยเมื่อมาถึงกลุ่ม ส.ส.ได้ลงรถตู้หน้าประตู 1 และเดินขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยก็ได้ล็อกประตูของตึกไทยคู่ฟ้าไว้ไม่ให้กลุ่ม ส.ส.ดังกล่าวเข้าไปภายใน ทำให้ยืนอยู่ได้เพียงแค่บันไดของตึกเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่รอการมารับหนังสือนั้น ส.ส.ประชาธิปัตย์ต่างพูดถึงจุดประสงค์ของการเดินทางมา โดยเฉพาะราคายางที่ตกต่ำ และรัฐบาลยังไม่มีมาตรการในการแก้ปัญหาได้ ทั้งนี้ได้มี ส.ส.บางคนพูดว่าเราต้องการพูดเรื่องนี้ในสภา แต่เมื่อนายกฯ ไม่เข้าประชุมสภา เราก็ต้องมาที่ทำเนียบ ขณะที่ ส.ส.บางคนก็โวยวายต่อว่านายกฯ ที่ไม่มารับหนังสือ หรือไม่ส่งตัวแทนมารับหนังสือ โดยบอกว่าจะให้รอถึงเมื่อไหร่ เมื่อประชาชนเดือดร้อนรัฐบาลก็ต้องดูแลและลงมารับหนังสือเพื่อทราบถึงความเดือดร้อน
ทั้งนี้ นายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง ตะโกนว่าการที่นายกรัฐมนตรีไม่ลงมาพบนั้น ถือเป็นการไม่ให้เกียรติ ส.ส.ที่มายื่นเรื่องโดยตรง เพราะเรื่องเป็นความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งการที่เดินทางมาทำเนียบรัฐบาลนั้นเนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่เดินทางไปยังสภาผู้แทนราษฎร และไม่เปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้ยื่นหนังสือ ซึ่งการที่นายกรัฐมนตรีทำแบบนี้ควรลาออกไปดีกว่า ไม่เหมาะที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
หลังจากผ่านไปประมาณ 15 นาที นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ รองเลขาธิการนายกฯ ได้เดินทางมารับหนังสือที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายอาคมกล่าวต่อ นพ.ประสิทธิ์ ว่านายกฯ อ้างว่าติดประชุม ซึ่งพวกตนเข้าใจดีว่านายกฯ มีภารกิจเยอะ แต่พวกตนขอเวลาแค่ 5 นาที ซึ่งก็ต้องขอบคุณ นพ.ประสิทธิ์ที่ให้เกียรติพวกตน
“แต่พวกผมประสงค์จะยื่นกับนายกฯ เมื่อนายกฯ ไม่ได้ไปสภา พวกผมก็ต้องมาที่ทำเนียบ แต่เมื่อพวกผมมาแล้ว นายกฯ ไม่ประสงค์มารับพวกผมก็ไม่เป็นไร และจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้พวกผมได้แจกสื่อไปหมดแล้ว เมื่อนายกฯไม่ลงมารับด้วยตนเอง เพราะฉะนั้นจดหมายฉบับนี้พวกผมไม่ยื่น พวกผมขอเอากลับก็แล้วกัน ไปพวกเรา” นายอาคมกล่าว
ขณะที่ได้มี ส.ส.ท้วงขึ้นมาว่า “อ้าว ไม่รอนายกฯ ก่อนเหรอ” ทำให้มีเสียง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ต่างพูดแทรกขึ้นมาหลายคนว่า “ก็นายกฯ ไม่ลงมารับ ทั้งๆ ที่อยู่บนตึก แต่ไม่ให้เกียรติ ส.ส.ลงมารับหนังสือด้วยตัวเอง ความจริงเวลาของนายกฯ สำหรับเกษตรกรควรจะมีให้”
อย่างไรก็ตาม นพ.ประสิทธิ์กล่าวต่อ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ว่า ความจริงเรื่องยางพารา งบประมาณก็นำลงไปแก้ปัญหาเยอะ แต่ปัญหาไม่จบ ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวโต้ว่า งบประมาณเยอะก็จริงแต่อยู่ที่การบริหารจัดการ เพราะบางทีลงไปแต่ลงไปเฉพาะพรรคพวกตัวเอง ไม่ได้ถึงมือเกษตรกรโดยตรง ทั้งนี้ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ได้มีการยื่นญัตติด่วนเรื่องยางพารา จึงอยากเชิญให้นายกฯ ไปฟังที่สภาด้วย
ด้านนายอาคม ได้ฝากให้ นพ.ประสิทธิ์ไปแจ้งต่อนายกฯ ว่า เมื่อพวกตนประสงค์จะให้รัฐบาลแก้ปัญหา มาหานายกฯ ที่ทำเนียบ เพราะท่านไม่ค่อยว่างไปสภา แต่ว่าเมื่อนายกฯไม่ให้เกียรติพวกผมมารับจดหมาย ซึ่งนายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาล เมื่อนายกฯ ไม่ได้มารับก็ไม่เป็นไร แต่ในสภาอยากให้นายกฯ ไปฟัง หรืออย่างน้อยๆ ส่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ไปรับฟังก็ได้ เพราะปู่หรือก๋งนายกิตติรัตน์ เป็นคนนำยางต้นแรกมาปลูกในประเทศไทย ดังนั้นกลับไปดูยางต้นแรกของปู่หน่อย
นพ.ประสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า การกระทำของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เช่นนี้ดูไม่ดีเลย ยืนยันได้เลยว่าวิธีอย่างนี้พวกตนไม่เคยทำ ไม่เคยบุกมาอย่างนี้ เมื่อไม่พอใจอะไรก็ต้องไปพูดกันในสภา แต่การมาทำอย่างนี้ไม่ใช่ และการมายื่นหนังสือนี้ก็ไม่เห็นมีการประสานมาเลย แต่จะประสานมาที่ใครตนไม่ทราบ ซึ่งที่ตนมารับก็เพราะนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกฯ ให้มารับ
“การที่บุกกันมาอย่างนี้ ผมขอถามหน่อยว่าใครจะกล้าลงมารับหนังสือ ถ้าลงมาก็คงโดนซัดแน่ เล่นกันแรงเกิน ดูแล้วไม่ดีเลย ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ทำอย่างนี้ก็ยิ่งเสียเอง เรื่องนี้ชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์เล่นเกม เขาไม่ได้ต้องการแก้ปัญหาราคายางจริงๆ แต่นี่คือเกมการเมือง มีการวางแผนกันมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งเรื่องราคายางพารา เราก็พยายามแก้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับขั้นตอน ซึ่งเราก็รู้อยู่ว่านายทุนยางตอนนี้ทำอะไรกันอยู่ พวกเขานั่นแหละน่าจะรู้ ผมว่าพวกเขาและพ่อค้ายางนั่นแหละรู้กันดีว่าใครเป็นใคร ซึ่งเม็ดเงินที่ลงไปไม่ใช่น้อย แต่ไปทำอะไรกัน เพราะจำนวนเงินขนาดนี้น่าจะพยุงราคายางได้ค่อนข้างดี แต่กลับไปปั่นกัน ซึ่งพวกเขาน่าจะไปแจ้งจับพ่อค้าแต่ไม่ทำ กลับมาเล่นรัฐบาล ดังนั้นชัดเจนว่าการแก้ปัญหาราคายางมีการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง และการทำเช่นนี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานในอนาคต ทำเช่นนี้เหมือนไม่ให้เกียรติกัน ผมเป็น ส.ส.6 สมัย แต่ออกมาพูดในทำนองดูถูกดูหมิ่นกัน บอกจะมายื่น แต่พอมารับก็ไม่ยื่น ดังนั้นนี่คือเกมของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าคิดว่าสิ่งที่ทำเช่นถูกต้องก็ทำไปเถอะ รับรองเลือกตั้งครั้งหน้าเหลือไม่ถึง 100 ขอให้คอยดู ที่อีสานรับรองหายหมด มาทำเช่นนี้จะแก้ปัญหาราคายางได้ไหม มันก็แก้ไม่ได้ มันต้องมาคุยกัน” รองเลขาธิการนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะไปฟังการอภิปรายญัตติด้วยเรื่องยางพาราด้วยตัวเองหรือไม่ รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ความจริงนายกฯ มีกำหนดการจะไปสภา แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ทำอย่างนี้ ดีไม่ดีตนว่านายกฯ อาจจะไม่ไป คนเราไปให้เขาด่าเรื่อยๆ ก็เบื่อ
ทั้งนี้ จดหมายเปิดผนึกดังกล่าวได้เรียกร้องให้รัฐบาลดูแลแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำอย่างเร่งด่วน โดย 1. รัฐบาลจะต้องดำเนินการรับซื้อยางพาราในราคาเป้าหมายกิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 120 บาททันที 2. นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ต้องเข้ามาดำเนินการด้วยตนเองอย่างจริงจัง เพราะความน่าเชื่อถือต่อผู้รับผิดชอบเดิมไม่มีผลต่อจิตวิทยาระดับราคายาง 3. ให้ตรวจสอบโครงการรับซื้อยางพาราในราคาเป้าหมาย กิโลกรัมละ 120 บาท และกิโลกรัม 100 บาทที่ผ่านมาว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ และ 4. ขอให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงในขั้นการพิจารณาญัตติด่วนเรื่องราคายางพาราตำต่ำที่จะเลื่อนขึ้นมาพิจารณาในวันที่ 23 ส.ค.
ด้าน นายชินวรณ์ให้สัมภาษณ์ว่า เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่นายกรัฐมนตรีไม่ไปรับหนังสือที่สภาฯ แล้วก็ไม่ลงพบกับ ส.ส.ที่มาพบในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งหนังสือเป็นหนังสือเปิดผนึกอยู่แล้ว จึงไม่ประสงค์ยื่นผ่านผู้ที่ได้รับมอบหมายมาแทน ซึ่งสิ่งที่เราจะเรียกร้องต่อไปคืออยากเห็นนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลเรื่องราคายางพาราเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและแก้ไขปัญหาต่อไป เพราะวันนี้เกษตรกรและผู้รับซื้อยางไม่มีความมั่นใจรัฐมนตรีที่ดูแลนโยบายเรื่องยางพาราแล้ว ขณะที่วันนี้ราคายางลดลงเหลือกิโลกรัมละ 76 บาท จึงไม่อยากเห็นเกษตรกรเดินทางมาประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาลและเราอยากให้ความร่วมมือกับรัฐบาล แต่ถ้ารัฐบาลไม่รับฟังเสียงของตัวแทนประชาชนก็เป็นหน้าที่ที่ประชาชน จะเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป เพราะวันนี้สิ่งที่ประชาชนต้องการคือรัฐบาลต้องรับซื้อราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 120 บาท ส่วนเงินที่ใช้ไปกว่า 15,000 ล้านบาทเพื่อแก้ไขปัญหาก็ล้มเหลว
ส่วนญัตติด่วนในวาระการประชุมสภาฯ เพื่ออภิปรายเรื่องยางพารานั้น นายชินวรณ์กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีไปตอบด้วยตนเอง แต่หากนายกรัฐมนตรียังไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน และยังรับข้อมูลที่ผิดพลาดจากข้าราชการว่าเหลือกิโลกรัมละ 76 บาท ประชาชนยังอยู่ได้นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง แต่หากนายกรัฐมนตรีไม่ไปตอบญัตตินั้น เราก็จะรวบรวมข้อมูลนำไปสู่การตรวจสอบโดยนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีที่กำกับดูแลเรื่องนี้ต่อไป รวมทั้งนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบนโยบายด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กลุ่ม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเสร็จนั้น ก็ได้เดินออกไปขึ้นรถตู้ โดยมี นพ.ประสิทธิ์เดินตามไปส่งถึงประตู 1