“ชวนนท์” จวกยับ “เหวง” อ้างหน้าด้านๆ แก๊งแดงไม่มีอาวุธ ทั้งที่มีภาพประจานไปทั่วโลก ระบุบิดเบือนเพราะกลัวเข้าคุก ย้ำเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ไม่ได้ ไม่ว่าจะชนะเลือกตั้งกี่ครั้ง ท้าถอน พ.ร.บ.ปรองดอง หยุดนิรโทษกรรมล้างผิด
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการพิจารณาอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน 9 ชุดที่สรุปว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินช่วงแดงชุมนุมเผาเมืองมีความชอบธรรม เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เพราะการชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 2553 มีการละเมิดสิทธิผู้อื่น ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่ต้องชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ ทำให้แกนนำเสื้อแดง เช่น นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ออกมาตอบโต้ว่าไม่มีการใช้อาวุธและความรุนแรงในกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ตนถือว่าเป็นการดูถูกคนไทยมากเกินไป เพราะภาพความรุนแรงจากคนเสื้อแดงมีการถ่ายทอดออกมาให้คนไทยและต่างประเทศได้เห็นอย่างชัดเจน แต่กลับแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ หน้าด้านๆ อ้างว่าไม่มีความรุนแรง ทั้งๆ ที่เหตุการณ์สี่แยกคอกวัว สีลม เกิดจากกองกำลังชุดดำที่แฝงตัวในผู้ชุมนุมทั้งสิ้น
“ผมคิดว่าคนเหล่านี้ต้องกล้ายอมรับความจริงบ้าง ไม่ใช่กลับข้อเท็จจริงให้อยู่ตรงกันข้าม จึงขอสันนิษฐานว่าขาข้างหนึ่งอยู่ในคุกแล้ว จึงเกิดความหวาดกลัวเมื่อมีองค์กรใดสรุปว่าเป็นฝ่ายใช้ความรุนแรง ทำให้ต้องการทาสีให้เป็นผ้าขาวเพื่อให้พ้นผิด แต่ตนเชื่อว่าเปลี่ยนประวัติศาสตร์ไม่ได้ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลอีกกี่สมัยก็ตาม จึงขอให้เลิกบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำตัวปากกล้าขาสั่น แต่ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนคนอื่นก็จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความปรองดองให้กับประเทศ”
ส่วนที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรฯ หนึ่งในแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่าการเลื่อนเข้าให้ปากคำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการไต่สวนของศาลอาญาในคดีการเสียชีวิตที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐออกไป 15 วัน เป็นการแสดงออกแบบปากกล้าขาสั่นนั้น ความจริงการเลื่อนดังกล่าวเป็นกระบวนการตามปกติของกระบวนการยุติธรรม
“การที่ทั้งสองคนเลื่อนออกไปก็เพื่อเตรียมเอกสาร หลักฐาน เพื่อให้คำให้การเป็นประโยชน์ในทุกคดี ต่อการสะสางคดีความของประเทศชาติ เป็นการแสดงให้เห็นว่ากล้าเผชิญหน้ากับความจริง ตรงกันข้ามกับนายณัฐวุฒิและพวกที่ปากกล้าขาสั่น เพราะที่่ผ่านมากล่าวหาศาล แต่พอศาลพิจารณาไต่สวนถอนประกันก็หน้าซีดขอโทษศาล ทั้งนี้ ขอเรียกร้องอีกครั้งให้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองออกจากรัฐสภา อย่านิรโทษกรรมให้ตัวเอง เพราะคนที่ถูกกล่าวหาว่าผิดอย่างนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ไม่เอานิรโทษกรรม ถ้าไม่กล้าทำก็เลิกพูดได้แล้ว เพราะคนผิดเท่านั้นที่จะขอล้างผิดให้ตัวเอง”