สะเก็ดไฟ
การอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ปิดฉากไปเรียบร้อยหลังอภิปรายกัน 3 วันเต็ม ฝ่ายค้านและรัฐบาลต่างชื่นชมยกหางการทำหน้าที่ของตัวเองตามสูตร
พรรคประชาธิปัตย์บอกว่า อภิปรายครานี้สามารถชำแหละความฉ้อฉลของรัฐบาลได้ดี โดยเฉพาะงบบางอย่างที่หมกเม็ด ขาดรายละเอียด ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็เย้ยหยันข้อมูลไม่มีอะไรน่าสนใจ สอบตกในแง่เนื้อหา
เหน็บกลับขอให้ไปทำการบ้านให้ดีสำหรับคิวต่อไป อภิปรายผลงานรัฐบาลครบรอบ 1 ปี และไฮไลต์แห่งปีศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แต่เหมือนอย่างที่หลายคนเห็นฝ่ายค้านยังชำแหละได้ไม่ถึงแก่น เหมือนยังกั๊กๆ ไว้อยู่ในที นั่นก็เพราะต้องการอุบไต๋ทีเด็ดไว้ใช้ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ต้องการเปิดหมดเปลือกเหมือนอย่างที่พรรคเพื่อไทยต้องการ
ก่อนหน้านี้รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยก็สุมหัววางแผน ประเมินว่าการอภิปราย 3 เวทีติดๆ กัน จะทำให้ข้อมูลของฝ่ายค้านจืดชืด ตั้งใจปล่อยให้ฝ่ายค้านพูดจนน้ำลายแห้งในเวทีงบประมาณ และอภิปรายผลงานรัฐบาล หวังชาวบ้านเบื่อจนขี้เกียจไม่อยากฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เรื่องการอภิปรายไม่ว่าเวทีไหน สำคัญที่สุดคือ “เนื้อหา” ลีลาโวหารเป็นเพียงน้ำจิ้มปรุงแต่ง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นพรรคที่มีสูตรน้ำจิ้มกลมกล่อมที่สุด แต่ทว่าในแง่เนื้อหาชั่วโมงนี้หลายคนยังตั้งคำถาม
เวทีอภิปรายงบประมาณก็ไม่มีอะไรกระตุกความน่าสนใจ หลายอย่างยังพูดวนเวียน เหมือนหมดมุขเล่น กลับเป็นพรรคภูมิใจไทย ที่มีมุกเรียกความสนใจจากสังคม ด้วยการเปิดชื่อย่อ “เจ๊ ด.” แกนนำภาคเหนือ ตัวการใหญ่ชักหัวคิวงบประมาณ โดยแย่งซีนไปแบบหน้าตาเฉย
ในแวดวงการเมือง ราชการหลายส่วน พูดกันมาตลอดว่ามันมีเรื่องพวกนี้อยู่ แกนนำในพรรคเพื่อไทยบางคนทำการชักหัวคิวเรียบวุธ ไม่ว่าโครงการใหญ่-น้อย
นินทาให้แซด แม้กระทั่งคนในพรรคกันเองว่าจะอะไรกันนักหนา สวาปามทุกเม็ดจนดูตะกละตะกลามเกินไป มันจึงเป็นน้ำหนักที่เพิ่มให้ข่าวที่ปูดออกมา
เรียกว่าพรรคภูมิใจไทยทำการบ้านมาดี โหนกระแสการอภิปรายงบประมาณไปได้แบบเนียนๆ เป็นที่มาของประเด็นข่าวใหญ่ เบียดบังเนื้อหาสาระการอภิปรายที่จืดชืดของพรรคประชาธิปัตย์กระเด็นตกขอบไปทันที แล้วในที่สุดก็ต้องมาเล่นตามน้ำกับเขาด้วย
สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนได้อย่างดีถึงมาตรฐานที่สาละวันเตี้ยลงของพรรคประชาธิปัตย์ในยุคที่มี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” และสมาชิก “แก๊งไอติม” เป็นตัวละครเอก เอาแต่เล่นเกม เปิดสงครามน้ำลาย โซเชียลมีเดีย ตอบโต้คิดเกมแบบเด็กๆ
เอาชนะเป็นรายวัน ขาดมิติของการมองการณ์ไกล ลูกล่อ ชั้นเชิงหายไปหมด การนำข้อมูลที่ได้มาเพียงเล็กน้อย มาต่อจิ๊กซอว์กับเรื่องอื่นๆ มาขยายผลเป็นซีรีส์ เหมือนในอดีตไม่มีให้เห็นกันแล้ว
ข้อมูลเนื้อหาผนวกกับโวหารชั้นเซียนเหยียบเมฆ ที่เคยทำอดีตนายกรัฐมนตรี บรรหาร ศิลปอาชาเสียประสาทมาแล้ว ยังสับสนกับชีวิตตัวเองว่า “อั๊วลูกใครกันแน่” คอการเมืองไม่มีโอกาสได้เห็นในพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้
กะเทาะเปลือกในแล้วเห็นความขัดแย้งภายในพรรคเก่าแก่หลายจุด เหมือนขาดความต่อเนื่องผสมผสานถ่ายทอดฝีมือจากยุคเก่าสู่ยุคใหม่ ก็ต้องจับตาดูว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเปิดฉากอีกเดือนสองเดือนข้างหน้านี้ จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น จะอุบไต๋ไว้ หรือ “บ่มิไก๊” อย่างเก่า
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็รอปฏิวัติพรรคได้เลย เพราะเลือกตั้งอีกก็แพ้อีกแหละ!!