อุบลราชานี - ผู้แทนหน่วยปราบปรามยาเสพติดไทย-ลาว-กัมพูชาร่วมหารือการพัฒนาวิธีหลบหลีก ซุกซ่อนของกลุ่มนักค้ายาเสพติดชายแดนของทั้ง 3 ประเทศ เพราะยังมีการลำเลียงผ่านชายแดนไปยังส่วนกลางของไทย
ที่โรงแรมลายทอง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จ.อุบลราชธานี ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในไทย- ลาว -กัมพูชา ซึ่งยังพบการระบาดตามพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติดของลาวและกัมพูชาเข้าร่วมจำนวน 43 คน รวมทั้งตัวแทนจากภาครัฐของไทยอีก 22 ราย
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมได้หารือถึงปัญหาการระบาดยาเสพติดตามแนวชายแดนของทั้ง 3 ประเทศที่ยังพบมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกลุ่มนักค้ามีการพัฒนาวิธีการหลบหลีกการจับกุม และวิธีการซุกซ่อนยาเสพติด รวมทั้งการใช้นักค้าหน้าใหม่เป็นผู้ลำเลียงยาเสพติด ทำให้ยากแก่การจับกุม
จึงมีการตกลงแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของกลุ่มนักค้า การพัฒนาบุคลากรในการตรวจค้น เฝ้าติดตามของ 3 ประเทศให้ทันความเปลี่ยนแปลงของกลุ่มนักค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ และการจัดประชุมใหญ่ระหว่างหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดทั้ง 3 ประเทศ เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานร่วมกันปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้การปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สำหรับพื้นที่การแพร่ระบาดยาเสพติดที่กลุ่มนักค้ายาเสพติดทั้งชาวไทยและลาวใช้เป็นช่องทางลำเลียงยาเสพติดผ่านเข้ามายังส่วนกลางของประเทศไทย คือ แขวงจำปาสัก แขวงสาละวัน และแขวงสะหวันนะเขต โดยเข้ามาทางจังหวัดอุบลราชธานีและอำนาจเจริญ ส่วนพื้นที่ด้านประเทศกัมพูชามีการลำเลียงผ่านจังหวัดสตึงแตรง จังหวัดพระวิหาร เข้าประเทศไทยด้าน จ.ศรีสะเกษ และสุรินทร์
แต่ยังถือว่ามีจำนวนน้อยกว่าบริเวณชายแดนด้านไทย-ลาว เพราะเส้นทางใช้ลำเลียงยังไม่สะดวก ส่วนสถิติการจับกุมของฝ่ายไทย มีการจับกุมยาเสพติดประเภทยาบ้าในรอบปี 2555 ได้กว่า 1 ล้านเม็ด ยาไอซ์กว่า 10 กิโลกรัม