พึ่งตร.ไม่ได้ก็ต้องพึ่งศาล !!

เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด

00 เชื่อว่าในช่วงวันสองวันนี้บรรดาพวกหัวโจกแดงทั้งหลายคงลุ้นระทึกกินไม่ได้นอนไม่หลับ โดยเฉพาะพวกที่ได้ดิบได้ดีกลายพันธุ์จากไพร่มาเป็นอำมาตย์ไม่นาน มีตำแหน่งแห่งที่ ทั้งที่ได้เป็น รมต.ผู้ช่วยรมต.เป็น ส.ส.ที่ปรึกษาที่นั่นที่นี่ กินเงินเดือนชาวบ้านหลังจากเสร็จภารกิจ “เผา” ก็ได้บำเหน็จรางวัล คนพวกนี้แหละที่ต้องลุ้นหนักกว่าใครเพื่อน เพราะวันที่ 9 ส.ค.เป็นวันที่ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องให้ถอนประกัน เนื่องจากไปทำปากดี “ด่าศาลโชว์นาย”

00 งานนี้ถ้าศาลถอนประกันตามที่ชาวบ้านหลายคนกำลังลุ้นให้เป็นอยู่ คนที่เสียหายมากที่สุด ก็เห็นจะเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ รวมทั้งพวกที่มีตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ เช่น ยศวริศ ชูกล่อม คนพวกนี้หากต้องระเห็จเข้าไปอยู่ในคุก ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว แต่สำหรับ ตู่ จตุพร นี่อาจจะพิเศษกว่าใคร เพราะกำลังลุ้นเก้าอี้ รมต.หนแรกก็อาจฝันค้างอีกรอบก็เป็นได้ ส่วนคนอื่น อย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก่อแก้ว พิกุลทอง เหวง โตจิราการ เป็นต้น คนพวกนี้อาจรอดตัวไปชั่วคราว เพราะมีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มกลาหัว ในช่วงเปิดสมัยประชุมสภา

00 ที่ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ศาลได้ออกระเบียบควบคุมการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงทั้งนอกและในศาล มีการกำชับตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์หรือ “ฝ่ายขัง” มาหารือกันพร้อมสรรพ ราวกับว่าถ้ายังขืนซ่าส์เมื่อไหร่ก็ให้ตำรวจจับส่งกรมราชทัณฑ์เข้าคุกได้ทันควัน แต่ที่ผิดสังเกตก็คือนี่เป็นท่าทีที่ “เข้ม” เอาจริงเอาจังมากที่สุดในรอบหลายปี อาจเป็นเพราะที่ผ่านมา “ตำรวจมะเขือเทศ” หรือมี อธิบดีกรมคุกเป็น “ลูกน้อง” หัวหน้านักโทษที่หนีคดีก็ได้เลยไม่ทำหน้าที่ ไม่รักษาระเบียบ อ้างแต่เรื่องประชาธิปไตย สองมาตรฐาน ใบสั่งอำมาตย์ตะพึดตะพือ ทำนองเมื่อคนที่มีหน้าที่รักษาความสงบไม่ทำหน้าที่ ศาลจึงต้องลงมาทำหน้าที่แทนในขอบเขตของตัวเอง ตอกย้ำให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของอำนาจศาลไม่ให้ถูกละเมิดได้ง่ายๆ

00 ในที่สุดมติวิปฝ่ายค้านที่นำโดย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่ายังไม่รีบร้อนยื่นซักฟอก นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลรอให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ และการแถลงผลงานครบ 1 ปีผ่านไปก่อน ปล่อยให้เดินโชว์แฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผมไปอีกสักพัก ให้ขาย “โชว์ห่วย” ไปเรื่อยๆ เหมือนกับเปิดทางให้ประจานตัวเองกันเป็นหมู่คณะกันตามสบาย ตอนนี้ทั้งไทยและเทศต่างอินกับบรรยากาศโอลิมปิก แต่อีกไม่กี่วันก็จะปิดฉาก ก็จะกลับมารับรู้ความเจ็บปวดจากภาวะข้าวยากหมากแพง เงินในกระเป๋าแฟบลง แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสวนทาง ที่แน่ๆกำลังจะขึ้นค่าก๊าซหุงต้ม โดยอ้างกลไกตลาดรับประชาคมอาเซียนในปี 58 ต้องรีบฉวยโอกาสทยอยขึ้นตอนนี้ แต่ฝ่าย “กุนซือหูกระต่าย” พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ส่งมาคุมกระทรวงพลังงาน ยังรีรอ เพราะเกรงจะถูกแม่ค้าพวกเดียวกันด่าเปิง ก็ลองดูไปเรื่อยๆแล้วกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะอึดได้นานแค่ไหน หมายถึงชาวบ้านนะ ไม่ใช่แม้ว !!

00 ได้จังหวะโผล่หัวออกมาพอดีเป๊ะสำหรับ “มือสังหารกรือเซะ” พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่บอกว่า “โกรธ” กับการที่ทหารถูกทำร้ายพร้อมเสนอให้ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีใหม่ให้ใช้วิธีแบบ “โจรสู้โจร” ได้ยินแล้วขนลุกขนพอง ให้เข้าหาเป้าหมายแล้วจัดการทันที แต่ปัญหาก็คือ “ใครคือเป้าหมาย” เพราะที่ป่วนอยู่ทุกวันนี้มีสาเหตุจากเราไม่รู้ว่า “รบกับใคร” แยกไม่ออก เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือ ชาวบ้านไม่ไว้ใจ คิดแบบง่ายๆ สะใจแบบนี้แหละถึงได้ลุกเป็นไฟไงละ !!