สั่งเสื้อแดงพับเพียบ ศาลคุมเข้มห้ามซ่า

สะเก็ดไฟ

วันที่ 9 สิงหาคมนี้ เป็นวันที่ศาลอาญาได้เรียกพวกแกนนำนปช.-คนเสื้อแดงที่มีทั้งพวก ส.ส.เพื่อไทยและไม่ได้เป็น ส.ส.รวม 24 คน มาเบิกความต่อศาลเพื่อทำการไต่สวนว่าทั้งหมดซึ่งเป็นจำเลยในคดีก่อการร้ายได้ทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่

ศาลอาญา และกองบัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมพร้อมกันเต็มที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณรอบศาลอาญา

โดยหลังจากเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บริหารศาลอาญาได้วางหลักเกณฑ์การทำข่าวของสื่อมวลชนในวันดังกล่าวเอาไว้แล้ว ซึ่งวันจันทร์ที่ 6 สิงหาคมนี้ก็มีข่าวว่าผู้บริหารศาลอาญาโดยนายทวี ประจวบลาภ อธิบดีศาลอาญาได้นัดประชุมร่วมกับตัวแทนกองบัญชากาตำรวจนครบาลและตำรวจในพื้นที่เพื่อเตรียมการดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบศาลอาญากันเต็มที่

แม้ฝ่ายแกนนำ นปช.จะบอกกับพวกเสื้อแดงทั้งหลายว่า หากจะมาให้กำลังใจกันก็ขอให้มาด้วยความสงบเรียบร้อย ห้ามถือป้ายประท้วง หรือป้ายข้อความใดๆ ที่เกี่ยวกับศาลหรือคดีความอย่างเด็ดขาด

ที่สำคัญมีการสั่งกำชับเด็ดขาดว่า ห้ามเปิดเวทีปราศรัยย่อยผ่านลำโพงหรือเครื่องขยายเสียง ไม่ว่าจะในลักษณะไหน เช่น ปราศรัยบนรถยนต์หรืออะไรทั้งสิ้นบริเวณหน้าศาลอาญาเด็ดขาดเพราะอาจถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นศาลได้

แต่ทางศาลอาญาและตำรวจก็ต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน วางใจอะไรไม่ได้มาก เพราะประเมินว่าวันที่ 9 สิงหาคมน่าจะมีพวกเสื้อแดงแห่มาให้กำลังใจ 24 นปช.กันจำนวนมาก แม้นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาจะบอกไว้ว่า อยากให้มวลชนคนเสื้อแดงติดตามข่าวทางบ้านจะดีกว่า ไม่ต้องมาที่ศาลอาญากันจำนวนมากก็ได้ แต่ก็เชื่อว่าพวกเสื้อแดงโดยเฉพาะแดงฮาร์ดคอร์ทั้งหลายคงมากันตรึมที่หน้าศาลอาญา

เพราะขนาดเมื่อ 23 กรกฏาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่จตุพร พรหมพันธุ์ มาขึ้นศาลอาญาเพื่อไต่สวนในคำร้องที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญร้องต่อศาลอาญาเพื่อให้ศาลอาญายกเลิกการประกันตัวจตุพร เพราะมีพฤติการณ์ทำผิดเงื่อนไขของศาลอาญา ก็ปรากฏว่ามีเสื้อแดงแห่มาหน้าศาลอาญาร่วมพันคน ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาททางศาลอาญาและตำรวจก็คงต้องเตรียมรับมือในวันที่ 9 สิงหาคมกันเต็มที่

เนื่องจากพวก 24 นปช.ที่ถูกศาลเรียกตัวมาล้วนแต่พวกแกนนำของจริงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์-จตุพร พรหมพันธุ์-วีระกานต์ มุสิกพงศ์-เหวง โตจิราการ-ก่อแก้ว พิกุลทอง-ยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก-อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง-วิภูแถลง พัฒนภูมิไท เป็นต้น

ซึ่งในส่วนของพวกที่เป็น ส.ส.เช่น นพ.เหวง-ณัฐวุฒิ พวกนี้บอกไว้แล้วว่าจะขอเดินทางไปร่วมเบิกความต่อศาลอาญาในวันที่ 9 สิงหาคม พร้อมกันกับพวก นปช.ทั้งหมด โดยจะไม่ขอใช้เอกสิทธิ์การเป็น ส.ส. แม้จะขอเลื่อนต่อศาลอาญาไม่ต้องไปก็ได้เพราะอยู่ในช่วงเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วเมื่อ 1 สิงหาคม

อย่างไรก็ตาม เอกสิทธิ์การเป็น ส.ส.ของพวก ส.ส.นปช.เหล่านี้ จะได้รับคุ้มกัน หากศาลอาญาเพิกถอนการประกันตัวแกนนำ นปช.ที่เป็น ส.ส. บรรดาพวกที่เป็น ส.ส.ก็จะไม่ต้องเข้าเรือนจำ

นัยว่าพวกที่เป็น ส.ส.ซึ่งจะไปที่ศาลอาญาด้วยในวันที่ 9 สิงหาคมนั้น ก็เพื่อแสดงให้พวกเสื้อแดงทั้งหลายรวมถึงพวกเดียวกันในกลุ่มที่ไม่ได้เป็น ส.ส. เกิดความรู้สึกว่าพร้อมจะร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน ไม่มีแตกแถว ไม่มีทิ้งกัน จะได้ไม่เกิดความรู้สึกอะไรบางอย่างต่อกันในยามที่หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้

สำหรับในวันที่ 9 สิงหาคมนั้น มีการคาดกันว่ากว่าที่ศาลจะไต่สวนจำเลยหมดครบทุกคน อาจต้องใช้เวลานานมากเป็นพิเศษ จึงยังไม่มีใครประเมินได้ว่าศาลจะมีคำสั่งออกมาเลยหรือไม่ เพราะมีข่าวว่าในวันดังกล่าวก็ต้องมีการเรียกบุคคลหลายฝ่ายเช่น ผู้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญามาเบิกความด้วย

เช่น นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้ยื่นเรื่องต่อศาลอาญาเพื่อขอให้ศาลเพิกถอนการปล่อยตัวนายก่อแก้ว พิกุลทอง ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนหน้าวันตัดสินคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญในคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญขัดมาตรา 68 ในทำนองกดดันการตัดสินคำร้องของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

รวมถึงศาลก็คงต้องมีการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ เช่น เทปเสียงหรือเทปภาพการให้สัมภาษณ์ หรือการปราศรัย-การแถลงข่าวของพวกแกนนำ นปช.จากสื่ออีกหลายแห่งเพื่อดูว่าพวกแกนนำ นปช.เหล่านี้ได้มีการพูดจาอันใดซึ่งมีเนื้อหาหรือมีการแสดงพฤติการณ์อันใดที่เข้าข่ายฝ่าฝืนเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่

จึงยังคาดการณ์ไม่ได้ว่า ในวันดังกล่าวศาลอาญาจะมีคำสั่งออกมาเลยหรือไม่ หรือจะต้องขยายวันการตรวจสอบพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ก็ต้องดูกันว่าศาลจะว่าอย่างไร

ขณะที่ จตุพรระยะหลังหายซ่าไปเยอะ ตั้งแต่โดนยื่นเรื่องให้ศาลถอนประกันและศาลได้ตักเตือนไปเมื่อ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา

โดยวันดังกล่าวศาลอาญาได้แจ้งกับจตุพรให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลมีคำสั่งในการอนุญาตปล่อยชั่วคราว พร้อมทั้งกำชับและตักเตือนให้ระมัดระวังการกล่าวปราศรัย หรือการกล่าวแถลงข่าวใดๆ ที่อาจจะส่งผลที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมือง และศาลอาจมีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้

เลยทำให้จตุพรพูดจาอะไรระยะหลังสงบปากสงบคำขึ้นมาก วันแถลงข่าวเสื้อแดงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็บอกพร้อมรับชะตากรรมและคำตัดสินของศาลอาญา แต่ก็หยอดว่าหวังว่าศาลจะให้ความเมตตา

ถ้ารู้ตัวว่า ถึงเวลาจริงๆ ก็กลัวต้องเข้าคุกอีกรอบแบบนี้ หากทำตัวดีตลอดก็คงไม่ต้องมาลุ้นเหงื่อตกแบบนี้หรอก “คางคกตู่”