xs
xsm
sm
md
lg

ศาลจัดระเบียบจับหัวโจกแดงเข้าคุก!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

สังเกตหรือไม่ว่าช่วงนี้บรรดาหัวโจกคนเสื้อแดงต่างสงบปากสงบคำกันผิดปกติ เนื่องจากหลายคนกำลังรอลุ้นว่าในวันที่ 9 สิงหาคมที่จะถึงนี้ชะตาของตัวเองจะถึงฆาตหรือไม่ นั่นคือ ศาลอาญาจะเพิกถอนสัญญาการประกันตัวหรือไม่ หลังจากที่ผ่านมามีพฤติกรรมหมิ่นเหม่ หรือถ้าพูดกันไม่อ้อมค้อมแบบชาวบ้านก็ต้องบอกว่า “ชัดยิ่งกว่าชัด” แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าศาลท่านจะว่าอย่างไรในวันนั้นดีกว่า

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากแบกกราวด์ในช่วงที่ผ่านมาไม่นานนัก ได้เกิดเรื่องที่น่าสังเกตบางเรื่องที่ทำให้ต้องมานั่งคิดว่ามันเหมือนเป็นสัญญาณบางอย่างที่แสดงออกมาให้เห็นล่วงหน้า ถ้ายกตัวอย่างให้เห็นภาพก็ต้องเริ่มมาจากการที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นตัวแทนไปยื่นร้องต่อศาลอาญาให้เพิกถอนประกันกับ จตุพร พรหมพันธุ์ ฐานพูดจาปราศรัยหมิ่นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และแม้ว่าศาลได้นัดรวมให้มาไต่สวนเพื่อสอบถามรายละเอียดพร้อมกับบรรดาหัวโจกรายอื่นๆ อีกหลายคน นัดพร้อมกันทีเดียววันที่ 9 สิงหาคม แต่น่าสนใจก็คือก่อนหน้านี้คือวันที่ 23 กรกฎาคมศาลอาญาได้กำชับตักเตือนให้ระวังปากไว้ให้ดี อาจเข้าข่ายทำให้ต้องระเห็จเข้าไปอยู่ในคุกได้ง่ายๆ

ถัดมาวันที่ 31 กรกฎาคมศาลอาญาก็ได้พิพากษาจำคุก พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ฐานหมิ่นประมาทประธานศาลรัฐธรรมนูญ วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ คนละ 1 ปี ปรับคนละ 5 หมื่นบาท แม้ว่าโทษจำคุกให้รอลงอาญาคนละ 2 ปีก็ตาม แต่ก็ได้เป็นตัวอย่างทำให้หลายคน “เสียวสันหลัง” วาบแน่นอน

ที่น่าสนใจก็คือ หลังจากนั้นถัดมาอีกตัวแทนของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญาให้เพิกถอนประกันกับบรรดาหัวโจกคนเสื้อแดงอีกกราวรูด เช่น ยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ก่อแก้ว พิกุลทอง รวม 26 คน ฐานดูหมิ่นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจากกรณีรับคำร้องกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การยกร่างใหม่ทั้งฉบับเข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯหรือไม่ โดยคนพวกนี้กล่าวหา ให้ร้ายศาล รวมทั้งบางคนยังมีพฤติกรรมข่มขู่ปลุกระดมมวลชนให้ทำร้าย ทำให้ไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นการแถลง ให้สัมภาษณ์ทั้งก่อนและหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นานหลายวัน จนนึกว่าศาลน่าจะกำราบแค่จตุพร เพียงคนเดียว แต่ที่ไหนได้จัดการอีก “ชุดใหญ่” กราวรูด ประเภทที่ว่าใครก็นึกไม่ถึง

สิ่งที่ต้องพิจารณากันเป็นพิเศษก็คือ ในจำนวนหัวโจกที่ถูกยื่นคำร้องให้ถอนประกันนั้นมีหลายคนที่มีคดีก่อการร้าย “ทับซ้อน” กันไปมาจนน่าหวาดเสียว เรียกว่าเป็นรายการ “เพิ่มน้ำหนัก” เข้าคุกเป็นสองเท่า อย่าง เช่น ก่อแก้ว พิกุลทอง ยศวริศ ชูกล่อม แม้ว่าที่ผ่านมาจะโนเนมไม่มีใครรู้จัก แต่ในเมื่อสามารถสร้างความโดดเด่นด้วยการขึ้นมาเป็น “หัวโจก” จนมีตำแหน่ง ส.ส.ตำแหน่งทางการเมือง ทั้งสองคนดังกล่าวโดนคดีก่อการร้าย และได้รับการประกันตัวออกมา และศาลให้นัดมาไต่สวนและฟังกันแบบเหมารวมรอบแรกในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ ทำให้ต้องลุ้นระทึกเป็นอย่างยิ่งว่า จะต้อง “เข้าคุก” หรือไม่ เพราะกรณีแรกที่ศาลนัดฟังไต่สวนพร้อมกันก็ถือว่า “ขาสั่น” อยู่แล้ว แล้วยังมาเจอกับกรณีที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมาย้ำให้เพิกถอนประกันอีก ก็ยิ่งไปกันใหญ่

นอกจากนี้ ที่น่าจับตาเป็นพิเศษก็คือก่อนที่จะถึงวันไต่สวนในวันที่ 9 สิงหาคม ศาลอาญาก็ได้ออกระเบียบที่เข้มงวดกับพวกบรรดา “ขบวนเห่” คนเสื้อแดงทั้งหลายที่อาจสนุกสนานทุกครั้งที่เวลาหัวโจกพวกนี้ไปที่ไหน ทั้งที่เรือนจำ หรือมีคดีความตามโรงพักต่างๆ หรือแม้แต่เวลาไปขึ้นโรงขึ้นศาลในช่วงที่ผ่านมา แต่อาจเป็นเพราะ “ล้ำเส้น-เลยเถิด” จนเกินพอดีทำให้ล่าสุดศาลมีการกำชับออกระเบียบกันเป็นพิเศษว่าต่อไปนี้ห้ามมาตั้งเวทีติดปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง หรือกีดขวางการจราจร รวมทั้งมาเปิดร้านขายของ ขายเสื้อแดงริมฟุตบาธหน้าศาลเป็นอันขาด โดยเฉพาะการแสดงพฤติกรรม วาจาดิบเถื่อนถ่อยรับรองว่าเจอคุกไม่เกิน 6 เดือนบานหมิ่นศาลแน่

การออกระเบียบดังกล่าว หากมองผิวเผินก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ป้องกันเหตุวุ่นวาย สร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณอาณาเขตของศาล แต่น่าสังเกตก็คือเป็นการกำชับกันเป็นพิเศษในช่วงที่พวกหัวโจกเสื้อแดงกำลังมีลุ้นครั้งสำคัญเสียด้วย และยังแสดงให้เห็นว่าการออกระเบียบที่ว่าก็ต้องเกิดขึ้นหลังจากได้เห็นความไม่เป็นระเบียบก่อความเดือดร้อนรำคาญขึ้นมาก่อน คราวนี้จึงต้องเข้มขวดตักเตือนกันให้ชัดเจน

ประกอบกับที่ผ่านมาหากกล่าวไม่เกินความจริงก็ต้องบอกว่า หน่วยงานของรัฐกลับไม่ค่อยรักษากฎหมาย รักษาระเบียบของสังคม ตรงกันข้ามกลับเห็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกลับถูกมองว่าเป็น “พวกเดียวกัน” กับคนที่ทำผิดกฎหมายเสียอีก ทำให้คนพวกนี้เหิมเกริมย่ามใจ คิดว่าตัวเองเป็น “อภิสิทธิ์ชน” ไปเสียอีก และเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มที่เห็นได้ชัดจากกรณีของศาลก็น่าจะเป็นการเอาจริงเอาจัง กำชับกฎเกณฑ์ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาแม้แต่ศาลเองก็ยังถูกคุกคาม ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี่แหละที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

น่าจับตาว่าเป็นสัญญาณจับพวกหัวโจกเข้าคุก เพื่อจัดระเบียบความเรียบร้อยของบ้านเมืองเสียที!!
กำลังโหลดความคิดเห็น