รมต.ประจำสำนักนายกฯ ยันยังไม่มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หลังเปิดประชุมสภา แต่ข้อเรียกร้องพันธมิตรฯ ที่ให้ถอนออกจากวาระโยนให้เจ้าของร่างตัดสิน ขณะที่การแก้รัฐธรรมนูญขอดูประเด็นก่อนคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล คาด ภายใน 1-2 วัน ยืนยันเสถียรภาพรัฐบาลไร้ปัญหา ขณะที่เรื่องการปรับ ครม.อ้างเป็นอำนาจของนายกฯ ไม่เบรกพรรคร่วมปูดชื่อเปลี่ยนเก้าอี้
วันนี้ (26 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงท่าทีเกี่ยวกับการถอนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ... ออกจากวาระการประชุมสภา ว่า จะยังไม่มีการถอน แต่ให้เอาเรื่องอื่นมาพิจารณาก่อน ส่วนที่จะดำเนินการก็จะเสนอเอาเรื่องอื่นมาพิจารณา ส่วนการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ออกจากสภา นั้น ตนยืนยันจะยังไม่มีการพิจารณาเรื่องร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง แต่วิปคงจะเสนอให้เอาเรื่องอื่นมาพิจารณาก่อน การถอนก็จะเป็นเรื่องของเจ้าของร่าง แต่ในส่วนที่วิปดำเนินการได้ ก็จะเอาเรื่องอื่นมาพิจารณาแทน ก็คือ การเลื่อนออกไป ยังไม่มีการพิจารณาแต่อย่างใด ส่วนเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อคำวินิจฉัยกลางออกมาแล้ว เราจะดูประเด็นกันก่อน เพราะถ้าเป็นแบบนี้จะแก้ไขรายมาตราก็แก้ไขยาก และติดเรื่องประชามติ ดำเนินการได้ยังลำบาก คิดว่า คงจะเอาขึ้นมาดูและคุยกันให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในส่วนนี้เมื่อเราเห็นคำวินิจฉัยกลางแล้ว จะต้องคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน โดยคาดว่า จะคุยกันได้ภายใน 1-2 วันนี้ เมื่อประเด็นนี้ที่จะนำเข้าสภา ก็จะขอฟังเสียงของรัฐสภาทั้งหมด เพราะประเด็นนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ในวาระแรกที่ประชุมจะนำเข้าปรึกษาหารือในรัฐสภา เพราะเรื่องนี้จะดำเนินการได้ต้องประกอบด้วยพรรคร่วมรัฐบาลและวุฒิสภา
เมื่อถามว่า เสถียรภาพรัฐบาลจะเป็นปัจจัยหนึ่งต่อการพิจารณาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายวรวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลไม่มีปัญหาเสถียรภาพ ส่วนการบริหารงานของรัฐบาลก็ดำเนินการได้ราบรื่น เสถียรภาพของรัฐบาลไม่มีปัญหา และมีความมั่นคง ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลต้องมีจุดยืนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง นั้น ยืนยันว่า เรื่องปรองดองจะไม่มีการนำมาพิจารณา เพราะการถอนเป็นเรื่องของเจ้าของร่าง และขณะนี้ยังไม่ได้คุยกับเจ้าของร่างและมีหลายร่าง ส่วนจังหวะที่นำขึ้นมาพิจารณานั้น ก็ยังไม่มี ซึ่งในส่วนของวิปก็นำเรื่องอื่นขึ้นมาพิจารณา และมีกฎหมายเป็นร้อยๆ ฉบับที่ค้างอยู่ในสภา เป็นเรื่องปกติ และคาเอาไว้เป็นปีหรือสองปี จนหมดสมัยก็เป็นเรื่องปกติ ก็ทำกันอย่างนั้น และเมื่อเลื่อนเรื่องอื่นขึ้นมาพิจารณานั้น เรื่องปรองดองก็ไม่มีปัญหา ก็จะหมดประเด็นไม่มีประเด็นอะไร และเรื่องปรองดองหากดำเนินการก็มีทั้งเสียงที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งระหว่างนี้รัฐบาลก็ไม่ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากจะให้นิ่งที่สุด และถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด ก็คือ การไม่พูดถึง เป็นวิธีปฏิบัติทั่วไป หากถอนออกก็จะเป็นประเด็นอีกว่าคนที่เห็นด้วยก็จะคัดค้าน และคนไม่เห็นด้วยก็จะเคลื่อนไหว ซึ่งการที่จะถอนออกนั้นต้องขออนุญาตจากสภา ก่อนก็จะเป็นประเด็นร้อนได้
ส่วนการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล จะให้ระดับแกนนำพรรคหรือวิปรัฐบาลคุยกันนั้น เพราะไม่เคยเห็นแกนนำจริงๆ มาคุยกัน นายวรวัจน์ กล่าวว่า ก็ไม่ได้เห็น แปลว่าไม่ได้คุยกัน และนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ไปคุย เวลาคุยจะไม่คุยให้สื่อเห็น แต่หากคุยให้เห็นก็จงใจว่าไม่มีอะไร และคุยกันเป็นประจำ พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหากันเด็ดขาด รับประกันได้ เราประสานงานอยู่ไม่มีปัญหาคุยกันตลอดเวลา เมื่อถามว่า เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายวรวัจน์ กล่าวว่า ยังไม่มีข่าวออกมา เมื่อถามย้ำว่า จะมีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีช่วยทั้งชุด นายวรวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งการพิจารณาปรับ ครม.เมื่อทำงานครบ 1 ปี ก็เป็นอำนาจของนายกฯ โดยตรง ซึ่งการปรับ ครม.ความเป็นไปได้จะไม่ใช่ช่วงนี้ อีกระยะหนึ่ง ยังไม่ได้พิจารณายังไม่ได้คุยเรื่องนี้ แต่ข่าวปรับ ครม.ทั้งหมดสื่อนำมาเล่นเรื่อยๆ แต่ในส่วนคนที่เสนอการปรับ ยังไม่มีการคุยกัน ส่วนปัจจัยการปรับจะมีเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะขอเปลี่ยนตัว ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้คุยหรือพูดถึงว่าเอาอย่างไร แต่ทั้งหมดเป็นการถูกนำชื่อขึ้นมาเล่นบนสื่อก่อน แต่ว่ามี เช่น นายสนธยา แน่นอน และเราก็ไม่ได้เบรกพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนความเป็นไปได้ที่จะปรับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน และค่อยปรับใหญ่อีกครั้งหนึ่งนั้น อะไรก็เป็นไปได้ทั้งหมด แต่ในส่วนของพรรคยังไม่มีการคุยกันในเรื่องนี้ แต่ก็อาจจะปรับเฉพาะคนที่มีปัญหาก่อน ซึ่งเชื่อว่า ก่อน 12 ส.ค.นี้ จะยังไม่มีการปรับอย่างแน่นอน ขณะที่การปรับคณะรัฐมนตรีก็ไม่ได้ดูฝ่ายค้านว่าจะยื่นอภิปรายหรือไม่ แต่อยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลมากกว่า