ผอ.เพื่อไทย ปัดพบนายกฯขอตำแหน่ง รมช.มหาดไทย บอกขอเป็นกองหลังเฝ้าประตู โยนนายกฯ “ปู” ตัดสินใจปรับ ครม.เอง ปัด “ทักษิณ” เคาะที่ฮ่องกง ส่วนกรณีนายกฯ นั่งควบ รมต.กลาโหม อ้างสานสัมพันธ์หวานกองทัพ ชี้ สัมพันธ์ยังเหนียว หากปรับคงเป็นเรื่องงาน ส่วนเรื่องแก้ รธน.ย้ำ พรรครอคำวินิจฉัยกลางก่อน พร้อมหาข้อสรุปสัมมนาพรรคก่อนเตรียมหารือพรรคร่วม ย้ำต้องชัดก่อนเปิดสมัยประชุมสภา ส่วน “ป๋าเหนาะ” แนะเรื่องแก้ รธน.รายมาตราพร้อมรับฟัง
วันนี้ (25 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเองได้เดินทางไปพบ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเป็นการเข้าพบตามปกติ เพื่อรายงานการดำเนินงานที่ได้รับมอบหมาย ไม่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีในตอนนี้
ส่วนกระแสข่าวที่ตนเองจะได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น เป็นตำแหน่งรัฐมนตรีในใจสื่อเท่านั้น แต่อำนาจในการปรับ ครม.อยู่ที่นายกรัฐมนตรี ตนเองเปรียบเหมือนทีมฟุตบอลที่ทำหน้าที่เป็นกองหลัง คอยระวังประตู คือ มีหน้าที่ในการสนับสนุนการทำงานให้รัฐบาลประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ การปรับ ครม.ไม่ได้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาว่าจะเกิดก่อนหรือหลังการแถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 1 ปี เพราะเป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี ที่จะตัดสินใจ และยืนยันว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ มีอำนาจในการตัดสินใจ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายกรัฐมนตรี อาจนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการปรับคณะรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ 3 ครั้งนี้ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับกองทัพนั้น แสดงให้เห็นว่า นายกกับกองทัพมีความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจ แต่ตนเห็นว่า จากที่ปรากฏสู่สาธารณชน ความสัมพันธ์ก็ใกล้ชิด เพราะนายกฯ ก็ทำงานเต็มที่ ต่างฝ่ายก็ต่างทำหน้าที่ให้ความร่วมมือในการทำงานช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากมีการนั่งควบตำแหน่งจริง ก็คงไม่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมสัมพันธ์ของตระกูลชินวัตร กับกองทัพ แต่เป็นเรื่องของการทำงานมากกว่า และส่วนใหญ่กระแสการปรับ ครม.ก็มาจากสื่อ แต่จากนายกรัฐมนตรี ยังไม่มี
เมื่อถามว่า คนที่เคาะการปรับ ครม.นั้นอยู่ที่ฮ่องกงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ไม่หรอก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลที่มีศักยภาพในการคิด แต่เราก็ไปปรึกษาไปคุย เพราะเป็นที่ปรึกษาที่ดีของ ส.ส.และรัฐมนตรี”
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า หากคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ประกาศออกมาไม่มีความชัดเจนว่าเป็นคำแนะนำหรือคำสั่ง โดยเห็นว่า ต้องรอคำวินิจฉัยที่เป็นลายลักษณ์อักษรออกมาก่อนถึงจะสามารถตีความได้ โดยหลังการประกาศของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ก็จะมีการหารือกับทีมกฎหมาย คณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ในระหว่างการสัมมนาพรรคเพื่อไทย 28-29 ก.ค.นี้ ที่ จ.ชลบุรี ซึ่งคาดว่าจะได้ความชัดเจนในส่วนของพรรค และจะนำมติพรรคเพื่อไทยเข้าหารือกับพรรคร่วมในวันที่ 31 ก.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาก็จะได้แนวทางที่ชัดเจนในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลออกมาแน่นอน โดยยังยืนยันข้อเสนอเดิมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยการตั้ง ส.ส.ร.แต่ทั้งหมดก็ต้องรอคำวินิจฉัยกลางอีกครั้ง เพราะมีความสำคัญและบางเรื่องอาจมีผลผูกพันกับพรรคเพื่อไทยรวมทั้งอาจมีผลกระทบตามมาในอนาคตได้
ส่วนการที่ นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรานั้น นายภูมิธรรม เห็นว่า พรรคเพื่อไทยรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะจากบุคคลสำคัญ อาทิ คณะนิติราษฎร์ และประชาชน แต่ทั้งนี้ ก็ต้องนำมาไต่ตรองและวิเคราะห์บนจุดยืนของพรรคที่เป็นประชาธิปไตย และต้องไม่เกิดความขัดแย้ง เพราะความต้องการของพันตำรวจโท ทักษิณ ต้องการให้ประเทศเดินหน้า เกิดความปรองดองและมีความเป็นประชาธิปไตย