วานนี้ (1 ก.ค.55) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการตั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย เป็น ผอ.พรรค แทนนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ โดยยืนยันว่า ไม่ใช่ความขัดแย้งในพรรค การให้นายภูมิธรรมมาเป็น ผอ.พรรค เพราะเป็นอดีต รมต. มีความรู้ ความสามารถ มาแทนนายปลอดประสพที่ไม่มีเวลา เนื่องจากเป็นรัฐมนตรี ซึ่งนายภูมิธรรมจะมาขับเคลื่อนนโยบายพรรค เน้นการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน จะช่วยให้พรรคเพื่อไทยแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไม่ใช่ความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย
ส่วนการปรับ ครม.นั้น ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ส่งสัญญาณมาที่พรรค เพราะนายกฯ ต้องเร่งแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจยุโรปที่อาจส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจไทยได้ ส่วนที่ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่า รัฐบาลจะอายุสั้น อยู่ไม่ถึงสิ้นปีนี้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ทำให้เกิดความแตกแยกในพรรคเพื่อไทย เชื่อว่านายสุชาติไม่มีเจตนาดิสเครดิตรัฐบาล หรือล่มเรือกลางคัน ยังมั่นใจว่ารัฐบาลอยู่ยาว จะอยู่ถึง 12 ปี ยิ่งถ้าพรรคประชาธิปัตย์ทำงานเช่นนี้ เราก็ทำงานง่าย.
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และผู้จัดการคนใหม่พรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังที่ประชุมพรรคมีมติให้เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค แทนนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยนายภูมิธรรม ยืนยันว่าการกลับเข้ามาทำงานให้กับพรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการของตนเองนั้น ไม่มีความขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้นระหว่างคนที่ทำงานอยู่ก่อนเลย ทุกฝ่ายต่างเข้าใจกันดี โดยเฉพาะนายปลอดประสพ ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกันแล้ว ก็ยังมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ซึ่งนายปลอดประสพเองมีภารกิจสำคัญต้องดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ตนเองจึงเข้ามาช่วยในส่วนของผู้จัดการพรรค ซึ่งตามประสบการณ์ที่เคยร่วมทำพรรคมา ก็คิดว่าคงเข้ามาช่วยดูแลปรับปรุงแก้ไขอะไรต่ออะไรให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ แต่หากจะให้ตอบว่าจะเข้ามาปรับปรุงอะไรบ้างนั้น คงยังตอบไม่ได้ ซึ่งจะเริ่มเข้าไปดูงานจริงๆ จังๆ คงวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีการบริหารจัดการที่ดี เพราะเป็นพรรคใหญ่ และประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง คงไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องปรับเปลี่ยนมากมาย และคงอาจจะเข้ามาอยู่ช่วยงานส่วนนี้ในระยะหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจากนี้ไปก็คงมีอีกหลายท่านที่จะทยอยเข้ามาช่วยงานพรรค เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองใหญ่ มีทั้งมวลชน สมาชิกและองค์ประกอบมาก การมีคนมาช่วยดูแลก็เป็นเรื่องที่ดี
ทั้งนี้เตรียม เรียกประชุมกองโฆษกพรรค และสำนักงานส.ส.ของพรรคในอาทิตย์หน้า เพื่อหารือทำความเข้าใจใหม่ด้วย
ขณะที่การกลับเข้ามาทำงานของตนเองในครั้งนี้ แม้จะถือเป็นคนจากบ้านเลขที่ 111 คนแรกที่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งในพรรคอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงอะไรในพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้คนจากบ้านเลขที่ 111 ก็มีที่เข้าไปทำงานในรัฐบาลด้วยบ้างแล้ว เช่น คุณ ศันสนีย์ นาคพงษ์ นอกจากนี้ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 อีกหลายคนก็ได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้วเช่นกัน อาทิ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี นายวราเทพ รัตนากร ก็กลับเข้ามาเรียบร้อยแล้ว.
ส่วนการปรับ ครม.นั้น ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ส่งสัญญาณมาที่พรรค เพราะนายกฯ ต้องเร่งแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจยุโรปที่อาจส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจไทยได้ ส่วนที่ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่า รัฐบาลจะอายุสั้น อยู่ไม่ถึงสิ้นปีนี้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ทำให้เกิดความแตกแยกในพรรคเพื่อไทย เชื่อว่านายสุชาติไม่มีเจตนาดิสเครดิตรัฐบาล หรือล่มเรือกลางคัน ยังมั่นใจว่ารัฐบาลอยู่ยาว จะอยู่ถึง 12 ปี ยิ่งถ้าพรรคประชาธิปัตย์ทำงานเช่นนี้ เราก็ทำงานง่าย.
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และผู้จัดการคนใหม่พรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังที่ประชุมพรรคมีมติให้เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค แทนนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยนายภูมิธรรม ยืนยันว่าการกลับเข้ามาทำงานให้กับพรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการของตนเองนั้น ไม่มีความขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้นระหว่างคนที่ทำงานอยู่ก่อนเลย ทุกฝ่ายต่างเข้าใจกันดี โดยเฉพาะนายปลอดประสพ ที่ได้มีโอกาสพูดคุยกันแล้ว ก็ยังมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ซึ่งนายปลอดประสพเองมีภารกิจสำคัญต้องดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ตนเองจึงเข้ามาช่วยในส่วนของผู้จัดการพรรค ซึ่งตามประสบการณ์ที่เคยร่วมทำพรรคมา ก็คิดว่าคงเข้ามาช่วยดูแลปรับปรุงแก้ไขอะไรต่ออะไรให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ แต่หากจะให้ตอบว่าจะเข้ามาปรับปรุงอะไรบ้างนั้น คงยังตอบไม่ได้ ซึ่งจะเริ่มเข้าไปดูงานจริงๆ จังๆ คงวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีการบริหารจัดการที่ดี เพราะเป็นพรรคใหญ่ และประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง คงไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องปรับเปลี่ยนมากมาย และคงอาจจะเข้ามาอยู่ช่วยงานส่วนนี้ในระยะหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจากนี้ไปก็คงมีอีกหลายท่านที่จะทยอยเข้ามาช่วยงานพรรค เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองใหญ่ มีทั้งมวลชน สมาชิกและองค์ประกอบมาก การมีคนมาช่วยดูแลก็เป็นเรื่องที่ดี
ทั้งนี้เตรียม เรียกประชุมกองโฆษกพรรค และสำนักงานส.ส.ของพรรคในอาทิตย์หน้า เพื่อหารือทำความเข้าใจใหม่ด้วย
ขณะที่การกลับเข้ามาทำงานของตนเองในครั้งนี้ แม้จะถือเป็นคนจากบ้านเลขที่ 111 คนแรกที่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งในพรรคอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงอะไรในพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้คนจากบ้านเลขที่ 111 ก็มีที่เข้าไปทำงานในรัฐบาลด้วยบ้างแล้ว เช่น คุณ ศันสนีย์ นาคพงษ์ นอกจากนี้ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 อีกหลายคนก็ได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้วเช่นกัน อาทิ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี นายวราเทพ รัตนากร ก็กลับเข้ามาเรียบร้อยแล้ว.
