xs
xsm
sm
md
lg

ปู-ลิ่วล้อเสพติดอำนาจ แม้วก็ต้องเท่อยู่ข้างนอกอีกนาน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

แม้ว่าการส่งสัญญาณถอยของ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย จะเป็นเรื่องดีเป็นการสร้างบรรยากาศเงียบสงบ ทั้งเรื่องการเสนอร่างพระราชบัญญัติลบล้างความผิดให้กับตัวเองในชื่อกฎหมายปรองดองโดยเตรียมที่จะถอนออกจากวาระการประชุมในวันเปิดสมัยประชุมสมัยสามัญวันที่ 1 สิงหาคมนี้ รวมทั้งการแสดงท่าทีของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และบรรดารัฐมนตรีในรัฐบาลที่มีบทบาทต่างแสดงท่าทีที่เปลี่ยนไปนั่นคือ การออกปากให้คนเสื้อแดงอยู่ในความสงบรอฟังและยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีล้มล้างการปกครอง

อย่างไรก็ดี อีกด้านหนึ่งการส่งสัญญาณถอยดังกล่าวอาจเป็นเพราะกระแสสังคมเริ่มมีปฏิกิริยาตอบโต้มากขึ้นเรื่อยๆกับการที่ก่อนหน้านี้มีคนในรัฐบาล และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยรวมทั้งหัวโจกคนเสื้อแดงออกมารุมด่าว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกันอย่างดุเดือด มีลักษณะการข่มขู่คุกคาม ภาพที่เกิดขึ้นแน่นอนว่าต้องเป็นภาพลบ กลายเป็นว่าคนพวกนี้ที่ปากอ้างแต่เรื่องประชาธิปไตย แต่กลับไม่ยอมรับกติกา ทำตัวเป็น “อภิสิทธิชน” อยู่เหนือกฎหมาย หากศาลตัดสินไม่ถูกใจก็กล่าวหาว่าไม่ยุติธรรมหรือ “รับใบสั่ง” มาทำลาย

การเผยแพร่คลิปคำพูดของประธานรัฐสภา สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ จะเป็นด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ แต่ในความเป็นจริงแล้วสะท้อนให้เห็นว่ามีการประเมินสถานการณ์จากแรงกดดันต่อต้านจากกระแสสังคมจนต้องถอยออกมาชั่วคราว ซึ่งในคลิปคำพูดดังกล่าวเขาก็ยังอ้างว่า ทักษิณ ชินวัตร ที่มีความหมายไม่ต่างจากคนที่เป็น “เจ้านาย” ต้องคล้อยตาม

นั่นคือ ยอมทนอยู่ต่างประเทศต่อไปอีกสัก 5-6 เดือน หลังทนมาได้ 5-6 ปีแล้ว!!

ขณะเดียวกัน นอกจากการถอยออกมาชั่วคราวดังกล่าวแล้ว มองไปที่พรรคเพื่อไทยก็มีการปรับกระบวนกันภายในยกใหญ่ ที่เห็นก็คือมีการเปลี่ยนแปลงเก้าอี้ผู้อำนวยการพรรคจาก ปลอดประสพ สุรัสวดี มาเป็น ภูมิธรรม เวชชยชัย รวมทั้งในส่วนของรัฐบาลที่น่าจับตาอย่างยิ่งก็คือ การกลับมาของ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี มีอำนาจล้นฟ้าไม่ต่างจากนายกรัฐมนตรีคนที่สอง เพราะสามารถเรียกหน่วยงานต่างมาให้ข้อมูลและเร่งรัดสั่งการได้เต็มที่

อีกทั้งรอบตัวนายกรัฐมนตรีก็มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง เช่น ตั้งเลขาธิการนายกฯ มาเป็น สุรนันทน์ เวชชาชีวะ ทำงานประสานกับ อำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ที่สำคัญต้องลืมไม่ได้เป็นอันขาดก็คือ การดอดไปหารือลับการบรรดาบิ๊กเหล่าทัพแบบล็อตใหญ่ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

มองความเคลื่อนไหวดังกล่าว แน่นอนว่านี่คือกระบวนท่าในส่วนของคนรอบข้าง บรรดา “กุนซือ” ของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เริ่มรับรู้กันแล้วว่า นี่คือ “บางใหม่” ที่กำลังสร้างขึ้นมาอย่างเงียบๆ ต้องการแยกออกมาจาก “สายดูไบ” และชัดเจนเรื่อยๆ โดยเฉพาะหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และแน่นอนว่าตำแหน่งหลักในด้านเศรษฐกิจ จะต้องสายตรงนายกฯ เช่น ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ไม่ว่าจะถูกแรงกดดันมากแค่ไหน แต่รับรองว่ายังปึ้ก

เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะคนพวกนี้กำลังเคลิบเคลิ้มและสนุกกับอำนาจ อยากอยู่ให้นานที่สุด ขณะที่ ทักษิณ แม้ว่าต่อหน้าพวกลิ่วล้อดังกล่าวจะคอยพินอบพิเทา แต่ในใจก็อยากให้อยู่ที่นั่น “อย่างเท่” ไปก่อน เพราะรู้อยู่แล้วว่าเข้ามาเมื่อไหร่ก็ยุ่งเมื่อนั้น และมีโอกาสพังกันทั้งขบวน

ดังนั้น เมื่อความจริงพิสูจน์ให้เห็นอยู่ตรงหน้า อีกฝ่ายเริ่มเสพติดอำนาจต้องการอยู่ยาว และ ทักษิณ เริ่มกลายเป็นอุปสรรค มีปัญหา ก็ต้องหาทางกันออกไปให้อยู่นอกวงมากที่สุด!!
กำลังโหลดความคิดเห็น