เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ยิ่งใกล้วันที่ศาลรธน.ชี้ขาดว่าการแก้ไขรธน.ของ พรรคเพื่อไทย และรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่มี ทักษิณ ชินวัตร อยู่เบื้องหลังผลจะออกมาอย่างไร บรรยากาศก็ยิ่งอึมครึมตึงเครียด เพราะการไต่สวนวันที่ 5-6 ก.ค.ฝ่าย “แม้วแดง” ก็สั่งม็อบมาป่วนโหมโรงกันแล้ว ขณะเดียวกันเวลานี้ตามต่างจังหวัดและสถานีวิทยุชุมชน มีการตั้งเวทีปราศรัยปลุกระดมด่าศาล เป้าหมายก็เพื่อทำลายความชอบธรรมฝ่ายตุลาการกันเต็มพิกัด
00 อาการอย่างที่เห็นมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเริ่มรับรู้ชะตากรรมแล้วว่าผลจะออกมาอย่างไร อย่างน้อยก็เริ่มหวั่นไหวอย่างหนัก เพราะถ้าผลการชี้ขาดออกมาว่า “ล้มล้างการปกครอง” ทุกอย่างก็จบเห่ อีกทั้งยังส่งผลสะเทือนไปไกลชนิดที่เรียกว่า “ย่อยยับ” อย่างที่รู้กันก็คือมีผลทางคดีอาญา สมาชิกรัฐสภาทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ที่โหวตหนุนร่างแก้ไข รวมทั้ง นายกฯยิ่งลักษณ์ ที่พยายาม “ลอยตัว” ทำทีว่าไม่เกี่ยวข้องมันก็เลี่ยงไม่ออก มีสิทธิ์ “ลุ้นเข้าคุก” กันระนาว ส่วนเรื่องยุบพรรคนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะต้องมีผู้ร้อง “โดนแน่”
00 ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี่แหละที่ทำให้ต้องป่วนต้องข่มขู่กันเต็มที่ ขนาดคนขับรถของ ประธานศาลรธน.วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ยังโดนโทรศัพท์ขู่ฆ่ามันก็เป็นการส่งสัญญาณโดยตรงว่าคนพวกนี้ทำได้ทุกอย่าง เพราะ “เดิมพัน” มันสูงยิ่ง จึงต้องเดินหน้าไม่มียั้ง ไม่มีอะไรต้องหวั่นเกรงกันอีกแล้ว ดังนั้นถ้าพิจารณาสถานการณ์ในช่วงเดือนเศษนับจากนี้ นั่นคือไปจนถึงเดือน ส.ค.เชื่อว่าสังคมจะรำคาญคนเสื้อแดงมากขึ้นเรื่อยๆ
00 อีกอาการหนึ่งที่เริ่มปรากฏออกมาพร้อมกันว่าพวกเขาเอาแน่ก็คือการลดเป้าหมาย “เร่งด่วน” ให้เหลือเรื่องสำคัญเพียงแก้ไขรธน.เรื่องเดียว ส่วนร่างกม. “ล้างผิด” ก็สั่งถอยชั่วคราว เพราะรู้อยู่ว่าหากยังดึงดันเข้ามาพร้อมกันทั้งสองเรื่องจะทำให้ “พลัง” ในการขับเคลื่อนขาดเอกภาพ เพราะอย่างน้อยสังคมจะรุมประณามเห็นถึงธาตุแท้ความเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ ขณะเดียวกันก็มีพวก “แดง” ด้วยกันอีกพวกหนึ่งโดยเฉพาะพวกญาติๆของคนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บก็ไม่พอใจอยากให้ค้นหาความจริงว่าใครกันแน่ที่ “สั่งฆ่า” เมื่อกลบเรื่องดังกล่าวเอาไว้ก่อนมันก็ทำให้กระบวนการ “พลิกฟ้า” เดินหน้าได้เต็มที่แบบไม่ต้องยั้ง
00 การเคลื่อนไหวที่น่าจับตาในเพื่อไทย ก็คือการตั้ง ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นผอ.พรรคคนใหม่ แทน ปลอดประสพ สุรัสวดี มีนัยเหมือนกับการเตรียมการแก้เกมและรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินล่วงหน้า ขณะเดียวกันก็ยังมีการแก้เกมเตรียมตัวบุคคลเอาไว้รองรับสถานการณ์หากศาลรธน.ชี้ออกมาเป็นลบ โดยเฉพาะคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่บอกว่าคนที่เป็นรมต.ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่มีผลกระทบ ความหมายก็ชัดเจน
00 อีกด้านหนึ่งเมื่อหันไปมองฝ่ายรู้ทันกันบ้าง นาทีนี้ถามว่าชาวบ้านเริ่ม “ตาสว่าง” มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งก็มาจากสาเหตุเรื่อง “ปากท้อง” ที่ย่ำแย่หนักหนาสาหัสลงทุกวัน สาเหตุสำคัญที่ยังต้องรอเผชิญในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็คือผลกระทบจาก “วิกฤติยูโร” ที่ลามเป็นโดมิโน ย่อมส่งผลกระทบมาถึงอย่างช่วยไม่ได้ และตอนนี้ก็เริ่มส่งผลมากขึ้น นั่นคือยอดการส่งออกลดลงฮวบฮาบประเภทที่ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะทำให้ได้ 15 เปอร์เซ็นต์ ก็เพียงแค่ฝันกลางวัน ที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ “ข้าว” ที่คาดว่าในปีนี้ยอดส่งออกจะลดลงไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นความผิดพลาดของนโยบายรัฐบาลไม่ใช่ปัจจัยภายนอก เป็นเพราะราคาสูงกว่าคู่แข่ง นี่ยังไมนับเรื่องทุจริตสารพัด เรื่องราคายางก็เช่นเดียวกันตกต่ำเป็นประวัติการณ์ นี่ว่ากันเฉพาะหลักๆมาให้เห็น
00 สิ่งที่เกิดขึ้นนี่แหละจะเป็นตัวแปรสำคัญทำให้ชาวบ้าน “เหลืออด” หงุดหงิดจากความไม่เอาไหน เพราะสิ่งที่รัฐบาลและ ทักษิณ กำลังดำเนินการผลักดันอย่างขยันขันแข็งแบบเร่งวันเร่งคืนมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับชาวบ้าน มันไม่ทำให้ส่งออกข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง สัปปะรดราคาดีขึ้น แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาหันมาระดมความเห็นแก้ปัญหา ตรงกันข้ามกลับแก้ตัวโทษคนอื่น ที่สำคัญก็คือ “ด่าศาล” เห็นแล้วทุเรศสิ้นดี และเชื่อว่า ถ้ายังเหิมเกริมกันไม่เลิกมันก็ต้องพังอีก อย่าคิดว่าเอา “หัวโจกแดง” มาขู่แล้วคนอื่นเขาจะกลัว ทุด !!