“ณัฐวุฒิ” อ้าง “ก่อแก้ว” บี้ “ปู” ตั้ง “จตุพร” นั่ง รมช.มหาดไทย แค่ห่วงพวกที่ต่อสู้กันมา แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณ ปรับ ครม.จากนายกฯ ส่วนการแก้ไข รธน.ต้องดูคำวินิจฉัยกลางศาลฯ และต้องเป็นเอกภาพกับรัฐบาล เผยเตรียมถก 3 ประเทศยักษ์ยางพารา หาทางออกราคาตกศุกร์นี้ เล็งใช้ผสมยางมะตอยราดถนน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวถึงกรณีที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เรียกร้องหากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ต้องให้ตำแหน่ง รมช.มหาดไทยแก่นายภูมิธรรม เวชชยชัย ผอ.พรรคเพื่อไทย หรือนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ว่าเป็นความเห็นของนายก่อแก้ว ที่คงจะมีความห่วงใยพี่น้องที่ร่วมต่อสู้กันมา แต่ดุลพินิจทั้งหมดก็อยู่ที่นายกรัฐมนตรีเป็นหลัก ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าการปรับ ครม.จะมีขึ้นในเร็ววันนี้หรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณอะไรจากนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าจะไม่มีแรงกระเพื่อมเกิดขึ้นในพรรค เพราะทุกคนเห็นตรงกันว่าเป็นสิทธิขาดอำนาจเต็มของนายกรัฐมนตรี คนที่ทำงานก็ทำหน้าที่กันไป ส่วนนายกรัฐมนตรีจะมีดุลพินิจเปลี่ยนแปลงทีมงานหรือไม่ก็อยู่ตรงนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา กลุ่มคนเสื้อแดงจะมีท่าทีอย่างไร นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เรายังจะรอคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญก่อน หลังจากนั้นจะหารือกันและนำข้อสรุปของ นปช.ไปแจ้งให้พรรคได้ทราบพร้อมกับเหตุผลประกอบ ส่วนทิศทางที่ออกมาจะตรงกับทางพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าไม่ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร สุดท้ายก็ควรได้มติเป็นเอกภาพเพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ เพราะสิ่งสำคัญของรัฐบาลกับคนเสื้อแดงคือความเป็นเอกภาพในการเคลื่อนไหว เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามต้องการคือความแตกแยกของรัฐบาลกับประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เสนอแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 5 ประเด็นและแก้ไขเป็นรายมาตรา นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมมีประสบการณ์แม่นยำข้อกฎหมายเสนอมา ตนเองเห็นเป็นทางที่น่าสนใจ แต่ก็ควรรอฟังคำวินิจฉัยกลางให้ครบและหารือให้เห็นเข้าใจด้วยกันทุกฝ่ายก่อน
นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่าในการประชุม ครม.เศรษฐกิจวันนี้ ตนได้รายงานต่อที่ประชุมถึงสถานการณ์ราคายางพารา ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าราคาบวกเพิ่มขึ้นตลอด แต่ในสัปดาห์นี้เกิดสถานการณ์ค่าเงินยูโรต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี และสถานการณ์ในสเปนวิกฤติหนักขึ้น ส่งผลให้ราคายางทั้งในและต่างประเทศลดลง แต่เราก็กำลังผลักดันโครงการ 1.5 หมื่นล้านขับเคลื่อนได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยการตั้งเวทีชี้แจงรายละเอียดการดำเนินการโครงการแก่เกษตรกร ซึ่งในวันที่ 28 ก.ค.จะไปที่ภาคเหนือ จ.พิษณุโลก ซึ่งเชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้การขับเคลื่อนโครงการในทุกจุดก็น่าจะทำได้เต็มศักยภาพ
ส่วนมาตราการภายนอกมีการหารือกันผ่านกลไกคณะกรรมการความร่วมมือยางระหว่างประเทศ (ไอทีอาร์ซี) ที่จะกำหนดมาตราการร่วมกันของ 3 ประเทศผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ คือ ไทย มาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งภายในวันศุกร์ ที่ 27 ก.ค.นี้ก็จะมีทางออกและมีข้อสรุปร่วมกันของ 3 ประเทศ โดยอาจจะมีทางออก เช่น จำกัดปริมาณการส่งออกหรือไม่ หรือการลดผลิตภัณฑ์ยางพารา และจะแถลงมาตราการในเวลาเดียวกันจากทั้ง 3 ประเทศเพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนยังได้นำเสนอผลการศึกษาของสถาบันวิจัยยางพารา กรมวิชาการเกษตร เรื่องการนำผลผลิตยางพาราธรรมชาติเป็นส่วนผสมยางมะตอยราดถนน ซึ่งรมว.คมนาคมสนใจ ก็จะตั้งเวทีศึกษาแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันระหว่างกรมวิชาการเกษตร กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท คาดว่าในสัปดาห์หน้าทั้ง 3หน่วยงานจะแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ทั้งนี้ผลศึกษามีความชัดเจนว่าหากใช้ยางพาราเป็นส่วนผสมยางมะตอยราดถนน ต้นทุนจะสูงกว่าราคาผิวคือวัตถุดิบที่ใช้ราด 15 เปอร์เซ็นต์ แต่หากคำนวนอายุการใช้งสานจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า