นายกฯ ยังไม่เบิร์ธเดย์ “แม้ว” ไม่รู้แจกโดนัทสื่อ ยันไม่คิดปรับ ครม.

“ยิ่งลักษณ์” ไขสือ “ทักษิณ” ส่งโดนัทให้สื่อทำเนียบ บอกยังไม่ได้เบิร์ธเดย์ ยันยังไม่ปรับ ครม.ยังไม่คิด งานเยอะอยู่ ชี้ข่าวลือไม่จริง-ห่วงไฟใต้แรง ส่ง ผบ.ทบ.ดูแล้ว พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจ เล็งใช้ภาษายาวีช่วย รับปัญหาต้องใช้เวลา

วันนี้ (26 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงวันที่ 26 ก.ค.ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และในฐานะพี่ชายอายุครบ 63 ปี และได้มีการส่งโดนัดกลมเกลียวมามอบให้กับสื่อมวลชนทำเนียบว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้ เมื่อถามว่าได้มีการอวยพร พ.ต.ท.ทักษิณแล้วหรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันเลย ซึ่งก็มีประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 2558 แต่เช้า

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความชัดเจนการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ที่ชัดเจนคือ วันนี้ยังไม่ปรับ เมื่อถามต่อว่าจะมีการปรับ ครม.เมื่อไหร่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้คิด เพราะว่ากำลังทำงานอยู่ ภารกิจก็เยอะ ก็ต้องเรียนว่า ข่าวลือทั้งหมดไม่เป็นความจริง เมื่อถามต่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลแสดงเจตจำนงว่าจะขอเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีในส่วนของโควต้าพรรคร่วมรัฐบาลก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราไม่อยากจะปรับแค่รับเจตจำนงมาแล้วปรับเลย เพราะเนื่องจากในภารกิจหลายๆ อย่างมีงานที่ต้องทำต่อเนื่องก็รับข้อมูลมา แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องดูจังหวะ และความเหมาะสม แต่ ณ วันนี้ไม่มี เมื่อถามว่าโอกาสที่บริหารจะบริหารราชการแผ่นดินครบ 1 ปี และมีการประเมินผลงานรัฐบาล จะถือโอกาสปรับ ครม.เลยด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อยากบอกว่าวันนี้ยังไม่คิดเรื่องปรับ ครม.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ที่มีความรุนแรงมากขึ้นและมีการพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ว่า เบื้องต้นได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ซึ่งก็ยังมีความเป็นห่วงอยู่ โดย ผบ.ทบ.ได้ลงพื้นที่ตามที่ตนสั่งการไปแล้วเมื่อวาน และตนได้กำชับเพิ่มเติมหลังจากมีเหตุการณ์ขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านความมั่นคงต้องนำข้อมูลทั้งหมดไปวิเคราะห์ ขณะเดียวกัน ก็ต้องเร่งสร้างความเข้าใจ นอกเหนือจากการดูแลความปลอดภัยแล้วด้วย

“เราจะหาช่องทางด้านทีวี หรือการสื่อสารให้เป็นภาษายาวี เพื่อที่จะได้ถ่ายทอดความเข้าใจ รวมถึงการทำงานด้านการพัฒนา และความช่วยเหลือประชาชนทั้งหมดนี้จะต้องทำควบคู่กันไป” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น จะต้องมีการปรับยุทธวิธีใหม่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถป้องกันได้ นายกฯ กล่าวว่า คงต้องรอเอาข้อมูลตรงนี้ไปวิเคราะห์ เพราะความจริงแลล้ว ปัญหาในภาคใต้เป็นปัญหาที่จะต้องให้เวลาในการแก้ไข ซึ่งในเชิงยุทธศาสตร์ก็ยังอยู่ในกรอบนั้นอยู่ แต่อาจจะต้องมีรายละเอียดที่จะต้องนำข้อมูลต่างๆ ที่ผ่านมา นำมาให้คณะทำงานไปวิเคราะห์และทำความเข้าใจให้มากขึ้น