“ประธานวิปรัฐบาล” รับเพื่อไทยหาจุดยืนแก้ รธน.ไม่ได้ ระบุเดินหน้าโหวตวาระ 3 ก็กลัวเสียงไม่พอ รอหารือที่ประชุม ส.ส. 28 ส.ค.นี้ ก่อนนำข้อสรุปถกพรรคร่วม 31 ก.ค. ยันเปิดประชุมสภา 1 ส.ค.ไม่พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง โยนสภาฯ พิจารณาคำขอพันธมิตรฯ ที่ให้ถอนร่าง รับเรียกประชุมสภาฯ นัดพิเศษ 1 ส.ค.เลี่ยงถกกฎหมายปรองดอง เหตุมีกฎหมายสำคัญรอให้ดำเนินการอยู่
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ว่า เบื้องต้นมีการพูดคุยใน 3 แนวทาง คือ 1. การแก้ในรายมาตรา ว่าถ้าแก้จะมีมาตราใดบ้าง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องใดบ้าง 2. การทำประชามติ ต้องดูในเรื่องของเวลาและเงินงบประมาณว่าต้องใช้เท่าไหร่ 3. การเดินหน้าลงมติวาระ 3 จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้ เนื่องจากหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาก็มีสมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่งหวาดวิตก ซึ่งรัฐบาลไม่มั่นใจว่าเสียงที่เคยได้ในการลงมติวาระที่ 1 ยังคงเป็น 399 เสียงตามเดิมหรือไม่ ซึ่งเราต้องคำนึงถึงความรู้สึกของผู้ที่จะลงคะแนนด้วย ทั้งนี้ ใน 3 แนวทางนี้พรรคเพื่อไทยจะนำไปพูดคุยในการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยในวันที่ 28-29 ก.ค.นี้ ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ จ.ชลบุรี จากนั้นจะนำข้อสรุปไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ที่โรงแรมมิราเคิล หลักสี่ กทม.ซึ่งจะเป็นมติที่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะดำเนินการในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 อย่างไร
นายอุดมเดชกล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติที่อยู่ในระเบียบวาระการประชุมเรื่องแรกว่า ถึงแม้จะมีการเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ มาเป็นวาระแรกของการประชุมสภาฯ แต่จากการพูดคุยต้องนำมาพิจารณาเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในสังคมว่าสมควรที่จะพิจารณาในเวลานี้หรือไม่ ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาในการพูดคุยในวงยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย เห็นว่ายังไม่สมควรที่จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ซึ่งจะนำไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลและเจ้าของร่างทั้ง 4 คนว่าจะทำอย่างไร
ส่วนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ต้องการให้สภาฯ ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ออกจากระเบียบวาระการประชุมภายใน 7 วันนั้น นายอุดมเดชกล่าวว่า ถือเป็นสิทธิ และเราก็พร้อมรับฟังข้อเสนอของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่ฝ่ายปฏิบัติต้องดูว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน และจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับสภาฯ เป็นผู้พิจารณา
ส่วนการเปิดประชุมสภาฯ ในวันที่ 1 ส.ค. เป็นการเรียกประชุมสภาฯ นัดพิเศษ เพื่อหลีกเลี่ยงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปอรงดองฯ นั้นตนยอมรับว่าใช่ เนื่องจากวันนี้ได้มีการดูในรายละเอียดของระเบียบวาระเห็นว่าเรายังมีเรื่องที่จำเป็นที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะขณะนี้มีร่าง พ.ร.บ.ที่ผ่านการพิจารณา ในขั้นของกรรมาธิการเสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวน 10 ฉบับ ดังนั้น ควรที่จะเลื่อนขึ้นมาพิจารณาก่อนเพื่อให้ผ่านวาระ 2 และวาระ 3 ต่อไป ซึ่งทางวิปรัฐบาลได้นำเสนอต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ส่วนจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ หรือไม่นั้น ต้องไปหารือกันอีกครั้งในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนสิงหาคม