ประธานสภาฯ โยนสมาชิกเอายังไงแก้รัฐธรรมนูญโหวตวาระ 3 อ้างมีหน้าที่แค่ดูแลการประชุม ระบุคำวินิจฉัยทำประชามติยังไม่ชัดต้องตีความ บ่นเสียงบ 2 พันล้าน เสนอโละของเดิมแล้วยกร่างใหม่รายมาตรา ชี้ไม่ต้องเสียเงินหรือตีความเพิ่ม ลั่นไม่ยอมให้คนไทยฆ่ากัน โบ้ยเจ้าของญัตติถอนเอง ยันไม่มีใบสั่ง แย้ม พ.ร.บ.ปรองดองถ้าโหวตไม่ผ่านก็ตกไปเอง
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่ห้องรอยัลจูบิลีบอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเวลา 10.15 น. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรมนูญภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ท้ายที่สุดการตัดสินใจต้องขึ้นอยู่กับสมาชิกเป็นหลัก โดยในเบื้องต้นต้องเป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะไปหารือกับ ส.ส.ในพรรค เมื่อได้ข้อสรุปเช่นไรก็นำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส่วนตนมีหน้าที่เพียงการกำกับดูแลการประชุมให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ซึ่งตนขอพูดชัดๆ ว่าการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 จะเดินหน้าได้หรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับสมาชิก โดยการหยิบยกมาหารือในที่ประชุม จากนั้นก็ขอมติในที่ประชุม ว่าจะทำอย่างไรต่อไป สำหรับตนความเห็นส่วนตัวในเรื่องนี้มองว่า ในส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญขอให้ทำประชามติยังมีความไม่ชัดเจนต้องนำไปสู่การตีความ เช่น จะทำประชามติก่อนลงรัฐธรรมนูญในวาระ 3 หรือต้องวาระ 3 ก่อนที่จะไปทำประชามติ แต่ที่เห็นชัดเจนคือการทำประชามติ ต้องเสียเงินกว่า 2 พันล้านบาท
ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวต่อว่า ในเรื่องนี้ความเห็นส่วนตัวมองว่าทางออกที่ดีที่สุดคือต้องทำในหนทางที่ไม่ต้องทำให้เกิดปัญหาและตีความให้ยุ่งยากคือให้โละของเดิมทิ้ง แล้วให้ ส.ส.และ ส.ว.ยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่เป็นรายมาตรา ซึ่งตรงนี้จะไม่ทำให้เสียเงิน หรือต้องไปตีความ แต่ความเห็นที่ตนเสนอมานี้จะทำได้ หรือไม่ก็ต้องแล้วแต่เสียงส่วนใหญ่ขอที่ประชุมสภาฯ หากตนมีอำนาจที่จะใช้ดุลยพินิจตนก็จะยืนยันแนวคิดนี้ เพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ของประเทศและไม่ยอมให้คนไทยฆ่ากัน อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบให้ทีมกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรไปทำการศึกษาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญรวมถึงคำวินิจฉัยส่วนบุคคลมาดูเพิ่มเติมเพื่อความรอบครอบด้วย
ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวต่อว่า ในส่วนของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่รอการลงมติในวาระ3 ขณะนี้ถือว่ายังไม่ตกไป ส่วนวิธีการถอนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องให้เจ้าของผู้เสนอญัตติทั้งหมดถอนในห้องประชุม ก็จะสามารถเริ่มการแก้ไขฉบับใหม่ได้ทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตัดสินใจของพรรคการเมืองต้องรอฟัง “คนทางไกล” หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นการกล่าวหากัน เพราะสิ่งที่หารือก็ต้องหารือด้วยเหตุด้วยผล ก็คงไม่มีใบสั่งอะไร เมื่อถามว่า ล่าสุดทางคณะนิติราษฎร์เตรียมเสนอแก้รัฐธรรมนูญเพื่อยุบศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นการมองต่างมุมและเป็นความเห็นที่แสดงได้ตามสิทธิในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ ในฐานะที่ตนเป็นประธานรัฐสภาไม่ขอออกความเห็นใดๆ เกี่ยวกับผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญว่าเข้ามาแทรกแซงกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติหรือไม่
นายสมศักดิ์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในข้อเสนอที่ให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ....จำนวน 4 ฉบับออกไปจากระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ บุคคลที่สามารถคุยได้และมีความเห็นในทางเดียวกัน ซึ่งแนวโน้มเป็นไปในแนวทางที่ดี ทั้งนี้ ตนมองว่าแม้เจ้าของร่างผู้เสนอญัตติจะไม่ถอนร่างออกไป แต่เมื่อมาโหวตในสภาผู้แทนราษฎร ถ้าเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งร่างก็จะตกไปเอง