“ส.ว.คำนูณ” หยันนิติราษฎร์ เสนอยุบศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งตุลาการขึ้นแทนเขียนให้ชัดเจนไปเลยให้ “ทักษิณ” เลือก และใช้ชื่อคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบทักษิณดีมั้ย เชื่อ ถ้าดึงดังผ่านวาระ 3 ไม่ฟังคำแนะนำศาลโดนแน่ๆ ระบุ สุดวัดใจสมาชิกรัฐสภา แนะอย่าห่วง ม.68 โดนตัดอำนาจศาล ชี้คำวินิจฉัยชัดเป็นหลักประกันใช้สิทธิ์โดยสมบูรณ์
วันนี้ (15 ก.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้เขียนบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่คณะนิติราษฎร์ได้เสนอให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญและตั้งตุลาการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ โดยให้ ส.ส., ส.ว.และ ครม.เป็นผู้คัดเลือก ว่า ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญเลิกศาลรัฐธรรมนูญแบบปัจจุบัน ตั้ง “คณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ” แบบนิติราษฎร์แถลงวันนี้ ที่ให้สภาผู้แทนฯเลือก 3 วุฒิสภาเลือก 3 ครม.เลือกอีก 3 รวมเป็น 8 จะเอากันยังงี้ก็เอาเลยนะ แต่ผมว่าเพื่อความชัดเจนเขียนระบุไว้ในรัฐธรรมนูญเลยดีกว่า ว่า “ให้ทักษิณฯเลือกทั้ง 8 คน” แล้วใช้ชื่อให้ตรงไปตรงมาดีกว่า ว่า “คณะตุลาการพิทักษ์ระบอบทักษิณ” ดีมั้ย
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (14 ก.ค.) นายคำนูณ ยังได้เขียนข้อความขยายคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยว่า คำวินิจฉัยประเด็นที่ 1 ศาลฯให้เหตุผลในการที่ร้องมีอำนาจรับคำร้องโดยตรงจากประชาชนว่า เพราะการที่จะมีคำสั่งให้เลิกการกระทำตามมาตรา 68 วรรคหนึ่ง (ล้มล้างการปกครองฯ) ได้นั้น การกระทำดังกล่าวจะต้องดำเนินการอยู่ “...และยังไม่บังเกิดผล” แต่ในคำวินิจฉัยประเด็นที่ 3 ที่ศาลฯวินิจฉัยว่าการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 ให้มีผลเลิกทั้งฉบับแล้วเขียนใหม่โดย ส.ส.ร.ยังไม่ใช่การกระทำผิดดังกล่าวก็เพราะ “...ยังห่างไกลต่อการที่จะเกิดเหตุตามที่กล่าวอ้าง” และในคำวินิจฉัยประเด็นที่ 2 ศาลฯไม่ก้าวล่วงอำนาจในการแก้รัฐธรรมนูญของรัฐสภาตามมาตรา 291 แต่ได้แนะนำว่าหากจะแก้ทั้งฉบับควรลงประชามติก่อนหรือไม่ก็ให้เป็นรายมาตรา/คำถามคือถ้ารัฐสภาไม่เชื่อคำแนะนำศาลฯฝืนลงมติวาระ 3 แล้วมีผู้ร้องศาลฯตามมาตรา 68 วรรคสองอีก ศาลฯท่านเห็นว่า “ยังห่างไกล...” อีกหรือไม่ ??
นายคำนูณ เขียนสำทับความเห็นตนเองต่อว่า พิจารณาหลายรอบแล้ว หากรัฐสภาไม่รับฟัง “คำแนะนำ” ของศาลฯ ยังฝืนเดินหน้าลงมติวาระ 3 แล้วมีคนร้องศาลฯตามมาตรา 68 วรรคสอง นำสืบให้ดีๆ จากรากฐานคำแนะนำที่ศาลฯให้ไว้ โดยเฉพาะในประเด็น “อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ” คราวนี้น่าจะโดนแน่ สรุปว่า งานนี้วัดใจกัน วัดใจ ส.ส.-ส.ว.ที่จะเข้าร่วมลงมติวาระ 3 ด้วย วัดใจประธานรัฐสภาที่จะเป็นผู้ออกวาระนัดลงมติวาระ 3 ด้วยเช่นกัน งานนี้จะเอาฐานคะแนนจากการลงมติวาระ 1 มาคิดไม่ได้ เพราะหลังศาลฯมี “คำแนะนำ” ออกมาแล้ว ต้องมีคนเปลี่ยนใจแน่
นายคำนูณ ยังเขียนเพิ่มเติมอีกว่า ไม่ต้องห่วงหรอกครับว่าเขาจะแก้มาตรา 68 ตัดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญได้ง่ายๆ เพราะเมื่อศาลฯวินิจฉัยประเด็นที่ 1 สถาปนา “อำนาจพิทักษ์รัฐธรรมนูญ” ให้แก่ประชาชนโดยสามารถยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลฯได้โดยไม่ต้องผ่านอัยการสูงสุดก่อนแล้ว ประชาชนจึงสามารถยื่นคำร้องต่อศาลฯขอให้วินิจฉัยสั่งการให้ยกเลิกการขอแก้ไขดังกล่าวได้ในทุกช่วงเหตุการณ์ ส่วนศาลฯจะวินิจฉัยว่าการแก้ไขมาตรา 68 เป็นการกระทำต้องห้ามตามมาตรา 68 หรือไม่ ก็ต้องดูเนื้อหา แต่ผมว่ามีน้ำหนัก เพราะศาลฯวินิจฉัยประเด็นที่ 1 ไว้งดงาม โดยอ้างสิทธิในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญของประชาชนเป็นหลัก ว่าจะต้องมีหลักประกันในการใช้สิทธิอย่างสมบูรณ์ การแก้ไขตัดช่องทางใช้สิทธิเหลือทางเดียวย่อมเป็นการจำกัดสิทธิ
“การจำกัดสิทธิของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ จึงมีโอกาสจะเป็น “การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้” ได้ อย่างน้อยก็ได้สู้กันในศาลฯอีกยก และยกนี้ฝ่ายเรารู้แนวทางที่ศาลฯวางไว้ให้ในคำวินิจฉัยประเด็นที่ 1 และคำวินิจฉัยกึ่งแนะนำประเด็นที่ 2 ไว้แล้ว ผมถึงบอกแล้วบอกอีกไงว่าคำวินิจฉัยประเด็นที่ 1 คือ คำวินิจฉัยที่ยิ่งใหญ่” นายคำนูณ กล่าว