รองนายกฯ เผยที่ประชุม ครม.วานนี้ไม่มีเรื่อง พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ยันไม่เอื้อประโยชน์ “ทักษิณ” แน่ ปูดบิ๊กการเมืองซื้อขายหุ้นนอกตลาด สั่งดีเอสไอชง ยียวน “พันธมิตรฯ” ขีดเส้นตายถอน พ.ร.บ.ปรองดอง อ้างเป็นเรื่องสภาฯ รัฐบาลไม่มีอำนาจ ยกข้ออ้างฉุดรายได้ท่องเที่ยวปราม เย้ยอยากชุมนุมตามสบาย ขาดน้ำเดี๋ยวหามาให้ อีกด้านเตรียมชงไอเดียแก้ รธน.หารือในงานสัมมนาพรรค ปัด “นายใหญ่” ไฟเขียว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง"ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้สัมภาษณ์"
วันนี้ (25 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษปี 2555 เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่าการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ไม่ได้มีการหารือในเรื่องนี้ แต่ในฐานะที่ตนดูแลกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การเสนอ พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษที่รัฐบาลนำกราบบังคมทูลฯ ก็จะเหมือนกันทุกปี ไม่มีอะไรพิเศษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อยกเว้นในการอภัยโทษ มีหลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะไม่มีการกำหนดคดีทุจริตเอาไว้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธว่าไม่มี รัฐบาลไปคิดทำอย่างนั้นได้อย่างไร ซึ่งคดีทุจริต ยาเสพติด เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ปีที่แล้วๆ มาทำอย่างไร ตนก็มั่นใจว่าปีนี้คงเป็นอย่างนั้น ทั้งนี้ เท่าที่ได้ตนได้หารือกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ คนที่ได้รับเสนอพระราชทานอภัยโทษในปีนี้มีมีอยู่ประมาณ 3 หมื่นกว่าคน จะไม่มีอะไรหวือหวา จะไม่มีอะไรทื่ทำให้พี่น้องประชาชนไม่พอใจ มีแต่คนจะรักเพราะคนที่ได้รับการพ้นโทษเขาจะดีใจ ซึ่งอย่าไปคิดเป็นอย่างอื่น รัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรียึดมั่นถือมั่น ขอถามว่ามีรัฐบาลชุดไหนที่จะตั้งคณะทำงานมาสอบสวนคนของรัฐบาลกันเอง นั่นแปลได้ว่านายกฯ ต่อต้านการทุจริตคอรัปชัน
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ตนจะประชุมคณะกรรมการตรวจสอบชุดใหญ่รอบสองใน 3 โครงการ ประกอบด้วย เรื่องงบเยียวยาน้ำท่วม โครงการจำนำข้าว และงบท้องถิ่น โดยจะแบ่งเป็น 11 เขต หากใครคดโกงไว้หรือถ้าคิดจะทำให้ก็เลิกเสีย นายกฯ กำชับตนให้ดำเนินการอย่างจริงจัง อย่าละเว้น ไม่มีลูบหน้าปะจมูก พวกที่โกงไปแล้วเตรียมตัวติดคุก
เมื่อถามว่า การที่นายกฯ ตั้ง ร.ต.อ.เฉลิมมาตรวจสอบเรื่องการทุจริตจะเกิดแรงเสียดทานกันเองในรัฐบาลหรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า ถามว่าใจตนอยากทำหรือไม่ก็ไม่อยากทำ แต่เมื่อนายกฯ มีบัญชา ครม.มีมติ ตนก็ไม่มีทางเลือก ซึ่งหากใครทำผิดแล้วมีหลักฐานก็ดำเนินการ เมื่อถามย้ำว่า การที่นายกฯ มอบหมายตรงนี้จะเป็นการยืมมือในการปรับ ครม.หรือไม่ รองนายกฯ ปฏิเสธว่าไม่มี เพราะตนไม่มีฤทธิ์เดช เพียงแต่นายกฯ เห็นว่าการทุจริตทำลายชาติบ้านเมืองก็ไม่อยากให้มี
รองนายกฯ เปิดเผยด้วยว่า ในเร็วๆ นี้จะมีข่าวดีบอกสังคมไทย เนื่องจากมีนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งทำตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ไปซื้อ-ขายหุ้นนอกตลาด ตนมีหลักฐานแล้ว และสั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ดำเนินการ และอย่ามาบอกว่ามีการกลั่นแกล้ง ในเมื่อไปขายหุ้นนอกตลาด นำไปขายพรรคพวก ที่ทำอะไรกันไว้หนีไม่พ้นแน่ ต้องดำเนินการ
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองออกภายในวันที่ 1 ส.ค.ว่า สิ่งที่พันธมิตรฯ แถลงเป็นความตั้งใจหรือเข้าใจผิด เพราะร่าง พ.ร.บ.ปรองดองอยู่ในสภาฯ และไม่ได้เสนอโดยรัฐบาล จะไปถอนได้อย่างไร ตนแปลกใจ อีกทั้งนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์ชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจ เป็นเรื่องสภาและผู้ยื่นจะถอนหรือไม่รัฐบาลจะบังคับไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะแบ่งอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการไว้ทำไม
ผู้สื่อข่าวถามว่า พันธมิตรฯ มองว่ารัฐบาลเป็นส่วนที่ผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า พันธมิตรฯ ไม่เคยบอกพวกตนดีอยู่แล้ว เป็นธรรมดา แม้ว่ารัฐบาลจะเป็นเสียงข้างมากในสภา แต่กฎหมายยังไม่มีการพิจารณา เมื่อถามถึงกรณีที่นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยระบุว่าจะไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง แต่จะเลื่อนกฎหมายสำคัญมาพิจารณาก่อน ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า เป็นสิทธิของนายสามารถเพราะเป็นคนยื่น ส่วนจะไปทำประชาเสวนาเพื่อไปถอยตั้งหลักก่อนหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้ใช้ตน
เมื่อถามอีกว่า ในเมื่อไม่คิดเดินเพราะยังมีปัญหาอยู่ เหตุใดจึงไม่ถอนออกไปก่อน ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ไม่ได้ ตนพูดงานนอกหน้าที่ไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่ตน ใครมีหน้าที่ก็ทำตรงนั้น เมื่อถามว่า แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐมนตรีและ ส.ส.ต้องช่วยกันเดินหน้าหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ใช้ฉบับตนไม่มีใครประท้วง แต่รอให้พรรคตกผลึก และตนไม่ทำงุบงิบ แต่จะออกโทรทัศน์เลย เอาร่างแจกเลย มันต้องอย่างนั้น
เมื่อถามย้ำว่า เรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองที่พูดมานานแล้ว ไม่มีใครสนใจเลยหรือ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า “ก็งั้นสิ ถ้าสนใจจะไปใช้ฉบับคุณไก่ (นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย) เหรอ ฉบับผมไม่มีใครสนใจ แต่ไม่เสียใจหรอก แต่ฉบับคุณไก่จะเดินหน้าต่อได้หรือไม่นั้นไม่มีความเห็น เดี๋ยวคุณไก่ดุ”
เมื่อถามต่อว่า ประเมินว่าหากเปิดสภาในวันที่ 1 ส.ค.นี้จะเกิดความขัดแย้งในสังคมหรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า ไม่มี พันธมิตรฯ ลงมือเร็วไปงานนี้ ทำไมไม่คิดบ้างว่ารัฐบาลกำลังพยายามดำเนินการให้มีการท่องเที่ยวมากขึ้นใน 5 ปีข้างหน้าจะหารายได้เป็น 2 ล้านล้าน แล้วมาชุมนุมกันอยู่อย่างนี้ โดยบางครั้งเหตุผลไม่สมควรคิดบ้างหรือไม่ การเคลื่อนไหวทุกคนมีเหตุผลหมด และยิ่งพันธมิตรฯ เก่ง มีผ้าคาดหัว แต่ตนไม่ห้าม สั่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลอย่าใจร้อน เชิญชุมนุมตามสบายไม่มีน้ำหาน้ำให้
ทั้งนี้ สถานการณ์ทางการเมืองไม่มีหรอกที่จะอยู่เฉยๆ มันต้องมีกระทบกระทั่ง ย้ำอีกครั้งถ้ารัฐบาลไม่ทุจริต นายกฯ อยู่ครบเทอม ต่อข้อถามว่า อยู่ได้แต่งานไม่เดินหรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า นี่เพิ่ง 11 เดือน พ.ร.บ.ปรองดองและรัฐธรรมนูญก็เดินได้ และเป็นงานสภาไม่ใช่งานรัฐบาล งานรัฐบาลนายกฯแก้ปัญหาความยากจน ขจัดการทุจริต ไม่มีนายกฯ คนไหนกล้าตัดสินใจอย่างนี้
เมื่อถามว่า เรื่องปรองดองและแก้รัฐธรรมนูญห่วงหรือไม่ว่าจะเป็นปมให้ล้มรัฐบาลได้ ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า รัฐบาลไม่มีใครล้ม เพราะรัฐบาล “อั้งจี้กง” คือเอนไปเอนมา แล้วก็ยืนขึ้น ตนไม่ได้มองการเมืองรุนแรงอะไรเลย
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราที่เป็นคนเสนอ 5 แนวทางออกมา ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ จะนำไปหารือในการสัมมนาของพรรคเพื่อไทย แต่ยอมรับว่าลำบาก เพราะพรรคใหญ่มีแต่คนเก่ง แต่ตนก็ไม่เคยน้อยอกน้อยใจเวลาที่เขาไม่เชื่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า 5 แนวทางที่ว่าจะมีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวทันทีว่า ง่ายที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่สังคมได้ประโยชน์ แล้วใครจะมาคัดค้าน ยกตัวอย่างศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองก็ยังมีอยู่แต่ไปรวมอยู่ที่ศาลฎีกา ส่วนงานที่ศาลทำมาก่อนหน้านี้ก็ใช้บทเฉพาะกาลกำหนดหน้าที่ต่อไป สิ่งที่ตนเสนอขึ้นมาผ่านการคิดและหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ไม่ใช่ให้สัมภาษณ์แบบนึกสนุก
“แล้วแต่ว่าพรรคจะเอาไหม ทั้ง 5 แนวทางทำได้แน่นอน เพียงแต่อย่าไปทำอะไรที่มันคลุมเครือ อย่างยึดหลักกฎหมายอย่างเดียว ต้องเอาความรู้สึกสังคม และเด็กมีเส้น กลุ่มคนที่ไม่อยากให้เราอยู่ นำมาผสมผสาน มันถึงจะไปได้” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
เมื่อถามว่า 5 แนวทางดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจาก พ.ต.ท.ทักษิณหรือยัง ร.ต.อ.เฉลิมตอบพร้อมหัวเราะว่า “ไม่ทราบ เพราะผมไม่ได้ไปพบ ไปกินโจ๊กเป๋าฮื้ออร่อย เลยไม่ได้ไปไหนเลย”