คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทน ลงภูเก็ตให้ความรู้เด็กป้องกันการทุจริต

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร ดึงนักเรียนในจังหวัดภูเก็ตเป็นเครือข่ายป้องกันปราบปรามการทุจริต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุ การทุจริตเปรียบเหมือนมะเร็งร้ายที่ต้องเร่งป้องกันไม่ให้ลุกลาม

วันนี้ (9 ก.ค.) ที่ห้องประชุมมะฮอกกานี โรงเรียนสตรีภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางอัญชลี วานิช เทพบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดภูเก็ต เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานเปิดการสัมมนาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร

โดยมีนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดภูเก็ต เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการประจำคณะคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร คณะครู และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจาก 6 สถาบัน ประกอบด้วย โรงเรียนสตรีภูเก็ต โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต โรงเรียนกะทู้วิทยา โรงเรียนเมืองถลาง และโรงเรียนเชิงทะเลวิทยาคม จำนวนประมาณ 1,000 คนเข้าร่วม

นายเรวัต กล่าวว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มีจุดมุ่งหมายสำคัญประการหนึ่งที่จะปฎิรูปโครงสร้างองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงานภาครัฐ เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมาย ทางสภาผู้แทนราษฎรจึงได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งการปฏิบัติภารกิจของคณะกรรมาธิการฯ ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบเรื่องราวต่างๆ มากมาย แต่ยังไม่สามารถป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบได้หมดสิ้นไป

คณะกรรมาธิการฯ จึงได้เล็งเห็นว่า ประชาชน และองค์กรต่างๆ ควรจะมีการประสานความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก และเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญของชาติ จึงได้จัดให้มีการสัมมนาเพื่อให้เด็กนักเรียนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตขึ้น

สำหรับวัตถุประสงค์ของการสัมมนานั้น เพื่อเผยแพร่บทบาทหน้าที่ และภารกิของคณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้ประชาชน และองค์กรต่างๆ ทราบถึงแนวทางการประสานความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ รวมทั้งเพื่อรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของประชาชน และองค์กรต่างๆ ซึ่งในครั้งนี้ เน้นกลุ่มของนักเรียน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญ เพื่อให้ได้รับทราบถึงปัญหา และผลกระทบที่จะเกิดจากการทุจริตประพฤติมิชอบในรูปแบบต่างๆ เพื่อเขาจะได้นำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ ตลอดจนเพื่อให้มีจิตสำนึกที่ดีในการที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ต่อไปในอนาคต นายเรวัตกล่าว

ขณะที่นางอัญชลี กล่าวว่า ปัญหาการทุจริตนั้นได้ลุกลามไปเหมือนกับมะเร็งร้าย ซึ่งหากปล่อยไว้ และไม่สามารถป้องกัน หรือปราบปรามได้ก็จะส่งผลเสียหายแก่ประเทศโดยรวม ดังนั้น การมาให้ความรู้แก่เด็กๆ นั้น ก็เพื่อให้รู้ถึงปัญหาของการทุจริต และจะได้ร่วมกันต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ เพราะจากการจัดลำดับปัญหาการทุจริตของทั่วโลกในปี 2554 พบว่าประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 80 จาก 183 ประเทศทั่วโลก โดยได้คะแนน 3.4 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งเชื่อว่าเราทุกคนคงไม่อยากให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ฉะนั้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมาร่วมกันป้องกัน และปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง