คนอินโดฯ ฉุน ปธน.นั่งติด “นช.แม้ว” ซัดทรยศคำสัญญา “ปราบทุจริต”

เอ็นจีโอแดนอิเหนารับไม่ได้ ปธน.อินโดนีเชีย นั่งคู่ “นช.แม้ว” อดีตนายกฯ ไทย ผู้ตกเป็นนักโทษคดีทุจริต ที่กำลังหลบหนีเพราะไม่อยากติดคุก ซ้ำดูหมิ่นศาล อัดยับทรยศคำมั่นสัญญาจะเป็นผู้นำต่อสู้กับการทุจริต แต่กลับยอมนั่งเคียงข้างนักโทษหนีคดี

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ ของอินโดนีเซียได้เผยแพร่บทความ ชื่อ The President’s politically incorrect gesture หรือ “เชิงการเมืองที่ไม่ถูกต้องของประธานาธิบดี” ซึ่งเขียนโดยนาย Todung Mulya Lubis ผู้ก่อตั้งองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ของอินโดนีเซีย บทความดังกล่าว ได้วิพากษ์วิจารณ์กรณีที่นายซูซิโล บัมบัง ยุทโธโยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รับคำเชิญไปร่วมงานเปิดตัววารสารวิเคราะห์การเมืองและเศรษฐกิจรายไตรมาส ชื่อ Strategic Review ที่มีนายฮัสซัน วิรายุดา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าของ

บทความดังกล่าวระบุว่า ในงานเปิดตัวนิตยสารในวันนั้น เขาไม่พบอะไรผิดปกติเกี่ยวกับงานเปิดตัวหรือคุณภาพของนิตยสารฉบับนั้น แต่สิ่งที่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไร้รสนิยมอย่างยิ่งคือการได้เห็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงอันฉาวโฉ่มาเป็นแขกและนั่งติดอยู่กับบุคคลผู้มีความสำคัญยิ่งของประเทศอินโดนีเซียอย่างนายยุทโธโยโน

บุคคลฮาวโฉ่ที่ผู้เขียนอ้างถึงนั้น ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยผู้เคยมีอำนาจแข็งแกร่ง แต่ถูกขับไล่ออกนอกประเทศโทษฐานเป็นนักการเมืองที่ทุจริต และขณะนี้ถือว่าเป็นนักโทษที่หลบหนีคดีไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ

บทความระบุอีกว่า ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี แม้กระทั่งช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2547 นายยุทธโยโนได้พูดมาตลอดว่าเขาจะมุ่งมั่นต่อสู้กับการทุจริต เพราะเขาถือว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นนั้นเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของประเทศ และก็ทำได้ดีในช่วงการเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก จนทำให้มี ส.ส.นักการเมือง ข้าราชการระดับสูงถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาคอร์รัปชั่นและถูกจำคุกหลายคน ประธานาธิบดียุทโยโนได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนไปถึงประชาชนว่า เขาจะยังติดตามจับตาดูคนที่มีพฤติกรรมทุจริตต่อไป ไม่สนใจว่าจะเป็นใครก็ตาม ด้วยมาตรการต่อต้านคอร์รัปชั่นที่เข้มงวดนี้เอง ทำให้นายยุทธโยโนได้รับการยอมรับอย่างสูง ผู้เขียนเองก็ยังพอใจ แม้จะวิพากษ์วิจารณ์นายยุทโยโนอยู่บ้างก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในการดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง กลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นายยุทโยโนแสดงความคลุมเครือหลายครั้ง แม้ว่าเขาจะยังใช้วาทกรรมต่อต้านการทุจริตอยู่เหมือนเดิม ซึ่งล่าสุดคือการสั่งให้รัฐมนตรีทุกคนประกาศแตกหักกับเจ้าหน้าที่ใต้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต อย่างไรก็ตาม เหมือนกับว่านายยุทธโยโนกำลังกังวลกับเรื่องบางอย่าง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นกรณีที่พรรค Democratic Party ของเขา เข้าไปพัวพันกับการทุจริตหลายคดี เช่น การก่อสร้างศูนย์กีฬา Hambalang และการก่อสร้างหมู่บ้านนักกีฬาซีเกมส์ ซึ่งได้สร้างความเสียหายไม่เฉพาะต่อพรรคของเขา แต่ยังส่งผลเสียต่อตัวเขาเองในฐานะประธานาธิบดีที่ประกาศต่อต้านการคอร์รัปชั่นอย่างแข็งขัน

บทความระบุอีกว่า นั่นทำให้นายยุทธโยโนได้รับการยอมรับน้อยลงเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีคนจำนวนมากยังเห็นว่านายยุทธโยโนเป็นคนดี และโดยส่วนตัวผู้เขียนก็เห็นว่า ประธานาธิบดีเป็นคนดีมากคนหนึ่ง และอาจจะเป็นเพราะว่า เขาเป็นคนดีนี่เอง เมื่อรับเชิญไปร่วมงานเปิดตัววารสาร Strategic Review ของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ เขาจึงได้นั่งติดกับ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนักโทษหนีคดีคอร์รัปชั่น ขณะนี้ทักษิณยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ เพราะเขาไม่ต้องการกลับเข้าไปติดคุก นั่นเป็นการแสดงออกถึงการไม่เคารพคำพิพากษาของศาล และที่จริงแล้วมันคือการดูหมิ่นศาลอย่างแท้จริง

คำถามของผู้เขียนก็คือ ทำไมประธานาธิบดียุทโยโนไม่แสดงออกมาว่าเขาไม่ต้องการนั่งติดกับนักโทษคดีทุจริตซึ่งเคยเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย แล้วทำไมผู้จัดงานจะตายด้านจนไม่รู้เลยหรือว่า การที่ทักษิณอยู่ใกล้นายยุทโยโนจะสร้างความสงสัยอย่างรุนแรงต่อ ประธานาธิบดีของอินโดนีเซียผู้มุ่งมั่นกับการต่อต้านคอร์รัปชั่น

ถ้าประธานาธิบดียุทโยโนยังยืนยันว่าจะยังมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำการต่อต้านคอร์รัปชั่นของประเทศ การเต็มใจนั่งติดกับทักษิณถือว่า เป็นการทรยศต่อคำมั่งสัญญาของเขา การกระทำของเขาไม่ถูกต้องทั้งในทางกฎหมายและทางการเมือง มันเป็นการส่งสารที่ผิดต่อผู้ที่กำลังมุ่งมั่นต่อสู้กับการทุจริตอยู่ในขณะนี้