xs
xsm
sm
md
lg

“บุญส่ง” ยกคำวินิจฉัยกลางชัดเจน เชื่อหายข้องใจ-หน.โฆษกศาลชี้ลุยวาระ 3 เสี่ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ(แฟ้มภาพ)
ตุลาการศาล รธน.เชื่อหายข้องใจหลังคำวินิจฉัยกลางออกมา ส่วนคำวินิจฉัยส่วนตนคาดเผยแพร่ภายหลังในกรอบหลังคำวินิจฉัย 60 วัน ขณะที่โฆษกศาลฯ เผยตุลาการจะพิจารณาคำร้องที่มีเรื่องล้มล้างการปกครองในที่ประชุมพรุ่งนี้ก่อนลงมติเห็นชอบ ถึงส่งคำวินิจฉัยให้คู่กรณี ด้านหัวหน้าโฆษกศาลฯ ชี้รัฐฯ เดินหน้าลุยวาระ 3 หากมีผลกระทบต้องรับผิดชอบ ปัดตอบไม่ได้หากมีการยื่นฟ้องซ้ำ อ้างเป็นเรื่องอนาคต แนะรอฟังแถลงพรุ่งนี้

วันนี้ (24 ก.ค.) นายบุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า เชื่อว่าการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) ตุลาการทุกคนจะเข้าร่วมประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบและลงนามในคำวินิจฉัยกลาง และเชื่อว่าคำวินิจฉัยกลางจะมีความชัดเจนทำให้หลายฝ่ายหายข้องใจได้ ส่วนคำวินิจฉัยส่วนตนนั้น ขณะนี้ตุลาการทั้งหมดดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ก็ได้แจ้งว่าจะมีการสอบถามในที่ประชุมถึงคำวินิจฉัยส่วนตนของแต่ละคน ถ้าหากเสร็จเรียบร้อยคาดว่าจะสามารถเผยแพร่พร้อมกับคำวินิจฉัยกลางได้ แต่อย่างไรก็ตามคำวินิจฉัยส่วนตน สามารถเผยแพร่ภายหลังได้ เนื่องจากตามกฎหมายแล้วให้ระยะเวลาในการเผยแพร่คำวินิจฉัยส่วนตนถึง 60 วัน หลังจากตุลาการได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายสมฤทธิ์ ไชยวงค์ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 25 ก.ค.นี้จะมีการพิจารณาคำร้องตามปกติรวม 6 เรื่อง รวมถึงตรวจสอบคำวินิจฉัยกลางกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 โดยขณะนี้ตุลาการฯ ได้ตรวจสอบร่างคำวินิจฉัยครบทุกคนแล้ว ก่อนที่จะลงมติเห็นชอบในการประชุมวันที่ 25 ก.ค.นี้ และถ้าคณะตุลาการเห็นว่าคำวินิจฉัยกลางไม่มีส่วนไหนต้องแก้ไข ก็อาจสามารถเผยแพร่ได้แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตุลาการว่าจะให้เผยแพร่ทันทีหรือว่าเมื่อใด

โฆษกศาลรัฐธรรมนูญกล่าวต่อว่า ขณะที่คำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการแต่ละคนก็ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว และส่งให้สำนักงานตรวจสอบโดยขณะนี้อยู่ระหว่างทางสำนักงานฯ ส่งคืนให้กับตุลาการแต่ละคนพิจารณาอีกครั้ง แต่ทั้งนี้เชื่อว่าคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนนั้นคงไม่สามารถเผยแพร่พร้อมกันได้ โดยคำวินิจฉัยส่วนตนน่าจะเผยแพร่หลังคำวินิจฉัยกลางเผยแพร่ไปแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งทางสำนักงานฯก็พยายามติดตามเรื่องนี้ให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อจะได้จัดส่งให้คู่กรณีรับทราบ และเพื่อที่องค์กรที่เกี่ยวข้องจะได้นำคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตนไปใช้ในทางปฏิบัติได้

นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีคำวินิจฉัยกลางที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะลงนามรับรองในการประชุมวันที่ 25 ก.ค.นี้ ในประเด็นที่ 2 ที่ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำว่าควรจะทำประชามติตามรัฐธรรมนูญหากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า จากการอ่านคำวินิจฉัยขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้แนะนำว่าควรทำประชามติ ส่วนรัฐสภาจะดำเนินการตามคำแนะนำของศาลหรือไม่นั้นก็ถือเป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะตัดสินใจ แต่หากไม่ดำเนินการตามคำแนะนำ และส่งผลให้มีผลกระทบตามมา ทางรัฐสภาก็จะต้องรับผิดชอบต่อไป ทั้งนี้หากรัฐสภาไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของศาล และเดินหน้าลงมติในวาระ 3 จะส่งผลกระทบให้บุคคลที่ทราบการกระทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 มายื่นร้องต่อศาลอีกครั้งหรือไม่นั้น ตนคงตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องอนาคตที่ไม่สามารถไปคาดการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าทีมโฆษกศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีการแถลงข่าว เพื่อสร้างความชัดเจนอีกครั้งด้วย
พิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ(แฟ้มภาพ)
กำลังโหลดความคิดเห็น