“อภิสิทธิ์” ยังไม่รู้ “ทักษิณ” สั่งแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา โยนสภาหาทางออก แนะอย่าสร้างการเผชิญหน้า จี้วิปรัฐเอาให้ชัด จวกเมื่อไหร่จะก้าวพ้น “แม้ว” สักที ยันประชาชนแนะแก้เศรษฐกิจเถอะ ชูเวทีอาทิตย์นี้สะท้อนสิ่งที่รัฐควรทำ
วันนี้ (24 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังจากการรับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ฟ้องพรรคประชาธิิปัตย์ ตน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าในส่วนของพรรค ตนและนายองอาจ ศาลยืนตามเดิมคือยกฟ้อง ส่วนนายสุเทพมีการเปลี่ยนแปลงเป็นลงโทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 2 พันบาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา ซึ่งในส่วนของนายสุเทพ จะมีการต่อสู้ในชั้นศาลฎีกาต่อไป
ส่วนกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร แต่สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าใครคิดอย่างไร แต่อยู่ที่คนมีหน้าที่คือ รัฐสภา ต้องหาทางออกให้กับประเทศ ตนยืนยันว่าอย่าสร้างบรรยากาศการเผชิญหน้าให้ดำเนินการตามที่ศาลชี้ หรือปรึกษาหารือกันถึงแนวทางที่เหมาะสมในเรื่องรัฐธรรมนูญจะดีที่สุด ซึ่งหากจะแก้ไขรายมาตราก็ดีกว่าที่จะเดินหน้าเรื่องวาระสาม แต่ถ้าจะถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ยังตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะแก้มาตราไหนด้วยเหตุผลอะไร
ส่วนคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นธงสำหรับรัฐบาลในการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องรอดูก่อนเพราะกระแสข่าวที่ออกมาก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ตนคิดว่าสิ่งสำคัญคือรัฐบาลและวิปควรมีความชัดเจนได้แล้วว่าจะไม่ดำเนินการในสิ่งที่ทำให้เกิดการเผชิญหน้าจะได้ช่วยบรรยากาศบ้านเมือง ทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ในการแก้ปัญหาประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีพยายามยืนยันมาโดยตลอดว่าการตัดสินใจอยู่ภายในประเทศ การที่มีคนของพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณตลอดเวลา พร้อมกับนำคำพูด พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา สะท้อนว่าอำนาจอยู่ที่ใคร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นที่รับรู้กันอยู่และนี่คือปัญหาที่เราพูดมาตลอดว่าเมื่อไหร่จะก้าวพ้น พ.ต.ท.ทักษิณ เสียทีเพื่อเดินหน้าทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง
“ผมคิดว่าคนที่กำหนดทิศทางประเทศไทยคือประชาชน เพราะแม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะบงการรัฐบาลได้แต่ผมว่ามีประชาชนที่เขาร่วมกำหนดทิศทางประเทศเขาคงไม่ยอมให้มีปัญหาที่จะต้องทะเลาะเบาะแว้งระหว่างสถาบันหลักต่างๆ กับศาลและคนที่อยากจะกำหนดทิศทางของประเทศส่วนใหญ่คือประชาชน เขาก็อยากจะบอกกับรัฐบาลว่าเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ เดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องอื่นเถอะ” นายอภิสิทธิ์กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวด้วยว่า เวทีผ่าความจริงหยุดล้มรัฐธรรมนูญออกกฎหมายล้างผิดคนโกงของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ค.นี้ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง จะสะท้อนให้ประชาชนเห็นว่าภารกิจที่พรรคเห็นว่ารัฐบาลต้องทำ คือ ขจัดเงื่อนไขความขัดแย้งด้วยการถอนเรื่องรัฐธรรมนูญและกฎหมายล้างผิดออกไปและเดินหน้าในการแก้ปัญหาประเทศ ส่วนการปรองดองการแก้ไขกฎหมายควรจะเป็นกระบวนการที่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ส่วนเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาในเดือนสิงหาคมแล้วยังมีความจำเป็นต้องเดินสายเปิดเวทีปราศรัยอีกหรือไม่นั้น คงต้อรอดูท่าทีของรัฐบาลเมื่อเปิดสภาก่อน โดยในขณะนี้ประธานรัฐสภายังไม่ได้แจ้งวาระการประชุม คาดว่าจะมีการส่งวาระในวันศุกร์ที่ 27 ก.ค.