“ยิ่งลักษณ์” แนะอย่าตื่นโรคมือเท้าปาก-วอนคนกรุงเห็นใจ เยียวยาน้ำท่วมตามจริง

นายกฯ กลับมาถึงเมืองไทยแล้ว หารือกับ “ยงยุทธ-ปลัด สธ.” ก่อนให้สัมภาษณ์ วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนกโรคมือเท้าปาก ให้ช่วยกันรักษาความสะอาด ส่วนเรื่องเงินเยียวยายันจ่ายตามจริง วอนคนกรุงเห็นใจ สั่งการให้ มท.ไปคุยกับ กทม.ตั้ง “เฉลิม” ตรวจสอบ ขณะที่เรื่องคาร์บอมบ์นราธิวาสทราบเบาะแสแล้ว ให้ จนท.ที่สอบสวน ชี้ไม่ต้องลงใต้ก็ทำงานได้ เกรงเป็นภาระต้องอารักขา


วันนี้ (22 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.15 น.ที่ห้องรับรองวีไอพี ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเสร็จสิ้นภารกิจเยือนประเทศเยอรมันและฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ เดินทางถึงประเทศไทย มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รอรับเพื่อรายงานสถานการณ์บ้านเมืองและสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้ง นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีกรมควบคุมโรค เข้ารายงานสรุปสถานการณ์โรคมือเท้าปาก ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง

จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานสถานการณ์โรคมือเท้าปาก โดยจะมอบให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรงมหาดไทยตรวจสอบเพิ่มเติม และป้องกัน แจ้งโรงเรียนที่มีเด็กเล็กช่วยรักษาความสะอาด และสั่งการให้ดูแลตามจุดสาธารณะที่มีเด็กเล็ก รวมทั้งแนวชายแดนเพื่อป้องกัน ทั้งนี้ขอให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ในภาพรวมให้ประชาชนรับทราบ ให้ล้างมือ ดูแลเรื่องอาหารก็จะปลอดภัย

เมื่อถามว่าในประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตจากโรคมือเท้าปากหรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยังไม่พบ และเชื่อว่าหลังจากกำชับสั่งการแล้วจะได้ผลส่วนหนึ่ง แต่ผู้ปกครองควรระวังเรื่องความสะอาดและการนำเด็กเล็กไปที่สาธารณะ ทั้งนี้สถานการณ์ยังควบคุมได้ และอัตราเฉลี่ยของผู้พบเชื้อไม่ต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก ตนขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และขอให้กันรักษาความสะอาด

ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ทาง กทม.ต้องการอำนาจในการพิจารณาจ่ายเงินเองเหมือนกับพื้นที่ต่างจังหวัดว่า เรื่องที่ กทม.ขอมาเป็นเงื่อนไขที่ต่างจากระเบียบของกระทรวงมหาดไทยที่ขอความร่วมมือในการจ่ายเป็นอัตราเดียวกันทั่วประเทศ มิเช่นนั้นการดูแลพี่น้องประชาชนในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งมีระเบียบของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อยู่แล้ว โดย กทม.ร่วมทำงานกับ ปภ.มีการประชุมกันมาหลายครั้งแล้ว

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ชาว กทม.ออกมาปิดถนนประท้วงจะไกล่เกลี่ยอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า วันนี้ต้องขอความร่วมมือว่าระเบียบเรามีอยู่แล้ว ซึ่งการจะจ่ายตามข้อเท็จจริง ไม่สามารถกำหนดวงเงินขั้นต่ำได้ คงต้องขอความเห็นใจ หากไปกำหนดขั้นต่ำจะลำบาก เพราะในส่วนของต่างจังหวัดทุกที่จะจ่ายตามจริงอยู่แล้ว ถ้าเราร่วมกันใช้ข้อเท็จจริงจะเป็นความยุติธรรมที่ให้เหมือนกัน คงต้องขอความร่วมมือชี้แจงและทำความเข้าใจด้วย เบื้องต้นได้ส่งการให้กระทรวงมหาดไทยประชุมร่วมกับ กทม. เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจในรายละเอียดและเนื้อหา เมื่อถามว่ามีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเราจ่ายตามข้อเท็จจริงตามระเบียบปกติ ซึ่งจ่ายมาหลายสมัยแล้ว ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนั้น แต่บังเอิญปีที่ผ่านมาอาจมีความเสียหายเยอะเลยมีการเรียกร้องมากขึ้น

เมื่อถามว่าการขยายเวลายื่นคำร้องขอเงินเยียวยาสำหรับผู้ที่รายชื่อตกหล่นใน กทม.ที่มีจำนวนมาก ซึ่งกระทวรงมหาดไทยมีข้อสังเกตว่าผิดปกติ จะต้องตรวจสอบหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า บางเรื่องยอมรับว่าเป็นปัญหาจากท้องถิ่นเรื่องการกำหนดระยะเวลาซึ่งพื้นที่ต้องสำรวจให้ทัน แต่กลับไม่สำรวจตามกำหนด เมื่อปิดแล้วให้ขยายเพิ่มก็ต้องคุยก่นว่าจะขยายอย่างไร และมีข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างไร เบื้องต้นไม่ว่าจังหวัดใดหากมีเหตุผลอันควรเราให้อยู่แล้ว ไม่ได้บอกว่าปิดหรือไม่รับ ถือเป็นความเข้าใจผิดในการปฏิบัติ ซึ่งเราชี้แจงไปแล้ว และหาก กทม.มีเหตุผลที่สมควรก็ยินดีที่จะรับเรื่องขอขยายเวลาการยื่นคำร้องออกไออีก แต่ไม่ใช่ขยายจนไม่มีขอบเขตจำกัด เพราะเราต้องปิดงบประมาณรายจ่าย ซึ่งเราต้องทำการจัดสรรงบประมาณต่อ ไม่สามารถเปิดรอโดยไม่มีกำหนดได้ ที่ผ่านมาก็รู้อยู่แล้วว่าพื้นที่ไหนเสียหายก็ต้อชลงไปสำรวจ ไม่ใช่รออย่างเดียว ต้องขอความร่วมมือทั้งสองฝ่าย

เมื่อถามกรณีที่ฝ่ายค้านตรวจสอบว่าท้องถิ่นที่นั่งเทียนสำรวจความเสียหาย นายกฯ กล่าวว่า เราตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ลงไปตรวจสอบเรื่องการเยียวยาเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน

เมื่อถามถึงการเดินทางเยือนประเทศไทยของนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีสหภาพเมียนมาร์ ว่า จะหาเรื่องข้อหาราชการโดยเฉพาะความร่วมมือการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายและต่อขยายไปถึงแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการขอความช่วยเหลือให้ทางพม่าปล่อยตัว 92 คนไทยที่ถูกจับกุมนั้น การดูแลให้ความช่วยเหลือดังกล่าวได้ขอไปยังประธานาธิบดีพม่าไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งการช่วยเหลืออยู่บนหลักการด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้นำพม่ารับปากจะดูแลคนไทยเต็มที่

ส่วนกรณีเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่ จ.นราธิวาส น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ได้รับทราบเบาะแสแล้ว และมอบให้เจ้าหน้าที่สอบสวนอยู่ เมื่อถามว่าหลายฝ่ายเรียกร้องให้นายกฯ ลงพื้นที่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ถ้าลงไปแล้วมีประโยชน์ก็จะลง แต่จริงๆ แล้วตนได้ทำงานติดตามอยู่แล้ว ซึ่งการประชุมกับหน่วยงานต่างๆ เรามีระบบเทคโนโลยี ไม่จำเป็นต้องลงไปและหากมีเวลาที่เหมาะสมก็่อยากลงไป เพราะบางครั้งลงไปขณะเกิดสถานการณ์อาจทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความกังวลในการดูแลความปลอดภัย เราอยากให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังดูแลประชาชนอย่างเต็มที่มากกว่า

จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมายังโรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 12.45 น. เพื่อลงนามถวายพระพร พร้อมนำแจกันดอกไม้ทูลเกล้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ ห้องประชุมสิรินธร อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว